The Privacy Jatujak คอนโดราคาเริ่มต้น 3.29 ล้านบาทที่ผม Surprise มากในความอลังการ และ design ของส่วนกลาง !!! ดีจนอยากบอกต่อเลยครับ !!! ต้องบอกว่าปีนี้ผมดูคอนโดในย่านห้าแยกลาดพร้าวหลายตัวมากเลยแต่ละที่ก็มีจุดเด่น จุดแตกต่างกัน ทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกคอนโดแถวนี้ต้องค่อยๆคิดดีๆ แต่หลังจาก The Privacy Jatujak เปิดตึกให้คนเข้าไปดูแล้ว ต้องบอกว่า คนซื้อมีอาการหวั่นไหวแน่นอนครับ เพราะที่ The Privacy Jatujak เค้าจัดส่วนกลางมาได้ดีทั้งแง่คุณภาพ และ ดีในแง่ปริมาณ ส่วนราคาและ spec ห้องก็ตีโจทย์ออกมาดีได้เลยครับ เป็นอีกคอนโดนึงที่ผมเข้าไปแล้ว ผมชอบเลย ชอบมากจนอยากจะให้เพื่อนๆที่กำลังหาคอนโดลองดู ลองพิจารณาตัวนี้กันครับ // Location \\ มาว่ากันเรื่องทำเลก่อน The Privacy Jatujak ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดี-รังสิต ช่วงขาเข้า จะห่างจากจุดตัดใหญ่ ห้าแยกลาดพร้าวนิดเดียวเองครับ ในย่านห้าแยก ผมว่ามันมีความเป็น เมือง ใน เมือง ที่บอกอย่างนี้เพราะสมัยก่อนเราอาจจะบอกว่า ลาดพร้าว ไกลจัดเลย ทำไมต้องไปอยู่แถวนั้นหล่ะ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แล้วนะครับ ถ้าดูดีๆ ตรงห้าแยกลาดพร้าวเนี่ย มันมีความครบสมบูรณ์ คนอยู่แถวนี้ ก็คือคนที่ทำธุระทุกอย่างได้แถวนี้จบ ไม่ต้องฝ่าฟันเข้าเมืองไปสยามไปสีลม อย่างย่านอื่นนะครับ เพราะ โซนนี้มีทั้งห้างใหญ่ อย่าง Central ลาดพร้าว ( เป็น Central ที่มียอดขายอันดับ2 รองจากแค่ Central World เท่านั้นเองนะ มันแสดงได้ถึงกำลังซื้อของคนแถวนี้นะครับ) และยังมี Union Mall, ตลาดนัดจตุจักรอีก หรือจะมองเรื่อง Office ที่ทำงาน ก็มีสำนักงานใหญ่ของบริษัท Big name ในประเทศเราตั้งอยู่แถวนี้เยอะ มีทั้ง ปตท. , บางกอกแอร์เวย์, การบินไทย, TTB และยังมีตึก Office ใหญ่ๆแบบ Sun tower, เล้าเป้งง้วนโอ้ย office เยอะจริงๆครับ ดังนั้น demand คนทำงานย่านนี้ก็อยากจะหาที่อยู่อาศัยในย่านนี้เยอะเลยครับ ตัวคอนโดตั้งอยู่ห่างจากรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สถานีพหลโยธิน ไปประมาณ 450 เมตร ซึ่งเป็นสายหลักที่สามารถนั่งต่อเดียวเข้าไปได้ถึง อโศก, สีลม ได้เลย โดยโครงการมี Shuttle Bus รับส่งไปยังสถานีMRT ด้วยครับและยังอยู่ในระยะเดินไปถึงรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งก็เป็นรถไฟที่นั่งต่อเดียวเข้าไปถึงสยามได้เลยครับ เรียกว่าจะเดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็สะดวกมากๆนะครับ . ส่วนการขับรถ ก็สามารถใช้ถนนวิภาวดี ขาเข้า ไปขึ้นทางด่วนดินแดง เพื่อเข้าเมืองได้ หรือ จะเข้าไปทางอารีย์จตุจักร ทางด่วนขั้นที่ 2 ก็สามารถวนรถเข้าไปในซอย เพื่อย้อนมาเข้าทางถนนพหลโยธินได้ด้วยครับ เอาว่าอยู่บนถนนใหญ่ เดินทางสะดวกครับ // แนวโน้มการพัฒนาของพื้นที่ \\ ถ้าเรามองถึงอนาคตของคอนโดในโซนนี้ ผมว่าแนวโน้มดีมากเลย เพราะในจตุจักร ห้าแยกลาดพร้าว พหลโยธินมันจะมีที่ดินแปลงใหญ่ๆที่พร้อมรอการพัฒนาออกมาเป็นโครงการใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็น หมอชิต complex ที่ตอนนี้กำลังก่อสร้างอยู่ , ที่ดิน 47 ไร่ของทางกลุ่ม Central ที่อยู่ติดทั้งถนนพหลโยธิน และถนนวิภาวดี (ที่อาจจะถูกขึ้นเป็นmix used project มูลค่าหลักหมื่นล้านในอนาคต) หรือจะเป็นอาคารสำนักงานเกรด A อย่าง S-Oasis ก็กำลังจะเสร็จใกล้เปิดใช้งานแล้วครับ เอาว่าโดยรวมๆคือ ถ้าเราถือ The Privacy Jatujak เอาไว้ รอให้พวก project เหล่านี้มันขึ้นเป็นรูป เป็นร่างมากขึ้น มูลค่าของทำเลก็จะยิ่งวิ่งไปไกลมากขึ้นครับ // การออกแบบ \\ The Privacy Jatujak เป็นคอนโดแบบ High rise จำนวน 34 ชั้น สร้างอยู่บนที่ดินประมาณ 3 ไร่กว่า มีจำนวน Unit ประมาณ 832 ยูนิต โดยรวมๆถือว่า เป็นโครงการที่หลวมๆไม่ได้หนาแน่นนะครับ และเค้าใช้ผู้ออกแบบฝีมือสูงอย่างPalmer and Turner บวกกับ Interior designer อย่าง VAIR และ Landscape จาก TK โดยโครงการนี้การันตีด้วยรางวัล Asia Pacific Property Awards 2022 คือ จากที่ผมเข้าไปดูนะ ที่นี่สวยตั้งแต่สวนด้านนอก Exterior ตัวตึกสีเข้มๆมีการซ่อนไฟในแนวตั้ง ส่วนกลางด้านบนก็ออกแบบเป็น sky cube เหมือนเอากล่องกระจกมาวางไว้บนสุดของตึก ยิ่งดูสวยครับ ตัว Interior ก็ใช้วัสดุอย่างดีมีทั้งหินอ่อน Phantom White, White Onyx (หินอ่อนเรืองแสง) แสตนเลสสีทองแดง และสี Accent อย่างสีแดงกับสีน้ำเงิน ให้ feeling แบบเดียวกับโรงแรม 5 ดาวเลยครับ ที่ The Privacy Jatujak ถือว่าเป็นคอนโดที่สวย เกินราคาจริงๆครับ (ลองดูในภาพได้ ถ้าไปดูตึกจริงจะได้ยิ่งรู้สึก Wow ครับ) นอกจากคุณภาพจะคับแก้วแล้ว ปริมาณของส่วนกลางก็ให้มาเยอะมากๆ อย่างพวกที่นั่งทำงาน มีเยอะมาก อยู่ตั้งแต่ชั้น 1,2,3 และ 34 หรือแม้แต่ดาดฟ้าก็ยังมี! ให้คุณลูกบ้านมานั่งพักผ่อน นั่งทำงาน นั่งคุยกับเพื่อนๆ ได้อย่างเหลือเฟือจริงๆครับ ยังไงเดี๋ยวผมไล่พูดถึงส่วนกลางเป็นจุดๆตามนี้เลยครับ ชั้น 1 จะเป็น lobby lounge เพดานสูงกว่า 5.2 เมตร ตกแต่งอย่างหรู มี sofa มีที่นั่งกระจายอยู่เป็นจุด ใช้งานกันได้เต็มที่ และกระจกเป็นบานเต็มทำให้แสงธรรมชาติเข้ามา ยิ่งทำให้ lobby ดูสว่างดูสวยครับ เดินเข้ามาถึงจะเจอกับบันไดวนที่ใช้หินอ่อน Phantom White ต่อลายมาทำเป็นบันไดโค้ง พอเราขึ้นไปชั้น 2 ซึ่งจะเป็นส่วนกลางแบบที่เปิด24 ชั่วโมง ซึ่งชั้น 2 จะเป็น E-Library มีที่นั่ง มีโต๊ะทำงาน มีจอ TV ให้ต่อใช้เป็น second screen ได้ ผมว่าทำออกมาได้ดีเลยครับ น่าใช้งาน ตอบโจทย์คนที่ทำงานแบบ work from home ก็มาใช้ห้องนี้ได้เลย พอเดินขึ้นไปชั้น 3 จะเป็น Meeting room ที่เปิด 24 hr. เช่นกัน ซึ่งจะมีโซนห้องประชุม พร้อมsmart whiteboard เอาไว้นั่งคุยงานกันได้แบบ 10 คนเลยครับ . นอกจากนี้ที่ด้านหน้าโครงการยังมีสวน Hidden …
ปกติเวลาผมดูคอนโด เรื่องทำเล กับ ราคาจะเป็นเรื่องแรกๆที่ผมให้ความสำคัญนะครับ ต้องบอกตามตรงว่า ผมค่อนข้าง surprise กับตัวคอนโด Aspire รัชโยธินนะครับ ผมว่าทาง AP เค้าทำโจทย์เรื่องราคา และเลือกทำเลมาได้ดีจริงๆครับ เราลองมาไล่ดูรายละเอียดกัน ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาทำเลที่ถือว่าเป็นพื้นที่ใหม่ ที่ได้รับความสนใจคือโซนห้าแยกลาดพร้าว ไล่มาจนถึงสี่แยกรัชโยธิน เพราะใน zone นี้ได้รับผลดีจากรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ต่อขยายวิ่งตรงมาจากสยาม ตรงไปออกเกษตร ออกนอกเมืองได้เลย ดังนั้นคนอยู่ในย่าน รัชโยธินจะเข้าจะออกเมืองก็สะดวกมากยิ่งขึ้น เราเลยได้เห็นคอนโดที่เปิดตัวในย่านห้าแยก-รัชโยธินที่มีราคาวิ่งไปสูงถึงตารางเมตรละเกือบจะสองแสน หรือไม่ที่จะกลางๆหน่อยก็ตารางเมตรละแสนกลางๆ แต่หลังจากที่ผมได้ดูรายละเอียดของ Aspire รัชโยธิน เค้าเปิดราคามาแค่ 8 หมื่นกว่าบาทต่อตารางเมตร หรือราคาห้องเริ่มต้นอยู่ที่ 2 ล้านต้นๆ ถือว่าถูกกว่าคอนโดในย่านนี้เกือบครึ่งนึงเลย !! และทำเลก็ไม่ได้ไกลจากรถไฟฟ้า BTS สถานีรัชโยธินเลย อยู่ห่างแค่ 350 เมตร โดยคอนโดนี้จะตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 35 (เดินเข้ามาในซอยประมาณ 200 เมตร สบายๆครับ ) ดู youtube …
ผมได้มีโอกาสเข้าไปดูรายละเอียดของคอนโดนี้ผม ผมว่ามีหลายอย่างที่น่าสนใจมากนะครับ ไม่ว่าจะเป็น location ที่ถือว่าโดดเด่นอยู่ติดถนนสุขุมวิท main road เลย ห่างจาก BTS เอกมัย 250 เมตร เป็นคอนโดที่มีการออกแบบมาดีมาก ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของคนในทุกๆ generation เลย เรียกได้ว่าอยู่ได้ตั้งแต่วัยเด็ก-วัยรุ่น-วัยทำงาน-วัยเกษียณ เลย ที่นี่เค้าเน้นคุณภาพงานก่อสร้างด้วยการรับประกันถึง 30 ปี* และ MQDC เค้าคิดรายละเอียดทั้งในส่วนกลาง และในห้องมาอย่างดีมากๆ อยู่แล้วมีความสุข สุขภาพแข็งแรงแน่นอน มาว่ากันในรายละเอียดแล้วกัน // Location \\ ตัวคอนโด Mulberry Grove Sukhumvit ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท main road ติดถนนใหญ่เลย อยู่ช่วงขาออก เลย BTS เอกมัยมาประมาณ 250 เมตร ถ้าเพื่อนๆลองมองหาคอนโดที่จัด segment มาดีๆ อยู่ติดถนนสุขุมวิท จริงๆแล้วตัวเลือกไม่ได้เยอะนะครับ ในมุมมองผมช่วยถนนสุขุมวิทตั้งแต่ อโศก ไล่ไปจนถึง เอกมัย …
Culture Chula คอนโด rare item บนถนนพระราม 4 – Editor’s choice! … ถ้าคิดว่าในปีนึงคอนโดใหม่ๆเปิดตัวมากมาย แล้วเราจะเลือกซื้อคอนโดดีๆสักที่ ทำเล คงจะเป็นจุดตัดสินใจหลักเลย ซึ่งในมุมมองผม Culture Chula เป็นคอนโดที่ทำเลดีโคตร! และบวกกับทางอนันดาเค้าออกแบบให้ทุกห้องเป็นห้องแบบ Hybrid เพดานสูง ในราคาตารางเมตรละ 200,000 บาท บวก ลบ ผมก็ไม่แปลกใจด้วย pack ของทำเล, ราคา, การออกแบบ ตัว Culture Chula จะมีกระแสที่ดีแบบสุดๆ เรียกได้ว่า sale office คนเต็ม คนแน่นตั้งแต่เช้าถึงดึกเลยครับ ทีนี่เกริ่นมาเยอะแล้ว มาดูกันดีกว่าว่าทำไม ผมถึงได้ชอบที่นี่สุดๆ และคิดว่าเป็น คอนโดระดับ Editor’s choice ที่ไม่ซื้อคือพลาด! ของปี 2022 เลยครับ มาดูรายละเอียดกันเลยครับ // Location \\ คอนโดที่ดี ที่ Classic ต้องเริ่มกันที่ทำเลก่อนเลยครับ ผมว่าเราซื้อคอนโดคือ เราเลือกทำเลก่อน ว่าเราคิดว่าทำเลมีศักยภาพ อยู่ได้สบาย ใกล้แหล่งงาน ใกล้ห้าง ใกล้สถานศึกษา ซึ่ง Culture Chula ตั้งอยู่บนถนนพระราม 4 ช่วงใกล้ๆสามย่านครับ ถ้าเพื่อนๆคุ้นเคยกับคอนโดของทางอนันดาอยู่แล้วน่าจะรู้จัก Ashton Chula Silom และ IDEO Q Chula Samyan ซึ่งทาง Culture ก็ทำเลประมาณเดียวกับ Ashton Chula Silom เลย คืออยู่ห่างจาก MRT สถานีสามย่านประมาณ 300 เมตร และ ห่างจากสถานีศาลาแดงประมาณ 300 เมตร ต้องบอกตามตรงว่าด้วยทำเลแบบนี้ถ้าเพื่อนๆมองไปรอบๆ มันหาที่ดินเพื่อทำโครงการยากมากๆเลยนะครับ ยิ่ง project ที่เป็น Freehold แบบนี้ผมว่ายิ่งหายากเลยครับ ที่ผมบอกว่าทำเลดีเพราะอะไร? ก็เพราะ Culture Chula นั้นอยู่ในระยะเดินที่จะเดินไป สวนลุม เดินไป Samyan Mitrtow เดินไปจุฬา เดินไป Dusit Central Park เดินไป MRT ได้ทั้ง 2 สถานี เดินไปโรงพยาบาลจุฬาคือว่ามันสะดวกแบบสุดๆไปเลยครับ https://goo.gl/maps/LXE7CnViNTAjrxiB6 ในแง่การขับรถ การอยู่คอนโดบนถนนเส้นหลักอย่างพระราม 4 ก็ทำให้เราเดินทางง่ายนะครับ จะวิ่งไปขึ้นทางด่วนก็ใกล้ๆ จะวิ่งเข้าไปสยาม จุฬา ก็แค่นิดเดียว หรือ จะย้อนไปทางสีลม สาทร สุขุมวิท ก็สามารถจะวนไปที่ U-turn แล้วขึ้นสะพานยกระดับไปได้เลย เอาว่าสะดวกมากๆครับ คือมันอยู่ใจกลางเมืองของจริงอ่ะ ดังนั้นจะวิ่งไปทางไหนก็ไม่ไกลครับ ยิ่งถ้าเรามอง demand ของทำเลนี้ ก็จะมีทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา (แถวนี้โรงเรียนดีๆเยอะ) จะมีทั้ง Expat ที่หาที่อยู่ใกล้ Office จะมีทั้งบุคลากรทางการแพทย์ (หมอๆนี่คือชอบซื้อคอนโดมากๆเลยนะครับ) จะเห็นได้ว่าทำเลมันมีศักยภาพมากๆเลยครับ . หรือถ้าเราแอบมองถึงคอนโดคู่แข่งของ Culture Chula ก็ต้องบอกว่าล้วนแล้วแต่มีทำเลที่ด้อยกว่าทั้งนั้น คือจะกระเถิบออกไปทางสะพานเหลือง หรือไม่ก็เป็นคอนโดตั้งอยู่ในถนนสี่พระยา ซึ่งเป็นถนนเส้นรอง สภาพทำเลสู้Culture Chula ไม่ได้จริงๆครับ // แนวโน้มการพัฒนาของพื้นที่ \\ ต้องยอมรับเลยว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า Mega project ที่เปิดตัวมาแล้วบนเส้นพระราม 4 จะเสร็จพร้อมๆกันถึง 2 โครงการ อันได้แต่ Dusit Central Park และ One Bangkok ซึ่งทั้ง 2 ตัวนี้จะทำให้ทำเลของ Culture Chula ดูดีขึ้นไปอีกหลายเท่าเลยครับ มาดูกันที่ Dusit Central Park ก่อนดีกว่า เพราะเป็นทำเลที่อยู่ใกล้กับ Culture Chula มาก โดยโครงการนี้จะเป็น Mix used มีทั้ง ห้าง Central (ที่ผมดูรายละเอียดมาคือขนาดจะใหญ่อารมณ์ประมาณ Central Embassy เลยครับ เดินเที่ยว หาของกิน ของใช้กันได้จุใจเลย และมีสวนสาธารณะอยู่ด้านบนให้คนมาใช้ออกกำลังกายได้ด้วย) , Office เกรด A (ก็จะเป็นที่มาของ Expat ที่จะมี demand ในการหาที่อยู่อาศัย), โรงแรม, คอนโดแบบLeasehold (ราคาเค้าอยู่ประมาณ 300,000 บาทต่อตารางเมตร และไม่ได้ freehold นะครับ คิดง่ายๆว่ากระเถิบมาที่Culture Chula ห่างออกมานิดเดียว ได้เป็นคอนโด Freehold ด้วย แค่นี้ Cultrue ก็ดูคุ้มสุดๆแล้วครับ) ถัดมาก็จะเป็นส่วนของ One Bangkok ที่อยู่บนถนนพระราม 4 เช่นกัน อันนี้ก็จะเป็น project ใหญ่สุดในประเทศไทยที่ลงทุนด้วยภาคเอกชน (ฟังแค่นี้ก็รู้แล้วว่าอลังการสุดๆครับ) ที่นี่จะเป็น mix used เช่นกันครับ มี Office เกรด A, โรงแรม 5 ดาว, ห้างขนาดใหญ่ น้องๆ Paragon, คอนโดแบบ Leasehold ราคาก็น่าจะประมาณ 300,000 บาทต่อตร.ม. นี่ยังไม่นับ project ใหม่ๆที่ทางจุฬา เค้าจะพื้นที่หลายๆ block ที่เค้ามีออกมาประมูลให้ เอกชนมาสร้าง project ต่างๆ(อย่างล่าสุดเห็นทาง MQDC เค้าได้ที่ดินขนาดใหญ่ตรงบรรทัดทองไป น่าจะทำเป็น Mix used เน้น medical อีก) จะเห็นได้ว่า ศักยภาพของทำเลแถว Culture นั้นเหลือล้นจริงๆครับ และที่สำคัญคือ ณ วันที่คอนโดเราสร้างเสร็จอีกประมาณ 3 ปี (ประมาณปี 68) พวก project ที่ผมเล่าๆมาเนี่ย มันจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว ยิ่งจะทำให้ภาพทำเลมันเปลี่ยนไปอีกเยอะแน่นอนครับ …
สำหรับเพื่อนๆที่ติดตามเพจผมมาเรื่อยๆก็คงจะเห็นว่าผมมีห้องที่โน่นที่นี่หลายห้องซึ่งแต่ละห้องก็ซื้อมาด้วยช่วงเวลาจังหวะและเหตุผลที่แตกต่างกันครับบางห้องซื้อมาแล้วก็รู้สึก Happy ดีนะครับแต่บางห้องซื้อมาแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจเหมือนกันครับเรามาไล่ดูกันดีกว่าอะไรทำให้ผมไม่สบายใจแล้วอะไรมันเป็นความผิดพลาดในการซื้อคอนโดของผมเผื่อเพื่อนๆอ่านกันแล้วจะเอา lesson learn เหล่านี้ไปปรับใช้กันบ้างเนอะ .1. ตัดสินใจเร็วไป … คือความเร็วในการตัดสินใจ มันก็แปรผันการข้อมูลที่เราใช้ประกอบใจการตัดสินใจเนอะ ยิ่งซื้อเร็วเท่าไหร่ ก็เท่ากับว่ามีเวลาในการ research น้อยเท่านั้น ส่วนตัวผมอาจจะดูโครงการมาเยอะ พอเห็นคอนโดอะไรลดราคา หรือว่าเค้าทำอะไรพิเศษมากๆ ผมก็จะรู้สึกได้ว่า deal นี้มันดี น่าจะต้องซื้อเอาไว้ คอนโดบางห้องผมตัดสินใจซื้อแบบปุ๊บปั๊บ คุยกับเซลล์แล้วก็ซื้อเลย จำได้ว่าอย่าง Park24 ที่ซื้อ ก็ซื้อเพราะเห็นคนขายขายราคาดีมาก ได้ห้อง 30 ตร.ม.ด้วย ก็เลยจัดเลย เบ็ดเสร็จใช้เวลาตัดสินใจแค่ 2-3 วันเท่านั้นเอง หรือจะเป็นตอนนั้นไปจอง Noble Around Ari ก็คุยกับเซลล์ตอนเช้า ตอนบ่ายๆก็ชวนแฟนเข้าไปดูแล้วก็จอง … ตัวเองก็ยังแอบงงๆว่าซื้ออะไรมานะ 555 คือแค่จะบอกว่า ตัดสินใจเร็วไป พอเวลาผ่านมานานๆ เริ่มมาผ่อนดาวน์ เริ่มเวลาเปลี่ยนไป ผมก็เริ่มเปลี่ยนความรู้สึก อาจจะคิดว่า ไม่อยากได้ห้องนี้แล้ว หรือ ว่าเราน่าจะเก็บเงินเอาไว้ซื้ออย่างอื่นดีกว่า …
ถ้าเราพูดถึงย่านเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา เราจะคิดถึงบ้านหรู ระดับราคาหลังละ 100 ล้านบาท++ เราจะคิดถึงแหล่ง Lifestyle ที่ครบครันทั้ง Central Eastville, Crystal Design, Crystal Park และเป็นย่านที่เข้าเมืองมาทาง เอกมัย ทองหล่อ ได้อย่างรวดเร็ว ทาง noble เค้าเพิ่งจะได้ผืนที่ดินขนาดใหญ่ระดับ 60 ไร่ติดถนนเลียบทางด่วน เอกมัย-รามอินทราเลย และเค้าก็จะนำเอาบางส่วนมาพัฒนาเป็นคอนโดรูปแบบ Highrise อาคารสูง (แห่งแรกในย่านนี้) ด้วยราคาเริ่มต้นที่แสนจะจับต้องง่าย เพียงแค่ 1.99 ล้านบาท ผ่อนเดือนละ 5,200 บาทเท่านั้น ลงทะเบียนรับส่วนลดพิเศษได้ที่นี่ครับ https://nobleurl.com/3mxlIMl วันเสาร์-อาทิตย์นี้ (18-19 มิ.ย.) โครงการมีจัด Event ที่ Sale Gallery พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ รับส่วนลด 100,000 บาท ฟรีเฟอร์ + เครื่องใช้ไฟฟ้าสูงสุด 30 รายการ* แค่ …
125 Sathorn เป็นอีกคอนโดที่ผมชอบเลยนะครับ … โดยส่วนตัวแล้วผมคุ้นเคยกับทำเลสาทรมาตั้งแต่เด็กๆนะเรียนก็เรียนอยู่แถวนี้ดังนั้นพอได้ข่าวว่าจะมีคอนโดมาเปิดใหม่บนถนนสาทรผมก็ตื่นเต้นและอยากจะเข้าไปดูสุดๆครับสำหรับ 125 ผมว่าทำเลเค้าถือว่า OK เลยนะครับเพราะทั้งติดถนนใหญ่ (สาทร) และอยู่ในระยะเดินไป BTS ช่องนนทรีย์ได้สบายๆตัวคอนโดนี่มีหลายสิ่งที่ผมชอบนะขอสรุปเป็นข้อๆแล้วกันนะครับ 1. ส่วนกลางให้มาเยอะ และหลากหลาย เกือบจะที่สุดของคอนโดบนเส้นสาทรแล้ว ผมลองมาคิดเทียบๆดูผมว่า 125 ส่วนกลางชนะทุกคอนโดในสาทรเลยนะครับ สาเหตุที่ผมพูดอย่างนั้น ผมว่าเค้าทำส่วนกลางมาได้เยอะ มาขนาดที่ดี อย่างพวก courtyard ระหว่างตึกก็สวย จะสร้างบรรยากาศให้เวลาเข้ามาในคอนโดแล้วมันดู relax ด้วยพื้นที่โครงการที่มีมากกว่า 3 ไร่ มันจะทำให้ได้ความ grand และส่วนกลางชั้นสระว่ายน้ำก็ดูกว้างสวยมากๆ ได้สระแบบ 50 เมตรยาวเลย แถมยังมี co-working space มีสระเด็ก มีห้องซ้อมดนตรี มีห้องเด็ก มีอะไรหลายๆอย่างที่ตอบโจทย์การอยู่แบบเป็นครอบครัวครับ และมีส่วนกลางที่ผมไม่เคยได้ยินอย่างห้อง Maid quarter ที่จะให้แม่บ้านไป hangout ในห้องนั้นได้ ผมว่าดีนะ เพราะหลายๆคนมีแม่บ้าน แต่ไม่ได้มีที่ให้เค้าอยู่ หรือจะเป็นชั้นดาดฟ้าของแต่ละตึกก็มีห้อง sky …
ต้องบอกว่าแยกพระราม 9 ถือว่าเป็นย่าน New CBD จริงๆครับ เพราะเต็มไปด้วย ห้างหรู ตึก Office และ Mega-project ในอนาคต จะเดินทางเข้าอโศก เข้าในเมืองก็ง่าย ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เราจะเห็นคอนโดหลายๆตัวมาสร้างรอบๆแยกพระราม 9 และคอนโดตัวล่าสุดที่มาเปิดตัวก็คือ NUE District R9 โปรเจ็คคอนโดใหม่จากทาง noble ซึ่งส่วนตัวแล้วผมมีห้องของ noble หลายที่นะ หิหิหิ ผมว่าซื้อแล้วสบายใจดีเพราะเชื่อมั่นได้ในการเลือกทำเลที่ดีมากๆ, การออกแบบแนว modern minimal ที่ timeless และเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งผมว่า NUE District R9 มีรายละเอียดที่น่าสนใจหลายจุดนะครับ ถ้าสนใจลงทะเบียนได้ที่ https://nobleurl.com/3Bb9VKs มาว่ากันเรื่อง basic fact นิดนึงของ NUE District R9 นะครับ ตัวคอนโดสร้างบนพื้นที่ 8ไร่ (ใหญ่มากๆ) อาคารจะแบ่งออกมาเป็น 2 ตึกคือ ตึก R (สูง33ชั้น) และ ตึก 9 (สูง41ชั้น) โดยจะมี Podium ชั้น 1-7 ที่เชื่อมกันทำให้ลูกบ้านสามารถไปใช้งาน facility ได้ทั้ง 2 ตึกเลย ทั้งโครงการมีจำนวนห้องพัก 1,441 ยูนิต + 1 ร้านค้า (ถ้ามองจำนวนห้องอาจจะเห็นว่าที่นี่เป็น project ใหญ่นะครับ แต่เทียบกับพื้นที่ 8 ไร่ >> เท่ากับคอนโดมี 180 ยูนิต ต่อไร่ ก็คือว่าไม่ได้แน่นอะไรมากมายนะครับ และยิ่งดูจำนวนส่วนกลางแล้ว จะยิ่งรู้สึกว่า ใช้งานกันได้พอเพียงแน่นอนครับผม) มีที่จอดรถประมาณ 40% หรือประมาณ 600 คัน (ในความเห็นผมนะ ผมว่าที่จอดที่นี่น่าจะไม่เต็มง่ายๆ เพราะด้วยทำเลที่ใกล้รถไฟฟ้า 180เมตร และห้องบางส่วนที่เป็นต่างชาติมาซื้อ หรือเป็นคนเช่าในย่านพระราม 9 ไม่จำเป็นต้องใช้รถกันครับผม) ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการอยู่ที่ประมาณ 13X,XXX บาทต่อตารางเมตร ต้องบอกว่าราคาดีมากๆ (ดีกว่าคอนโดเพื่อนบ้านหลายตัวเลย!!!) และยิ่งเราเห็น pack ราคาห้องไม่ใหญ่ จับต้องได้ง่าย ยิ่งทำให้ NUE District R9 น่าสนใจครับ ส่วนกำหนดสร้างเสร็จอยู่ที่ต้นปี 2568 อีกประมาณ 3 ปี ผมว่า …
ตามหาคอนโด #ห้องใหญ่ #ใจกลางเมือง #อารมณ์เหมือนอยู่บ้าน ที่งบ 20 ล้านบาท (บวก/ลบ) …. จริงๆสมัยนี้ถ้าเพื่อนๆจะหาบ้านเดี่ยวทำเลดีๆ เข้าเมืองสะดวกผมว่าต้องมีเงินสัก 20-30 ล้านบาทถึงจะซื้อได้ แต่ถึงจะซื้อได้ ทำเลบ้านก็ต้องออกนอกเมืองแบบพวกบางนา , พระราม 2, ราชพฤกษ์, กรุงเทพกรีฑา, etc. เอาว่าบ้านเดี่ยวราคามันก็เพิ่มขึ้นมาเยอะ จนทำเลที่อยู่ไกล กลายเป็นบ้านราคาที่สูงขึ้น ดังนั้น ถ้ามาลองมองว่า เราสามารถจะหาคอนโดอะไรที่มันอยู่กลางเมืองได้ แล้วมันอยู่กันอย่างเป็นครอบครัวได้ สัก 3 ห้องนอน ขนาด 100 ตร.ม. (+/-) ถ้ามีงบเดียวกับซื้อบ้านได้ 20 ล้าน (+/-) ผมว่ามันก็น่าจะเป็น ไอเดียในการหาที่อยู่อาศัยที่ดีนะครับ คอนโดอาจจะไม่ได้พื้นที่ใหญ่เท่ากันบ้าน แต่เราก็แลกด้วยความสะดวกในการเดินทาง การใช้ส่วนกลางง่ายๆ ก็มองลองดูกันครับ …. ถ้าเราวิเคราะห์ง่ายๆนะครับ 20 ล้าน เราหา 100 ตร.ม. ดังนั้น คอนโดที่อยู่ใน range …
หลังจากที่ได้ยุ่งเกี่ยวกับวงการคอนโด อสังหา ก็ทำให้ผมพอจะได้เห็นศักยภาพในการทำเงิน การทำงานแบบแลกกับเงิน การหาเงินมาจากการประกอบธุรกิจจริงๆมันเป็นอย่างไร (ก่อนหน้านี้ผมก็ทำงานกินเงินเดือนกันไป ไม่ได้คิดอะไรมากมาย) ถือว่าเป็น lesson learn ที่ได้มาทั้งโดยความเจ็บปวด และความสนุกครับ เราทำงานไปหาเงินกัน หาเงินให้มากๆ ก็ไม่รู้จะเอาเงินไปใช้ทำอะไรเหมือนกัน 555 แต่ที่แน่ๆ เพราะเจ้า “เงิน” นี่หล่ะที่ทำให้คนสังคมเดินไป หลายๆคนทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปก็เพื่อหาเงินกัน วันนี้ผมเลยจะมาแชร์ข้อคิด บทเรียนที่ผมได้จากการหาเงิน ให้เพื่อนๆฟังกันนะครับ . คนเราไม่มีวันพอ !!! เราไม่มีวันมีเงินเยอะพอ เพราะเราจะเทียบกับคนที่มีเงินเยอะกว่าเสมอ อันนี้ก่อนหน้านี้ผมไม่เชื่อนะ แต่พอเราหาเงินได้เยอะขึ้นจริงๆ อย่างแต่ก่อนหาลูกค้ามาได้ บอกได้ค่าดำเนินการ 50,000 บาท เราก็คิดว่า ตัวเลขนี้มันเยอะแล้วนะ แต่พอทำไปทำมา ก็รู้สึกว่า 50,000 บาทมันกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ทำไมเราไม่สามารถหาเงินได้ทีละ 100,000 บาท หรือ 200,000 บาทหล่ะ มันจะเกิดคำถามแบบนี้ขึ้นมา หรือ พอเราคิดจะซื้อคอนโดเราก็มองว่าคอนโดห้องละ 5 ล้านบาท มันก็ได้สิ่งที่ ok แล้วนะ …