รีวิวคอนโด Chewathai Hallmark เอกมัย-รามอินทรา – ทำเลเดินทางสะดวก Layout หน้ากว้าง ส่วนกลางจัดเต็ม เริ่มต้น 1.89 ลบ* สำหรับใครที่กำลังหาคอนโดที่มีราคาเริ่มต้นไม่สูงนัก แต่อยากจะเดินทางเข้าเมืองสะดวกๆ ทำเลตั้งอยู่ถนนนวลจันทร์ (แถวๆเกษตรนวมินทร์) ใกล้ๆก็มีทั้งตลาด ห้างใหญ่ โรงเรียน โรงพยาบาล มากมาย ขึ้นทางด่วนก็ง่าย ผมว่าต้องลองมาดูที่ Chewathai Hallmark เอกมัย-รามอินทรา ครับ โครงการนี้เป็นคอนโดแบบ Low rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร (ตึก A มี 210 units) (ตึก B มี 203 units) รวม 413 units สร้างอยู่บนพื้นที่ดิน 4 ไร่ 2 งาน 6.8 ตารางวา ที่จอดรถประมาณ 37% ห้องจะเน้นไปที่ห้องแบบ One bedroom ขนาดเริ่มต้นที่ 25 ตารางเมตร
ทำเลที่ตั้งอยู่บน ถนนนวลจันทร์ ใกล้ๆกันกับถนนเกษตร-นวมินทร์ ซึ่งถือว่าเดินทางเข้าออกถนนใหญ่ทั้งสองได้สะดวกมากๆเลยครับ ถ้าใครจะเดินทางเข้าเมือง จะไปเอกมัย, สุขุมวิท, พระราม 9 ก็สามารถจะขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ได้ง่ายๆเลย (พิกัดคอนโดตามนี้เลย)
.
ใกล้ๆคอนโดก็ยังใกล้กับ ห้างใหญ่ๆอย่าง CDC, Central Eastville , ตลาดปัฐวิกรณ์, ตลาดหัวมุม เอาว่าแถวๆนี้อยู่สบายๆเลยครับ นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลนวเวช, โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์, โรงเรียนเลิศล้า, โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี)2 และในอนาคตห่างจากคอนโดไป 500 เมตร ก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล สถานีนวลจันทร์อีกครับ
ในมุมมองการออกแบบ โครงการ Chewathai Hallmark เอกมัย-รามอินทรา เค้าจะเว้นพื้นที่ด้านหน้าโครงการเอาไว้เป็นสวน และพื้นที่จอดรถ ทำให้อาคาร A กระเถิบห่างจากถนนมา ได้ความเป็นส่วนตัว และจะมีการจัดวางให้อาคาร A และ B มีการเว้นระยะตรงกลาง เพื่อวางส่วนกลางไว้ใน court ในโครงการครับ ซึ่งส่วนกลางจะมาใน Concept Summer Resort เน้นความรู้สึกผ่อนคลาย ให้ผู้อยู่อาศัยอยู่แล้วเหมือนอยู่โรงแรมพักตากอากาศในทุกๆวันครับ ปริมาณส่วนกลางก็ถือว่าจัดเต็มเลยนะครับ มีด้วยกันมากกว่า 14 รายการ ผมว่าส่วนที่เป็น highlight เลยก็จะเป็น
Lobby ที่มีในทั้งตึก A,B มาด้วย theme สีสดใส ดูเพลินตา
Co-Working Space – ห้องทำงานขนาดใหญ่ แบ่งส่วนที่นั่ง กระจายหลายจุดดีครับ
Private Meeting Room – ห้องประชุม เอาไว้นั่งคุยกับเพื่อนๆ หรือนัดทีมงานมาประชุมกันได้ครับ
Creative Pod (Live & Streaming Room) – ห้องที่เอาไว้ live ขายของได้, นั่ง Streaming หรือจะไว้ใช้ถ่ายรูปสินค้าก็ได้ครับ ผมว่าตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ดีนะ
Clubhouse – เป็นอาคารตรงกลางระหว่างตึก A กับ B ครับ
Vacation Pool – ยาว 25 เมตร และด้วยความที่อยู่ตรงกลางระหว่างอาคาร ถ้าเราเลือกห้องชั้นดีๆ วิวใน เราก็ได้ take วิวสระว่ายน้ำยาวๆด้วยนะครับ
Fitness Pool View – เป็นห้องที่ใช้ออกกำลังกายไป ดูวิวสระว่ายน้ำไปครับ ภายในตกแต่งดู active น่าใช้งานครับ
.
// แบบห้อง \\
รูปแบบห้องที่ Chewathai Hallmark เอกมัย-รามอินทรา เป็นห้อง One bedroom ทั้งโครงการมีแค่ 4 type เลยเลือกไม่ยากครับ เพดานห้องสูง 2.4 เมตร ภายในห้องก็จะมีชุดเคาท์เตอร์ครัวพร้อมเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันมาให้ครบ มีตู้เสื้อผ้า built-in มาให้ ส่วนในห้องน้ำก็ให้มาครบแล้วทั้ง อ่างล้างหน้า ฉากกั้นอาบน้ำ สุขภัณฑ์ มาไล่ดูรายละเอียดในแต่ละ layout ดีกว่าครับ
.
One Bedroom 25.16 ตารางเมตร
ห้องนี้เป็นของขนาดเริ่มต้นของโครงการ ด้วยพื้นที่ 25.16 ตารางเมตร แต่เราได้ห้องแบบ One Bedroom ที่มีการกั้น zone living กับ bedroom อย่างเป็นสัดส่วนเลยครับ เดินเข้ามาในห้องเราจะเจอกับ living room ที่มีระยะดู tv ที่ห่างระดับนึง sofa กับโต๊ะทานข้าวก็วางไว้ข้างกันได้ ครัวจะกั้นด้วยบานเลื่อนแบบ 3 ตอน (ทำให้ตอนเปิดสุด ทางเดินจะกว้างสุดๆครับ) ชุดครัวมีให้ครบ อยู่ติดกับระเบียง เวลาทำอาหาร ก็สามารถจะปิดบานเลื่อนไม่ให้กลิ่นเข้าในห้อง และเปิดบานเลื่อนที่ระเบียงให้กลิ่นไหลออกไปนอกห้องได้ครับ ในส่วนของห้องนอน ก็มีขนาดกำลังดีนะครับ วางเตียง Queen size ได้ มีตู้เสื้อบ้านเก็บของได้เยอะจัดมาให้แล้วครับ ส่วนห้องน้ำก็ขนาดกำลังดีครับ ดูดีเลย ถ้าคิดว่าพื้นที่ 25.16 ตร.ม.เราได้ function การใช้งานครบครันขนาดนี้ผมว่า layout นี้ดีเลยครับ ด้วยราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท ก็คือว่าเป็นห้องที่คุ้มค่ามากๆครับ
ดู VDO ที่ผมพาทัวร์เอาไว้ได้เลยครับ
.
One Bedroom Exclusive 30.07 ตารางเมตร
ห้องนี้เป็น type หลักของโครงการ (มีปริมาณมากที่สุด) และเป็นรูปแบบห้องที่ผมว่าลงตัวมากๆเลย ขนาดไม่ใหญ่นัก ได้ function ครบ จริงๆในเชิง function ห้องนี้ก็คล้ายๆกับห้องแบบ 25.16 ตารางเมตรนะครับ แต่ขนาดที่เพิ่มมาทำให้รูปแบบการใช้งานมันลงตัวมากยิ่งขึ้น อย่างเช่น ห้อง living room ระยะดู TV คือถือว่าไกลมากๆ เราสามารถวาง sofa แบบ 2-3 ที่นั่งได้สบายๆเลย ในห้องครัวก็กั้นด้วยบานเลื่อน 3 ตอน แต่พื้นที่ห้องครัวจะใหญ่ขึ้น เราวางโต๊ะกินข้าวแบบ 2 ที่นั่งในห้องครัวได้สบายๆเลย เวลาทำกับข้าวก็ปิดบานเลื่อนในห้อง เปิดบานเลื่อนที่ระเบียงได้เลย ส่วนของระเบียงก็กว้าง ใช้งานได้จริงจังเลยครับ
ในห้องนอนก็มีขนาดที่ดูหลวมๆวางเตียงจะเป็น Queen size หรือ King size ก็ทำได้ครับ มีตู้เสื้อผ้าบานใหญ่เก็บของได้ เก็บกระเป๋าเดินทางได้สบายๆเลย ส่วนห้องน้ำก็มาครบ ขนาดกำลังดีเลยครับ
ดู VDO ที่ผมพาทัวร์เอาไว้ได้เลยครับ
.
One Bedroom Extra 33.42 ตารางเมตร
ห้องนี้ถือว่าเป็นห้องใหญ่ แบ่งสัดส่วนได้ดี เหมาะสำหรับคนที่ใช้งานในห้องเยอะๆ จะทำใช้ Work from home หรือ อยู่กันเป็นคู่ ห้องนี้ก็เหมาะสมครับ เปิดประตูเข้ามาในห้องจะเจอกับ โซนครัวก่อน มีที่เก็บของเยอะ มีบานเลื่อนสามตอนปิด ถัดเข้ามาในห้องจะเป็น living room วางโต๊ะกินข้าวได้ วาง sofa ขนาดใหญ่ได้ บานเลื่อนออกระเบียงก็เป็นกระจกบานใหญ่ ระเบียงด้านนอกกว้างขวางมากๆครับ ส่วนห้องนอนก็มีกำแพงกั้น ปิดด้วยประตู เปิดเข้าไปในห้องนอน เราจะเจอกับโซน Walk-in Closet ตู้เสื้อผ้าเก็บของได้เยอะ จะทำโต๊ะแต่งหน้าเพิ่ม หรือจะทำตู้เก็บของเพิ่มก็ยังมีพื้นที่อีกเยอะ ส่วนโซนที่นอน ก็วางเตียง King size ได้เลยครับ จากในห้องนอนก็เดินเข้าห้องน้ำได้สบายๆ ผมว่า type นี้เป็นขนาดที่ดู relax อยู่จริงแล้วไม่อึดอัดแน่นอนครับผม
ดู VDO ที่ผมพาทัวร์เอาไว้ได้เลยครับ
.
One Bedroom Plus 37.64 ตารางเมตร
ห้องใหญ่สุดของโครงการ พื้นที่กว้างสุดๆ และ ได้เป็นห้องหน้ากว้างถึง 7.6 ม. กว้างมากๆ จัด space มาได้ลงตัวเลย มีความ flexible สามารถเอาห้องเอนกประสงค์ มาใช้เป็นห้องทำงาน หรือ จะเป็นห้องนอนที่สองก็ได้ ส่วนของครัวก็เป็นครัวปิด อยู่ติดระเบียง ตัว living room จัดทำพวกที่เก็บของได้เลยครับ ส่วนห้องนอนก็ขนาดกำลังดี วางเตียง king size หรือ queen size ก็ได้ครับ เป็นห้องที่ pack ราคาไม่ได้แรงมาก แต่สามารถอยู่กันเป็น family ได้ครับ
.
// สรุป \\
โดยรวมๆผมว่า ถ้าเพื่อนๆมีงบประมาณ 2 ล้านบาท บวก ลบ กำลังหาคอนโดที่อยู่แล้วเดินทางสะดวก ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก แหล่งงาน โรงเรียน โรงพยาบาลต่างๆ มีส่วนกลางเยอะ หลากหลาย และที่สำคัญ layout ห้องที่เค้าทำมาแบบหน้ากว้าง มันได้ function อย่างดี ใช้งานได้จริงเลย ผมว่าที่ Chewathai Hallmark เอกมัย-รามอินทรา ถือว่าตอบโจทย์เลยครับ ตามสโลแกนที่เค้าวางไว้คือ Good Vibes More Life ชีวิตที่ใช่..ใช้ได้สุดยิ่งกว่า อยู่ที่นี่แล้วน่าจะใช้ชีวิตได้ครบ ในทำเลที่ใช่มากๆครับ สนใจติดต่อ https://bit.ly/3KkaQh4