ต้องบอกว่าแยกพระราม 9 ถือว่าเป็นย่าน New CBD จริงๆครับ เพราะเต็มไปด้วย ห้างหรู ตึก Office และ Mega-project ในอนาคต จะเดินทางเข้าอโศก เข้าในเมืองก็ง่าย ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เราจะเห็นคอนโดหลายๆตัวมาสร้างรอบๆแยกพระราม 9 และคอนโดตัวล่าสุดที่มาเปิดตัวก็คือ NUE District R9 โปรเจ็คคอนโดใหม่จากทาง noble ซึ่งส่วนตัวแล้วผมมีห้องของ noble หลายที่นะ หิหิหิ ผมว่าซื้อแล้วสบายใจดีเพราะเชื่อมั่นได้ในการเลือกทำเลที่ดีมากๆ, การออกแบบแนว modern minimal ที่ timeless และเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งผมว่า NUE District R9 มีรายละเอียดที่น่าสนใจหลายจุดนะครับ ถ้าสนใจลงทะเบียนได้ที่ https://nobleurl.com/3Bb9VKs
มาว่ากันเรื่อง basic fact นิดนึงของ NUE District R9 นะครับ ตัวคอนโดสร้างบนพื้นที่ 8ไร่ (ใหญ่มากๆ) อาคารจะแบ่งออกมาเป็น 2 ตึกคือ ตึก R (สูง33ชั้น) และ ตึก 9 (สูง41ชั้น) โดยจะมี Podium ชั้น 1-7 ที่เชื่อมกันทำให้ลูกบ้านสามารถไปใช้งาน facility ได้ทั้ง 2 ตึกเลย ทั้งโครงการมีจำนวนห้องพัก 1,441 ยูนิต + 1 ร้านค้า (ถ้ามองจำนวนห้องอาจจะเห็นว่าที่นี่เป็น project ใหญ่นะครับ แต่เทียบกับพื้นที่ 8 ไร่ >> เท่ากับคอนโดมี 180 ยูนิต ต่อไร่ ก็คือว่าไม่ได้แน่นอะไรมากมายนะครับ และยิ่งดูจำนวนส่วนกลางแล้ว จะยิ่งรู้สึกว่า ใช้งานกันได้พอเพียงแน่นอนครับผม) มีที่จอดรถประมาณ 40% หรือประมาณ 600 คัน (ในความเห็นผมนะ ผมว่าที่จอดที่นี่น่าจะไม่เต็มง่ายๆ เพราะด้วยทำเลที่ใกล้รถไฟฟ้า 180เมตร และห้องบางส่วนที่เป็นต่างชาติมาซื้อ หรือเป็นคนเช่าในย่านพระราม 9 ไม่จำเป็นต้องใช้รถกันครับผม) ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการอยู่ที่ประมาณ 13X,XXX บาทต่อตารางเมตร ต้องบอกว่าราคาดีมากๆ (ดีกว่าคอนโดเพื่อนบ้านหลายตัวเลย!!!) และยิ่งเราเห็น pack ราคาห้องไม่ใหญ่ จับต้องได้ง่าย ยิ่งทำให้ NUE District R9 น่าสนใจครับ ส่วนกำหนดสร้างเสร็จอยู่ที่ต้นปี 2568 อีกประมาณ 3 ปี ผมว่า ณ วันที่ NUE เสร็จคอนโดเพื่อนบ้านเค้าก็โอนกันไปหมดแล้ว ดังนั้น NUE District R9 น่าจะคู่แข่งน้อยลงแทบจะเป็นคอนโดหนึ่งเดียวที่โอนในย่านพระราม 9 ในปี 68 แน่นอนครับ (ผมว่าประเด็นนี้น่าสนใจ ตรงคนที่กะว่าจะซื้อมาเพื่อ flipping ก็อาจจะเป็นโอกาสให้ถือไปขายช่วงก่อนโอนได้นะครับ)
// Location \\
ก่อนจะไปไล่รายละเอียดต่อไป มาว่ากันเรื่องที่สำคัญที่สุดก่อนคือ Location, Location, Location ต้องบอกเลยว่า NUE District R9 ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดในสี่แยกพระราม 9 เลยครับ ที่ผมว่าดีที่สุดในสี่แยก เพราะ NUE ตั้งอยู่ฝั่งเดียวกับ Central ดังนั้นคนเดินไม่ต้องข้ามถนนใดๆ ก็ไปหาของกิน ของใช้ได้ครบแล้วครับ (เทียบกับคอนโดเพื่อนบ้านไม่ว่าจะ segment บนกว่า หรือ ล่างกว่า ล้วนต้องเดิมข้ามถนนทั้งสิ้น และ แยกนี้รถเยอะ ข้ามยากครับ ผมไปข้ามมาแล้วตื่นเต้นทุกครั้งเลย) ที่สำคัญตัวคอนโดห่างจาก MRT สถานีพระราม 9 เพียงแค่ 180 เมตร (ใกล้สุดๆ) เดินไปนิดเดียวก็เจอตึก Unilever, G Tower, Central Rama9 ดังนั้นของกินอุดมสมบูรณ์แบบสุด ๆครับในมุมมองการขับรถ ก็ลงจากทางด่วนแค่ 550 เมตรก็ถือโครงการแล้ว หรือจะไปขึ้นทางด่วนก็ห่างไปแค่ 600 เมตรเอง ส่วนการวนรถแถวนี้ไม่ยากครับ ออกจาก NUE ก็สามารถจะ U-turn ย้อนกลับไปทางพระราม 9 ได้ จะเข้าอโศก เข้าเพชรบุรีก็ไปไม่ยากครับ เอาว่าโดยรวมๆทำเลของ NUE นั้นถือว่าดีกว่าคอนโดเพื่อนบ้านหลายๆตัวเลยนะครับ จัดว่าเป็น factor ที่สำคัญในการเลือกซื้อที่นี่จริงๆ ถ้าใครทำงานย่านอโศก พร้อมพงษ์ ใช้รถไฟฟ้าเป็นประจำ ชอบหาของกินที่ห้าง อยากใช้ชีวิตสะดวกๆ NUE District R9 ตอบโจทย์แน่นอนครับ
// แนวโน้มการพัฒนาของพื้นที่ \\
คือถ้าเพื่อนๆตามข่าวแถวๆพระราม9 เราจะได้ยินเรื่องราวของ Super Tower ตึกสูงที่สุดของประเทศไทย แต่ ๆ ๆ ๆ ตอนนี้โครงการถูกเปลี่ยนมือไปอยู่กับทาง Central แล้วซึ่งก็คงจะไม่ได้สร้างเป็น Super Tower แล้วแต่ยังไงซะที่ดินขนาดใหญ่ขนาดนี้ ยังไง Central ต้องเอามาทำประโยชน์เป็น Mega project อย่างอื่นแน่นอนครับ ซึ่งที่ดินผืนนี้ ก็แทบจะอยู่ข้างๆกับ NUE District R9 เลยครับ (ห่างออกไปแค่ตึก Unilever คั่นเอาไว้) ผมเชื่อว่าในอีก 3 ปีต่อจากนี้เราน่าจะได้เห็นแผนของการใช้ที่ดินผืนนี้แน่นอนครับ และผลดีจะต้องตกกับคนที่ซื้อ NUE เอาไว้แน่นอนครับ เพราะไม่ว่ามันจะเป็น project อะไร จะเป็นห้าง เป็น office เป็นโรงแรม มันจะต้องมา upgrade ย่านนี้ให้ดูดี ดูแพงขึ้นอีกแน่นอนครับ วันที่ NUE เสร็จพอดีก็รอรับข่าวดีนี้ไว้ได้เลยครับ
อีก Mega project ที่จะมาในย่านนี้ก็คือ มักกะสัน project ครับ จะเป็นที่ดินการรถไฟที่ทาง CP เค้าประมูลมาได้ ตอนนี้เริ่มเห็นข่าวแล้วว่าจะตึกตั้งหลายตึก น่าจะมีห่าง มีโรงแรม ผมเชื่อว่า มักกะสันจะกลายเป็นศูนย์กลางใหม่ที่คนมากรุงเทพจะต้องอยากมาที่นี่ครับ ดังนั้น zone ทางพระราม 9 ก็จะพลอยได้ผลประโยชน์จาก project นี้ไปด้วยครับ
// การออกแบบ & ส่วนกลาง \\
มาถึงเรื่องที่ผมหนักใจสุดว่าจะเล่ายังไงให้เพื่อนๆฟังดี ก็คือ รายละเอียดของส่วนกลางต่างๆของ NUE District R9 เพราะปริมาณส่วนกลางเค้าเยอะ และสวยมากๆ จะเล่ายังไงให้หมดดีเนี่ย 5555 ถ้าจะให้ผมดูแบบรวบรัดก็คือ ส่วนกลางที่ NUE District R9 มีความ balance ระหว่างความสวย ,ปริมาณพื้นที่, ความหลากหลาย เรียกได้ว่าส่วนกลางแบบนี้คืออยู่ในคอนโดทั้งวัน มีที่ให้ทำโน่นทำนี่ได้ตลอดครับ ถือว่าเป็นกำไรของคนอยู่นะครับ คือเราซื้อห้องไม่ต้องใหญ่มาก แต่มานั่ง spend time ที่ส่วนกลาง เดี๋ยวเบื่อๆก็ย้าย zone เปลี่ยนบรรยากาศได้ความหลากหลายดีครับ ถ้าเทียบใน zone พระราม 9 ด้วยกันแล้ว NUE ก็น่าจะชนะเพื่อนๆคอนโดแถวนี้ขาดเหมือนกันนะครับ มาลองไล่ไปเป็นส่วนๆแล้วกันนะ อย่างที่บอกตัวตึกเค้าแบ่งเป็น ตึก R กับ ตึก 9 โดยจะมีฐานตึก Podium ชั้น G ถึง 7 ที่เชื่อมกันดังนั้น ส่วนกลางของที่นี่จะวางไว้หลักๆที่
⁃ชั้น G ซึ่งจะมี shop , lobby และ สวนส่วนกลางขนาด 1 ไร่ที่อยู่ด้านหลังโครงการ โดยที่ Tower R ก็จะมี Moon Lobby (ออกแบบมาแนวหินสีครีมๆ มีโคมไฟกลมทรงพระจันทร์แขวนอยู่เป็น centerpiece ดูเป็นภาพจำดีครับ เพดานก็น่าจะสูงแบบ double volume ด้วย) , Mail room,Smart locker, Delivery pick up และ Tower 9 ก็จะมี Cloud lobby (อันนี้จะเป็นแนวไม้สีเข้มๆ มีภาพแนว impressionist ให้บรรยากาศเหมือนท้องฟ้าหน่อยๆ บวกกับ โคมไฟสีเงินเป็นแบบ free form ดูสวยดี อันนี้จะบรรยากาศคล้ายๆที่ Sale office นะ), Mail room, Smart locker, Private meeting
⁃ชั้น 7 จะเป็นชั้นส่วนกลางเต็มชั้นด้วยพื้นที่รวมกันกว่า 3,000 ตร.ม. มีทั้งส่วน indoor และ outdoor สามารถแบ่งออกมาได้เป็นโซนตามนี้ครับ
Recreation Zone : Mellow Co-kitchen, Photography studio, Recording room, Kids club, Art Hub : zone นี้จะเน้นให้สามารถมาทำงานแนวศิลปะ หรือจะเป็นงานอดิเรกก็ได้ เหมาะกับคนยุคใหม่ดีครับ
Recharge Zone : Urban Yoga, Golf simulator, Cityscape garden : zone นี้ก็เน้นมาออกกำลังกาย มาเติมพลังให้กับชีวิตครับ
Reinsure Zone: Synergy Space & Library, Private focus room : zone นี้จะเน้นมานั่งทำงาน นั่งเล่น หรือจะชวนเพื่อนๆมาทำงานกลุ่มกันก็ได้ ผมชอบตรงที่ Private ด้วยนะ จะได้ทำงานแบบมีสมาธิได้
Revive Zone : Mingle games room (VR station, E-sport, Pool lounge, Board game) , Private spa room, Styling salon, Recess garden : อันนี้จะเป็น zone สนุกสนาน ออกแนวมาเล่นเกมส์ หรือ จะใช้ห้องแต่งหน้าเพื่อเตรียมตัวไปงานต่างๆ หรือจะจ้างคนนวดมาทำ private spa ก็ได้ มีความหลากหลายแบบสุดๆครับ
สิ่งที่ดีอีกเรื่องของส่วนกลางที่นี่คือ ถึงแม้ว่าโครงการจะแยกเป็น 2 ตึก แต่เค้าก็วางส่วนกลางที่สำคัญๆไว้ในแต่ละตึกได้อย่างครบครัน เรียกได้ว่าอยู่ตึก R ก็มี lounge, มีสระว่ายน้ำ, fitness, sky garden, มี lobby เป็นของตัวเอง ตึก 9 ก็เช่นกัน ดังนั้นลูกบ้านแทบจะไม่ต้องขึ้นๆลงๆลิฟต์มากมาย เพื่อย้ายสลับตึกไปมา เพื่อไปใช้ส่วนกลาง(ผมพูดในมุมความสะดวก เค้าวางมาให้ครบจบในตึกตัวเองแล้วคือดีมากๆ) แต่ ๆ ๆ ๆ ถ้าอยู่ตึก R แล้วอยากจะไปเปลี่ยนบรรยากาศใช้สระว่ายน้ำตึก 9 ก็ทำได้นะครับ
⁃ที่ชั้น 33 ตึก R มี สระว่ายน้ำยาว 25 เมตร ชื่อ Rising Pool , สระเด็ก, Sky fitness , Surf studio, Steam room, Ivory Lounge, Rooftop garden
⁃ที่ชั้น 41 ตึก 9 มี สระว่ายน้ำยาว 25 เมตร ชื่อ Twilight Pool , สระเด็ก,Energy club, Live training studio, Steam room, Indigo Lounge, Rooftop garden
โดยรวมๆจากผลงานเก่าๆเวลาทาง noble เค้าทำ project ใหญ่ๆ ส่วนกลางใหญ่ๆอย่างที่ noble Ploenchit หรือ noble BE19 ผมว่าเค้าคุมบรรยากาศได้ดี ใช้วัสดุดี ทำของจริงออกมาได้สวยเลยนะครับ ซึ่งผมเชื่อว่าที่ NUE District R9 ก็เช่นกัน ของจริงออกมาสวย ไว้ใจได้เลยครับ ในมุมที่เพื่อนๆหลายคนจะเป็นห่วงว่า 1400 กว่ายูนิต แล้วส่วนกลางจะพอใช้ไหม ??? ผมดูจากขนาดพื้นที่ การวางตำแหน่ง ผมว่าที่นี่พอใช้งานแน่นอนครับ เพราะมันเหมือนเป็น 2 คอนโดมารวมกันอยู่ในโครงการเดียว ปริมาณแต่ละอย่างมีซ้ำกันคูณ 2 ตลอด ไม่ว่าจะสระว่ายน้ำ, lounge, lobby ยังไงก็น่าจะพอครับ
ในเรื่องของ Exterior ด้วยทาง noble เค้าเป็นสายออกแบบอยู่แล้ว ตัวตึกเป็นแนว modern ก็เน้นเส้นแนวตั้ง มีการใช้สีเทา สีดำมาตัดให้ดูมี shape ส่วนกลางชั้น 7 กับชั้นบนสุด ก็มีการใช้กระจก full frame ทำให้ดูโดดเด่น , ด้านบนดาดฟ้ามีการเล่นเส้นนอน เส้นตั้งจากเสาและคานวิ่งไปมา ทำให้ตึกโดยรวมๆออกมาสวยดีครับ แต่ในบางมุมมองก็อาจจะรู้สึกว่ามันดูเรียบๆ ไม่ได้มีอะไรหวืหวามากนัก ซึ่งก็จริงครับ สำหรับผมคอนโดราคาประมาณ 13X,XXX บาท ต่อ ตร.ม. ถือว่าราคาไม่ได้แพง exterior อาจจะไม่ได้โดดเด้งอะไรมากมาย แต่เอางบมาลงกับเรื่องกระจกในห้องให้ใหญ่หน่อย ทำ interior พื้นที่ส่วนกลาง facility ให้ออกมาสวย ผมว่า ผม ok แล้วนะครับ
// แบบห้อง \\
เล่าเรื่องส่วนกลางมาซะเยอะ ทีนี่มาถึงเรื่องสำคัญแล้ว คือ สิ่งที่เราได้ในห้อง แบบ layout ต่างๆของ NUE District R9 เป็นยังไงบ้าง ??? ถ้าให้ผมพูดรวมๆนะ ผมว่า concept การออกแบบของ NUE ที่เน้นห้องหน้ากว้างนั้น ทาง noble มาถูกทางแล้วหล่ะ เพราะพอห้องได้ layout แบบหน้ากว้าง ความรู้สึกในการอยู่อาศัยมันจะดีมาก มันจะรู้สึกว่าใหญ่กว้างความเป็นจริงนะ ไม่ว่าจะเป็นห้องเล็กแบบ 26 ตร.ม. ผมก็รู้สึกว่ามันดูใหญ่ดี ยิ่งห้องที่เห็นชัดมากๆคือห้องแบบ 34 ตร.ม. พอเป็นหน้ากว้างแบบ NUE แล้วคือ น่าอยู่สุดๆไปเลย !!! ส่วน spec in general เอาเฉพาะที่ผมสนใจเวลาเข้าไปดูคอนโดนะ ก็เรื่องความสูง 260 ซม. ผมถือว่า ok ครับ คนตัวสูงอย่างผมเข้าไปในห้องแล้วก็ไม่รู้สึกอะไร (เหมาะกับราคาดี) ,พื้นได้ลามิเนตสีไม้ ความหนา 12mm. ลายและสีสันผมว่าสวยดี , กระจกหน้าต่างภายในห้องให้กระจกสูงจากพื้นจนเกือบถึงฝ้าเลยนะ อาจจะซอยบานตรงกลางเยอะหน่อย แต่โดยรวมๆถือว่ากระจกบานใหญ่ แสงธรรมชาติเข้าได้เยอะดี ทำให้ห้องดูโปร่งดูกว้างขึ้นเยอะครับ (ตรงนี้ NUE ชนะคอนโดเพื่อนบ้านหลายๆตัวเลยนะ, ยิ่งกระจกใหญ่เท่าไหร่ ยิ่งดู premium ครับผม), ห้องน้ำใช้กระเบื้องลายหินอ่อนสีเทาดูสวยดี สุขภัณฑ์ดูดี มีการจัดแบ่งพื้นที่ได้ดีครับ คือห้องน้ำไม่ได้ใหญ่ ไม่ได้เล็กไปครับ ทำให้จัดสรรพื้นที่ใช้สอยในห้องได้ดีครับ และที่สำคัญคือ ราคาที่ซื้อ เราได้ห้องแบบ fully furnished นะครับ โต๊ะกินข้าว ตู้รองเท้า เตียง เก้าอี้ sofa ตู้เสื้อผ้าแบบ built in ได้ครบหมดเลย คุ้มค่าดีครับ ซื้อแล้วเข้าอยู่ง่ายๆสบายๆ จะเอามาปล่อยเช่าก็แค่ซื้อผ้าม่าน ติด wallpaper ติดรูป วางเครื่องใช้ไฟฟ้า ห้องก็ครบพร้อมเข้าอยู่แล้วครับ ทีนี้มาดูกันเป็นห้องๆไปเลยแล้วกันครับ ห้องที่นี่มีประมาณ 5 type หลักๆครับ แต่มีห้องตัวอย่างให้ดูแค่ 4 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องก็โดดเด่น ตอบโจทย์แตกต่างกันครับ มาดูกันเลย
ห้องแบบ One bedroom 26 sq.m. : ห้องนี้ pack ราคาเริ่มต้นแค่ 2.9 ล้านบาท ราคาดีมากๆเลยนะครับ ตัว layout ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่ 26 ตร.ม. แต่เราได้ห้องที่มีผนังกั้นแบ่ง living ออกจาก bedroom อย่างเป็นสัดส่วนสุดๆครับ (ถ้า size นี้ที่คอนโดอื่น ได้แค่ห้อง studio นะครับ) ในห้อง living ก็วาง sofa วาง โต๊ะกินข้าวแบบสองที่นั่งได้สบายๆ มีตู้ TV ให้ ได้กระจกหน้าต่างบานใหญ่ใช้เดินออกไปที่ระเบียง ส่วนในห้องนอนสามารถวางเตียง Queen size ได้สบายๆ มีตู้เสื้อผ้าเก็บของได้ระดับนึง และห้องน้ำก็มีสัดส่วนที่กำลังดี ไม่เล็กจนเกินไป ผมว่าห้องนี้เหมาะกับคนงบไม่เยอะ แต่อยากจะอยู่คอนโดในกลางเมือง ตอนกลางวันก็เน้นออกมานั่งเล่นใช้ส่วนกลางของโครงการ หรือจะสายปล่อยเช่าที่ทำราคาเช่าได้สักหมื่นกว่าๆ คนไทยก็เช่าได้ ต่างชาติก็เช่าดีครับ
ห้องแบบ One bedroom 30 sq.m. : อันนี้จะเป็นห้องที่เน้นการทำครัวขึ้นมาหน่อย เพราะห้องนี้จะเอาครัวมาชิดกับหน้าต่าง และมีบานเลื่อนแบบสามตอนปิด ทำให้ทำครัวจริงจังได้ไม่ต้องกลัวกลิ่น ส่วน layout ในห้องก็วางมาดีคือ แบ่ง living room กั้นด้วยผนังออกจากห้องนอนอย่างเป็นสัดส่วนครับ ห้องนี้ใน living สามารถจะเพิ่มทำที่เก็บของที่ผนัง TV ได้อีกเยอะเลย ส่วนในห้องนอนมีเตียง Queen size มาให้และมีการทำตู้เสื้อผ้าแบบ walk in closet มาให้ คือเป็นตู้เสื้อผ้าขนานกัน 2 ฝั่งเลย เก็บของได้เยอะจริงจังครับ (ที่เก็บของในคอนโดเป็นเรื่องสำคัญมากๆเลยนะครับ) ห้องนี้ถ้าเราอยู่เอง หรือ เป็นคู่แฟนกัน อยู่ห้องแบบนี้ได้สบายเลยครับ ยิ่งคนทำอาหาร ก็ยิ่งเหมาะมากๆครับ เท่าที่ผมสังเกตุ ห้องแบบนี้คนจีนเค้าจะชอบด้วยนะ เพราะทำอาหารได้ง่าย กลิ่นไม่เข้าห้อง
ห้องแบบ One bedroom plus 34 sq.m. : ห้องนี้เป็นห้องที่ผม WOW มากๆเลย เพราะ 34 ตร.ม. แต่ได้ห้องหน้ากว้างกว่า 8 เมตร ทำให้สามารถจัด function เพิ่มห้อง plus ขึ้นมาได้ ส่วนของครัวก็กว้าง และโครงการยังมีให้ island ครัวมาด้วย โต๊ะกินข้าวก็สามารถวางแบบ 4 ที่นั่งได้สบายๆ มีกระจกหน้าต่างบานใหญ่ให้แสงธรรมชาติเข้ามาในห้อง ส่วนห้องนอนใหญ่ก็มีกำแพงกั้นเป็นสัดส่วน วางเตียง queen size ได้ มีตู้เสื้อผ้าให้ เก็บของได้สบายๆ ส่วนห้อง plus ที่ห้องตัวอย่างเค้าจัดมาให้แบบใช้กระจกบานเลื่อนกั้น ทำให้ห้องดูโปร่ง แต่ของจริงแล้วจะให้มาเป็นกำแพงกั้น และภายในห้องมีเตียงเดี่ยว 3.5ฟุต ให้มานะครับ คือถ้าใครอยากจะทำแบบห้องตัวอย่าง ก็แค่ทุบผนัง ติดบานเลื่อน ลงทุนสัก 3 หมื่นบาท ก็ได้บรรยากาศฟินๆ แบบห้องตัวอย่างแล้วครับ ผมว่า จัดออกมาได้ดีมากๆเลย
ห้องแบบ Two bedroom 46 sq.m. : ต้องบอกว่า Pack ราคาสองห้องนอน สองห้องน้ำ ที่ขนาดแค่ 46 ตร.ม.นี้มันดีจริงๆครับ จัดต้องได้ และการวาง layout ห้องจัดให้ living อยู่ตรงกลาง โดยมีห้องนอนอยู่ทางปีกซ้ายและขวา ถือเป็นการจัดพื้นที่ได้ดีนะครับ เพราะไม่เสียพื้นที่ทางเดิน ส่วนของครัวก็มีขนาดใหญ่กำลังดี ทำอาหารได้แบบหลวมๆ โต๊ะกินข้าวแบบ 4 ที่นั่งวางได้สบาย ระยะห่างจาก TV มาที่ sofa ก็ถือว่ากว้าง และได้ช่องแสงขนาดใหญ่ด้วย ในส่วนของห้องนอน master ก็ได้ตู้เสื้อผ้า กึ่งเป็น partition กั้นห้องให้เป็นสัดส่วนด้วย มีกระจกหน้าต่างบานสูงเต็มฝ้าให้ ระยะข้างเตียง ระยะปลายเตียงก็ถือว่าใช้ได้เดินสบายๆ ในส่วนห้องนอนเล็กก็สามารถวางเตียง Queen size ได้ ตู้เสื้อผ้า built in มาให้ จัดว่าครบครันดีครับ
// ไอเดียการเลือกห้อง \\
คือในการซื้อ มันก็มีมุมมองให้คิดหลายอย่างนะครับ ผมลองให้ idea ดูนะครับ
1.ถ้าอยากได้ห้องราคาดี ก็จะมีห้องพวก 26 ตร.ม. มุมที่หันไปทาง Unilever อาจจะวิวโดนบังไปหน่อย แต่ก็ถือว่าได้ห้องราคาดี แล้วเอาเวลาไปนั่งเล่นที่ส่วนกลางแทนเนอะ ถ้าอยากดูวิว
2.ถ้าอยากได้วิวเมืองฝั่งพระราม 9 สวยๆ มองย้อนกลับไปทางอโศก ไปทางเพลินจิต ก็ต้องเลือกห้องฝั่งที่หันไปทาง Unilever นี่หล่ะ แต่เลือกชั้นสูงๆหน่อย สักชั้น 20 กว่า ก็น่าจะได้วิวสวยงามแล้ว
3.ถ้าไม่เลือกชั้นสูง ผมแนะนำว่าเอาห้องตึก 9 ฝั่งที่หันไปทางส่วนกลางของ One9Five ก็น่าจะได้วิวเขียวๆสวยดีนะครับ แค่สักชั้นสิบนิดๆ ก็น่าจะสวยแล้ว อยู่ห้องไปแอบมองวิวสระว่ายน้ำของคอนโดข้างๆไปด้วย 555
4.Tower 9 เลือกห้อง 34 ตร.ม. ตำแหน่ง B17 หรือ 46 ตร.ม. ตำแหน่ง B18 ชั้นเตี้ยๆ จะได้มองไปที่สวนส่วนกลางที่ชั้น 7 ก็ได้ครับ เราจะได้ทั้งห้อง layout สวยๆ และได้วิวที่ค่อนข้างจะ fix แน่นอน ไม่เปลี่ยนแปลง
5.Tower R เลือกห้อง 34 ตร.ม. ตำแหน่ง B12 ชั้นไม่ต้องสูง มองไปทางฝั่งทางเข้า One9Five และทางเดินหน้าห้องของเราก็มีความเป็นส่วนตัว เราใช้อยู่คนเดียว
// สรุป \\
NUE District R9 เป็นอีกโครงการที่น่าสนใจมากๆนะครับ ไล่มาตั้งแต่เรื่อง ราคา 13X,XXX ต่อตารางเมตร ผมว่าโอเคนะ อีก 3 ปีโครงการเสร็จคู่แข่งเปิดใหม่ก็ไม่ค่อยมีแล้ว, ทำเลก็จัดว่าดีที่สุดในแยกพระราม 9 แล้ว 180เมตรจาก MRT เดินไป Central พระราม 9 ก็ง่ายมากๆ ในอนาคตยังจะมี mega project มาสร้างใกล้ๆอีก ส่วนกลางก็จัดเต็มทั้งเยอะ ทั้งสวย น่าใช้งาน Layout ห้องก็หลากหลาย ได้หน้ากว้าง ใช้พื้นที่ได้เต็มประสิทธิภาพ จะมองจากมุมไหน ผมก็ยังคิดว่า ด้วยงบ 3-5 ล้านถ้าจะหาคอนโดซื้ออยู่เอง ซื้อลงทุน เลือกทำเลใจกลางเมือง NUE District R9 เป็นคำตอบที่ดีมากๆเลยครับ อยากให้เพื่อนๆลองแวะมาดูกันที่ Sale office แล้วกันครับ เค้าเปิดขายแล้ว มาจิ้มห้อง เลือกซื้อกันได้เลยครับผม
ถ้าชอบเนื้อหา เข้าไปกด Like กันที่เพจ #WhyIBuyThisCondo
หรือจะกด follow เพื่อติดตามเพจผมก็ได้นะครับ
www.facebook.com/whyibuythiscondo/
www.whyibuythiscondo.com