เพื่อนๆที่เคยดูๆคอนโดมาน่าจะรู้จักกับแบรนด์ Chapter One ของทางพฤกษา ผมว่า DNA ของความเป็น Chapter One มันคือเรื่องการใส่ใจในรายละเอียดทุกๆจุด มี design ที่มี character มี theme ชัดเจนสุดๆ และที่สำคัญคือราคาที่จับต้องได้ ซึ่ง Chapter One All Ramintra ก็เช่นกันครับ เป็นคอนโดที่มี location ดีเดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพูสถานีลาดปลาเค้า อยู่ใกล้ห้าง Big C มีส่วนกลางที่เจ๋งมากๆในความเป็นคอนโด low rise ผมว่าที่นี่ออกแบบส่วนกลางมาได้น่าตื่นเต้นมาก และมีแบบแปลนห้องที่จัดมาได้ลงตัวสุดๆ balance ระหว่างจำนวนพื้นที่ในห้อง, function การใช้งาน, ราคาก็ทำออกมาได้ดี เริ่มต้นเพียงแค่ 1.79 ล้านบาทเท่านั้น มาลองดูรายละเอียดกันเลยครับ .เค้าจะเปิดสำนักงานขาย 11 มี.ค.นี้ เฉพาะวันงาน รับส่วนลดกว่า 200,000 บาท 100 ยูนิตแรกรับเพิ่ม Smart Furniture Package ไปเลย!!
// ทำเล \\
คอนโด Chapter One All Ramintra ตั้งอยู่บนถนนรามอินทรา main road เลย อยู่ประมาณใกล้ๆกับปากซอยรามอินทรา 6/1 หรือ ถ้าคิดง่ายๆ ก็คือ คอนโดตั้งอยู่ใกล้ๆกับ Big C Extra รามอินทราครับ (170เมตร) ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีชมพูสถานีลาดปลาเค้า ประมาณ 250 เมตร ต้องบอกว่าทำเลนี้ใช้ชีวิตสะดวกมากๆเลย เพราะรอบๆจะมีทั้ง FOODLAND (ห่างไป 500 เมตร) จะมี THE JAS (ห่างไป 800 เมตร), มี EASE PARK (ห่างไป 1.2 km) มี CENTRAL รามอินทรา ห่างออกไปแค่ 1 สถานีรถไฟฟ้าเท่านั้นเอง คือพฤกษาเค้าทำการบ้านทำเลของตึกนี้มาดีมากๆเลยครับ และที่สำคัญแถวๆนี้ไม่ค่อยมีคอนโดเปิดใหม่เท่าไหร่นะครับ
ในมุมการเดินทาง ถ้าใช้รถไฟฟ้า นอกจากจะใกล้สายสีชมพูสถานีลาดปลาเค้าแค่ 250 เมตรแล้ว เรานั่งรถไฟฟ้า 2 สถานีก็จะเจอกับ interchange สายสีเขียวแล้วที่สถานีพระศรีมหาธาตุ ซึ่งสายสีเขียวนี้สามารถจะนั่งแบบยิงยาวเข้าไปอารีย์ ไปสยามได้เลยครับ หรือ กระเถิบออกไปนิดนึง 4 สถานีจากคอนโดเราก็จะไปถึง interchange ของสายสีแดงที่สถานีหลักสี่ ก็จะสามารถเดินทางไปสนามบินดอนเมืองได้ง่ายๆเลยครับ
นอกจากนี้ใน zone นี้จะใกล้กับทั้งแหล่งงาน สถานศึกษา มากมายไม่ว่าจะเป็น ศูนย์ราชการ, ม.เกษตร, ม.ศรีปทุม, สนามบินดอนเมือง, โรงพยาบาลวิภาวดี, โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ซึ่งรับรองได้ว่า demand การอยู่อาศัย demand การเช่าของย่านนี้ย่อมมีความหลากหลาย มี traffic เยอะแน่นอนครับ
// ส่วนกลาง การออกแบบ \\
Chapter One All Ramintra เป็นคอนโดรูปแบบ low rise สูง 8 ชั้น มีทั้งหมด 3 อาคาร (A,B,C) จำนวนยูนิตรวมกัน 628 ยูนิต + 3 ร้านค้า
รูปแบบภายนอก Exterior ใช้สีน้ำเงินเข้มๆ มีการทำ facade เป็นทรงหลังคาจั่วที่ได้รับ inspiration มาจาก The Dutch Aesthetic ส่วนพวกงาน interior จะเป็นแนว Post modern ดูเรียบๆเท่ห์ เน้นสีขาวดำ ไม้ แล้วตัดด้วยสีน้ำตาลส้มๆดูเด่นดีครับ ผมว่างาน design ที่ตึกนี้เค้าทำมาได้ดี น่าใช้งานมากๆเลยครับ คือ look and feel มันจะมีความสนุก จัดจ้าน ไม่ซ้ำกับใครดีครับ น่าจะเหมาะกับ target group ของคนซื้อ Chapter One ดีมากๆครับ
ใน detail ของ ส่วนกลาง หลักๆจะอยู่ที่ตึก A ด้านหน้า โดยเค้าจะเอาทั้ง 8 ชั้นมาทำเป็นส่วนกลาง บวกกับพื้นที่ชั้น Rooftop ทั้งชั้น มีการเชื่อมต่อระหว่างชั้น ทำให้ ส่วนกลางมันดูใหญ่ ดูน่าใช้งานมากยิ่งขึ้นครับ
ไล่มาตั้งแต่ lobby ที่อยู่ชั้น 1 เป็น style แบบ Living lounge คือจะใช้นั่งเล่น นั่งทำงาน นั่งคุยกับเพื่อนๆก็ได้ ผมชอบพื้นสขาวดำที่มาจัดกับ sofa สีส้ม มันดูมีภาพจำดีมากๆเลยครับ
ส่วนที่ชั้น 2 จะห้อง Workshop space ที่เปิด 24 ชั่วโมง จะเอาไว้นั่งทำงาน หรือ ประชุมงานกับเพื่อนๆก็ได้ครับ นอกจากนี้ยังจะมี Multiplay space ที่เป็นห้อง game room มีโต๊ะพลู เอาไว้เล่นสนุกกับเพื่อนๆได้ครับ และยังมี Entertainment space เอาไว้นั่งดูหนังฟังเพลงได้อีกครับ
ชั้น 3 จะเป็น Co-working space เปิดตลอด 24 hr ผมว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นอะไรที่ WOW มากๆเลยนะครับ เพราะ เค้าจัดห้องนี้มาแบบเพดานสูง double volume ดูโปร่งสุดๆ มีช่องแสงขนาดใหญ่ การตกแต่งก็ใช้สีดำ สีส้มตัดกันดูสนุกดี เวลาทำงานจะได้มี energy เยอะเลย แล้วเค้ายังมีการแบ่ง zone ที่นั่งพร้อมปลั๊กเสียบ มีโต๊ะประชุม มี zone ทำงานแบบเน้นความสงบมีสมาธิ และยังเอาใจแนวคนทำงาน ด้วยพวกเครื่องถ่ายเอกสาร อุปกรณ์ office ต่างๆไว้ให้ด้วยนะ จะได้ทำงานได้เต็มที่ ผมชอบการออกแบบ และ function ของห้องนี้มากๆเลยครับ ถ้าผมอยู่คอนโดนี้คงจะมาประจำการอยู่ที่ห้องนี้เป็นหลักแน่ๆเลย
ชั้น 4 Lifestyle Kitchen เป็นห้องครัวที่ทำอาหารได้จริงจัง หรือจะเอาใช้ถ่าย blog รายการทำอาหารก็ได้นะครับ และชั้นนี้ยังมีห้อง Live studio เอาไว้ไลฟ์ขายของ มีระเบียงนั่งเล่น เป็นลาน BBQ แบบ open air ได้ด้วยครับ
ชั้น 5 Active space จะเป็น Fitness ขนาดใหญ่ ได้ห้องแบบเพดานสูง double volume เวลาออกกำลังกายในห้องนี้แล้วจะรู้สึกปลอดโปร่งดีครับ และพอได้เพดานสูงๆเค้าก็จะให้มีหน้าผาจำลองเอาไว้ปีนออกกำลังกายด้วยครับ เป็นอีกห้องที่ออกแบบมาได้สวยมากๆเลยครับ
ชั้น 6 จะมีห้อง Functional training room ที่เหมือนเป็นส่วนต่อขยายของ fitness เพิ่มมาครับ เราสามารถจะใช้เล่นโยคะ หรือเล่นกิจกรรมอะไรที่เป็นสัดส่วนออกมาจาก gym ได้ครับ
ในส่วนของ Scenic Skypool อยู่ชั้นบนสุด มองวิวสวยๆได้ (แถวนั้นไม่มีตึกสูง) ระยะว่ายก็จะได้ประมาณ 20 เมตร ก็ว่ายน้ำได้จริงจังอยู่นะครับ เค้ามีระบบ Jacuzzi และ Endless pool ระบบว่ายน้ำทวนกระแสไว้ให้ด้วย และก็จะมี step garden เป็นสวนทางเดินสวยๆ ให้เราเดินไล่ขึ้นมาที่สระว่ายน้ำครับ ส่วนถัดมาที่ดาดฟ้าก็จะมีลู่วิ่ง และจะมีสวนแบบ Urban farming ที่จะให้ลูกบ้านมา enjoy จากต้นไม้ที่มีกลิ่นหอม และพวกพืชผักสวนครัวที่จะสามารถเก็บพวกผลไม้ ใบกระเพา พริก มะกรูด ไปใช้ทำอาหารได้ด้วย เรียกได้ว่าใช้ทุกๆพื้นที่ให้เป็นประโยชน์จริงๆเลยครับ
ที่ตึก B,C ก็จะมี lobby เพดานสูง 5 เมตร และ ที่นั่งทำงาน เอาไว้รองรับลูกบ้านด้วย
เอาว่างานส่วนกลางที่ Chapter One All Ramintra เค้าจัดเต็มแบบสุดๆเลยครับ เท่าที่กะๆด้วยประสบการณ์ผมนะ จำนวน unit 628 ยูนิต กับส่วนกลางมาให้มากขนาดนี้ ยังไงก็ใช้งานได้เพียงพอครับ และส่วนกลางแบบนี้มันจะสร้างความแตกต่างให้กับคอนโดเราในระยะยาวด้วยครับ เพราะ ไม่ว่าจะคนเช่า คนมาซื้อต่อ ถ้าเห็นส่วนกลางสวยๆแบบนี้รับรอง มีอาการเคลิ้ม อยากได้แน่นอนครับผม
// ห้องพักอาศัย \\
ที่ Chapter One All Ramintra เค้ามีการจัดแบบห้องมาทั้งหมด 4 แบบหลักๆ ตอบโจทย์คนหลายกลุ่ม
All round >> ห้องแบบ 24 ตร.ม. เน้นพื้นที่ใช้สอย ใช้ได้เต็มประสิทธิภาพ
Fashionista >> ห้องแบบ 26.9 ตร.ม. เน้นพื้นที่เก็บของพวก walk in closet เยอะหน่อย
Family designed >> ห้องแบบ 34.6 ตร.ม. เป็น two bedroom แบบหน้ากว้าง 7.65 เมตรอยู่กันได้แบบครอบครัว
Multi use >> ห้องแบบ 34.9 ตร.ม. เน้นพื้นที่โล่งๆตรง common area เอาไว้ทำกิจกรรมได้หลากหลาย
ห้องพักอาศัยที่นี่จะให้เพดานสูง 2.55 เมตร โดยโครงการจะขายแบบ fully fitted คือให้พวกครัว ห้องน้ำมาครับ แล้วแต่จะเพิ่มเติมด้วยพวกตู้เสื้อผ้าที่จะมีมาให้ในทุกห้องซึ่ง spec รวมๆในห้องผมว่าก็เหมาะกับราคาดีนะครับ ดูสวย ใช้งานได้จริง … เดี๋ยวเรามาดูรายละเอียดของห้องตัวอย่างแต่ละแบบกันดีกว่าครับ
<< ห้อง One bedroom แบบ 24 ตร.ม.>>
ห้อง type นี้ถือเป็นห้องส่วนใหญ่ของโครงการเลย โดยจุดเด่นของห้องนี้คือ การใช้พื้นที่ ที่ใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพสุดๆไปเลยครับ ใครจะเชื่อว่า 24 ตร.ม. เราได้ living ที่แยกกับห้องนอนด้วยบานเลื่อน เราได้ครัวที่อยู่ติดระเบียงเป็นสัดส่วน และเราได้ห้องน้ำขนาดที่ใหญ่ กำลังดี … และยังมีรายละเอียดในการออกแบบห้อง type นี้ให้ฝั่งผนังที่จะต้องใช้วาง sofa เป็นผนังที่เรียบไม่มีหยัก ทำให้ใช้งานได้เต็มที่ ส่วนห้องน้ำผมก็ชอบการเลือกใช้กระเบื้องสีขาว+ยาแนวสีเทา ดูเป็นทรงเลขาคณิตดี แล้วเพิ่มความเก๋ด้วยการใช้สีน้ำตาลส้มทาที่ผนังส่วนบน และทาบนฝ้า ทำให้ห้องน้ำของที่นี่ดูน่าสนใจมากๆเลยครับ ภายในห้องนอนสามารถวางเตียง 5 ฟุตได้ มีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ เก็บของได้จริงจัง และมีการ design ให้เว้าช่องเก็บของหัวเตียงเอาไว้ในตู้เสื้อผ้าอีกด้วย หรืออย่างห้องตัวอย่างเค้าก็จัด furniture ที่หมุนเปลี่ยนจากตู้เก็บของมาใช้เป็นโต๊ะทำงานได้อีก ซึ่งเฟอร์ตัวนี้เค้ามีแถมให้ ณ วันเปิดสำนักงานขาย 11 มี.ค. นี้ด้วย (ผมว่า detail เล็กๆน้อยๆพวกนี้มันทำให้การอยู่อาศัยในห้องแบบ 24 ตร.ม. มันอยู่ได้จริงอ่ะครับ)
จัดว่าห้องนี้ เป็นห้องที่พื้นที่ไม่ได้เยอะ แต่ใช้งานได้ดี น่าอยู่ จะอยู่ 1-2 คน ก็ทำได้ ลองดู vdo ที่ผมพาเดินดูห้องนี้กันได้เลยครับ
<< ห้องแบบ One bedroom plus 34 ตร.ม. >>
ห้องนี้ก็มีความน่าสนใจตรงที่เค้าจัดสรรพื้นที่มาได้ดีมากๆเลยครับ ใครจะคิดว่า 34 ตร.ม. ถ้าจัดดีๆ ทำเป็นสองห้องนอนอยู่ได้จริงจังเลยนะครับ อย่างตรงพื้นที่ living ตรงกลางเค้าจัดได้กว้าง สามารถจะเอาพื้นที่ตรงนี้มาทำกิจกรรมต่างๆได้ เป็น flexible space กลางห้องเลย ส่วนของครัวก็ได้เป็นครัวเปิด มีบานเลื่อน ทำอาหารจริงจังได้เต็มที่ ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นครับ ส่วนห้องเอนกประสงค์ จะแบ่งด้วยบานเลื่อน 3 ตอนก็สามารถจัดเป็นห้องนอน หรือห้องทำงานก็ได้ อย่างในห้องตัวอย่าง เค้าทำเป็นห้องนอน สามารถเอาเตียงแบบ 2 ชั้นวางได้ เพิ่ม function การใช้งานได้อีกครับ ส่วนในห้องนอน ก็เป็นสัดส่วน วางเตียง queen size ได้สบายๆ มีตู้เสื้อผ้าเก็บของได้เยอะ ห้องนอนอยู่ติดหน้าต่าง มองวิวสวยๆ สบายๆได้เลยครับ จัดว่าเป็นห้องที่ pack ราคาไม่ได้แรง เริ่มแค่ 3 ล้าน แต่สามารถอยู่เป็นแบบครอบครัวได้เลย ผมว่าลงตัว และคุ้มค่าดีมากๆเลย
ดูผมพาเดินห้องแบบนี้ได้ใน vdo นี้เลยครับผม
// บทสรุป \\
ผมว่า Chapter One All Ramintra เป็นคอนโดแบบ budget friendly ที่น่าสนใจตัวหนึ่งเลยนะครับ ไล่มาตั้งแต่ทำเลที่เดินทางสะดวก มีความคึกคัก ใกล้ร้านค้า ใกล้แหล่งงานมากมาย ประกอบกับงาน design การจัดวางส่วนกลางก็ทำออกมาได้ดี ดูใหญ่ ดูสวย ดูน่าใช้ ดูมี character ดีเลยครับ แบบห้องก็จัดมาได้ลงตัว pack ราคาไม่สูง เป็นเจ้าของได้ง่ายครับ
สำหรับคนที่จะซื้ออยู่เอง ผมว่าห้องแบบ 24 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีนะครับ ห้องเล็กหน่อย แต่เราออกมาใช้ส่วนกลางได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลยนะ จะเดินทางไปไหนมาไหนก็สะดวก เข้าเมืองก็ง่าย ผมว่าอยู่เองยังไงก็คุ้มค่าครับ อาจจะมีเงินเดือนประมาณสัก 2-3 หมื่นบาทต่อเดือน ก็ผ่อนห้องที่นี่ได้สบายๆแล้วครับ ผ่อนเบาๆ เริ่มแค่ 3,900 บาท/เดือน ยิ่งถ้ามองว่าเป็นคอนโดหลังแรก หรือ อาจจะเล็งพวกห้องแบบ 34 ตร.ม. เอาไว้อยู่เป็นครอบครัว ผมว่าราคา 3 ล้านกว่าบาท ซื้อมาแล้วใช้งานได้จริง อยู่กัน พ่อแม่ลูก ก็ดูจะคุ้มค่าดีครับ แล้วถ้าเราซื้อแล้วอาจจะไม่ได้อยู่ตลอดไป ผมว่า value ในการ resale ตึกนี้น่าจะไปได้ต่อนะ เพราะส่วนกลางสวย ทำเลดี ณ วันที่จะต้องขายต่อ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาครับ
ในมุมมองการซื้อลงทุน จากข้อมูลที่ผมดูมา ถ้ามองคอนโดติดถนนใน zone ใกล้เคียงที่อยู่รอบๆรามอินทรา ราคา ณ ตอนนี้จะอยู่ที่ตารางเมตรละประมาณ 110,000 – 120,000 บาทกันแล้ว ในขณะที่ Chapter One All Ramintra ยังเปิดราคามาได้ที่ 89,000 บาทต่อ ตร.ม. ผมว่าคนที่ซื้อก็ถือว่าได้ความพิเศษของราคามาแล้ว ยิ่ง ณ วันที่เราจะมาปล่อยเช่าทำเลนี้มี demand ของทั้ง นักศึกษา คนทำงาน บุคลากรทางการแพทย์ มีความหลากหลายของคนเช่าแน่นอนครับ ยิ่งคอนโดเรามีความแตกต่าง ด้วยปริมาณส่วนกลาง และ design ที่สวยกว่าเพื่อนบ้านในย่านนี้ ยังไงผมเชื่อว่าคนเช่ามาดูก็ต้องหลงรัก อยากอยู่ที่ตึกนี้แน่นอน อย่างเป็นถ้าห้องแบบ 24 ตร.ม. อาจจะคาดหวังค่าเช่าประมาณ 9,000 บาทต่อเดือน ก็น่าจะหาคนเช่าได้สบายๆครับ หรือจะเป็นพวกห้อง 34 ตร.ม. ก็น่าจะได้ค่าเช่าสัก 15,000 บาทต่อเดือน ( yield น่าจะได้สัก 5% สบายๆครับ)
ใครสนใจ Chapter One All Ramintra ลองแวะเข้าไปดูที่สำนักงานขายกันได้เลย หรือจะลงทะเบียนตามนี้ได้เลยครับ https://bit.ly/3YJYEf0
ถ้าซื้อภายในวันที่ 11-12 มีค. นี้ เค้ามี promotion ให้แน่นๆ 100 ห้องแรกจะได้ Smart Furniture Package รับส่วนลดสูงสุดกว่า 200,000 บาท* และมีเปิดยูนิตราคาพิเศษ 20 ห้อง!! เริ่มที่ 1.79 ล้านบาท อีกด้วยนะครับ