The Privacy Jatujak คอนโดราคาเริ่มต้น 3.29 ล้านบาทที่ผม Surprise มากในความอลังการ และ design ของส่วนกลาง !!! ดีจนอยากบอกต่อเลยครับ !!! ต้องบอกว่าปีนี้ผมดูคอนโดในย่านห้าแยกลาดพร้าวหลายตัวมากเลยแต่ละที่ก็มีจุดเด่น จุดแตกต่างกัน ทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกคอนโดแถวนี้ต้องค่อยๆคิดดีๆ แต่หลังจาก The Privacy Jatujak เปิดตึกให้คนเข้าไปดูแล้ว ต้องบอกว่า คนซื้อมีอาการหวั่นไหวแน่นอนครับ เพราะที่ The Privacy Jatujak เค้าจัดส่วนกลางมาได้ดีทั้งแง่คุณภาพ และ ดีในแง่ปริมาณ ส่วนราคาและ spec ห้องก็ตีโจทย์ออกมาดีได้เลยครับ เป็นอีกคอนโดนึงที่ผมเข้าไปแล้ว ผมชอบเลย ชอบมากจนอยากจะให้เพื่อนๆที่กำลังหาคอนโดลองดู ลองพิจารณาตัวนี้กันครับ
// Location \\
มาว่ากันเรื่องทำเลก่อน The Privacy Jatujak ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดี-รังสิต ช่วงขาเข้า จะห่างจากจุดตัดใหญ่ ห้าแยกลาดพร้าวนิดเดียวเองครับ ในย่านห้าแยก ผมว่ามันมีความเป็น เมือง ใน เมือง ที่บอกอย่างนี้เพราะสมัยก่อนเราอาจจะบอกว่า ลาดพร้าว ไกลจัดเลย ทำไมต้องไปอยู่แถวนั้นหล่ะ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แล้วนะครับ ถ้าดูดีๆ ตรงห้าแยกลาดพร้าวเนี่ย มันมีความครบสมบูรณ์ คนอยู่แถวนี้ ก็คือคนที่ทำธุระทุกอย่างได้แถวนี้จบ ไม่ต้องฝ่าฟันเข้าเมืองไปสยามไปสีลม อย่างย่านอื่นนะครับ เพราะ โซนนี้มีทั้งห้างใหญ่ อย่าง Central ลาดพร้าว ( เป็น Central ที่มียอดขายอันดับ2 รองจากแค่ Central World เท่านั้นเองนะ มันแสดงได้ถึงกำลังซื้อของคนแถวนี้นะครับ) และยังมี Union Mall, ตลาดนัดจตุจักรอีก หรือจะมองเรื่อง Office ที่ทำงาน ก็มีสำนักงานใหญ่ของบริษัท Big name ในประเทศเราตั้งอยู่แถวนี้เยอะ มีทั้ง ปตท. , บางกอกแอร์เวย์, การบินไทย, TTB และยังมีตึก Office ใหญ่ๆแบบ Sun tower, เล้าเป้งง้วนโอ้ย office เยอะจริงๆครับ ดังนั้น demand คนทำงานย่านนี้ก็อยากจะหาที่อยู่อาศัยในย่านนี้เยอะเลยครับ

ตัวคอนโดตั้งอยู่ห่างจากรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สถานีพหลโยธิน ไปประมาณ 450 เมตร ซึ่งเป็นสายหลักที่สามารถนั่งต่อเดียวเข้าไปได้ถึง อโศก, สีลม ได้เลย โดยโครงการมี Shuttle Bus รับส่งไปยังสถานีMRT ด้วยครับและยังอยู่ในระยะเดินไปถึงรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งก็เป็นรถไฟที่นั่งต่อเดียวเข้าไปถึงสยามได้เลยครับ เรียกว่าจะเดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็สะดวกมากๆนะครับ
.
ส่วนการขับรถ ก็สามารถใช้ถนนวิภาวดี ขาเข้า ไปขึ้นทางด่วนดินแดง เพื่อเข้าเมืองได้ หรือ จะเข้าไปทางอารีย์จตุจักร ทางด่วนขั้นที่ 2 ก็สามารถวนรถเข้าไปในซอย เพื่อย้อนมาเข้าทางถนนพหลโยธินได้ด้วยครับ เอาว่าอยู่บนถนนใหญ่ เดินทางสะดวกครับ
// แนวโน้มการพัฒนาของพื้นที่ \\
ถ้าเรามองถึงอนาคตของคอนโดในโซนนี้ ผมว่าแนวโน้มดีมากเลย เพราะในจตุจักร ห้าแยกลาดพร้าว พหลโยธินมันจะมีที่ดินแปลงใหญ่ๆที่พร้อมรอการพัฒนาออกมาเป็นโครงการใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็น หมอชิต complex ที่ตอนนี้กำลังก่อสร้างอยู่ , ที่ดิน 47 ไร่ของทางกลุ่ม Central ที่อยู่ติดทั้งถนนพหลโยธิน และถนนวิภาวดี (ที่อาจจะถูกขึ้นเป็นmix used project มูลค่าหลักหมื่นล้านในอนาคต) หรือจะเป็นอาคารสำนักงานเกรด A อย่าง S-Oasis ก็กำลังจะเสร็จใกล้เปิดใช้งานแล้วครับ เอาว่าโดยรวมๆคือ ถ้าเราถือ The Privacy Jatujak เอาไว้ รอให้พวก project เหล่านี้มันขึ้นเป็นรูป เป็นร่างมากขึ้น มูลค่าของทำเลก็จะยิ่งวิ่งไปไกลมากขึ้นครับ
// การออกแบบ \\
The Privacy Jatujak เป็นคอนโดแบบ High rise จำนวน 34 ชั้น สร้างอยู่บนที่ดินประมาณ 3 ไร่กว่า มีจำนวน Unit ประมาณ 832 ยูนิต โดยรวมๆถือว่า เป็นโครงการที่หลวมๆไม่ได้หนาแน่นนะครับ และเค้าใช้ผู้ออกแบบฝีมือสูงอย่างPalmer and Turner บวกกับ Interior designer อย่าง VAIR และ Landscape จาก TK โดยโครงการนี้การันตีด้วยรางวัล Asia Pacific Property Awards 2022 คือ จากที่ผมเข้าไปดูนะ ที่นี่สวยตั้งแต่สวนด้านนอก Exterior ตัวตึกสีเข้มๆมีการซ่อนไฟในแนวตั้ง ส่วนกลางด้านบนก็ออกแบบเป็น sky cube เหมือนเอากล่องกระจกมาวางไว้บนสุดของตึก ยิ่งดูสวยครับ ตัว Interior ก็ใช้วัสดุอย่างดีมีทั้งหินอ่อน Phantom White, White Onyx (หินอ่อนเรืองแสง) แสตนเลสสีทองแดง และสี Accent อย่างสีแดงกับสีน้ำเงิน ให้ feeling แบบเดียวกับโรงแรม 5 ดาวเลยครับ ที่ The Privacy Jatujak ถือว่าเป็นคอนโดที่สวย เกินราคาจริงๆครับ (ลองดูในภาพได้ ถ้าไปดูตึกจริงจะได้ยิ่งรู้สึก Wow ครับ) นอกจากคุณภาพจะคับแก้วแล้ว ปริมาณของส่วนกลางก็ให้มาเยอะมากๆ อย่างพวกที่นั่งทำงาน มีเยอะมาก อยู่ตั้งแต่ชั้น 1,2,3 และ 34 หรือแม้แต่ดาดฟ้าก็ยังมี! ให้คุณลูกบ้านมานั่งพักผ่อน นั่งทำงาน นั่งคุยกับเพื่อนๆ ได้อย่างเหลือเฟือจริงๆครับ ยังไงเดี๋ยวผมไล่พูดถึงส่วนกลางเป็นจุดๆตามนี้เลยครับ
ชั้น 1 จะเป็น lobby lounge เพดานสูงกว่า 5.2 เมตร ตกแต่งอย่างหรู มี sofa มีที่นั่งกระจายอยู่เป็นจุด ใช้งานกันได้เต็มที่ และกระจกเป็นบานเต็มทำให้แสงธรรมชาติเข้ามา ยิ่งทำให้ lobby ดูสว่างดูสวยครับ เดินเข้ามาถึงจะเจอกับบันไดวนที่ใช้หินอ่อน Phantom White ต่อลายมาทำเป็นบันไดโค้ง
พอเราขึ้นไปชั้น 2 ซึ่งจะเป็นส่วนกลางแบบที่เปิด24 ชั่วโมง ซึ่งชั้น 2 จะเป็น E-Library มีที่นั่ง มีโต๊ะทำงาน มีจอ TV ให้ต่อใช้เป็น second screen ได้ ผมว่าทำออกมาได้ดีเลยครับ น่าใช้งาน ตอบโจทย์คนที่ทำงานแบบ work from home ก็มาใช้ห้องนี้ได้เลย
พอเดินขึ้นไปชั้น 3 จะเป็น Meeting room ที่เปิด 24 hr. เช่นกัน ซึ่งจะมีโซนห้องประชุม พร้อมsmart whiteboard เอาไว้นั่งคุยงานกันได้แบบ 10 คนเลยครับ
.
นอกจากนี้ที่ด้านหน้าโครงการยังมีสวน Hidden Forest ที่มีทั้งที่นั่ง น้ำพุ โซนนั่งเล่น เอาไว้ให้ลูกบ้านมาเดินเล่นกันอีกครับ (สวนด้านหน้าจะยังช่วยเป็นตัว พักเสียง เปลี่ยนมู้ดจากถนนใหญ่ด้านหน้าโครงการด้วยนะครับ)
ชั้น 8 เป็นสวนเล็กๆ ชื่อ Green Space ซึ่งจะเป็นชั้นดาดฟ้าของส่วนจอดรถ ผมว่าเค้าก็ทำออกมาได้ดีนะมีPavilionให้นั่งเล่นอีกเช่นกัน และช่วยทำให้ห้องที่อยู่ด้านหน้าโครงการชั้นเตี้ยๆ ได้เห็นวิวสวนไปด้วยครับ
ชั้น 34 จะเป็นชั้น main facility ที่เป็นจุดขายของโครงการเลยครับ โดยจะมีสระว่ายน้ำ Sky pool ยาวๆ ว่ายไปดูวิวสวน 700ไร่ไปด้วย ที่สำคัญเป็นสระแบบ infinity edge pool ดูสวยกว่าคอนโดแพงๆบางที่ซะอีก 555
ฝั่งตรงข้ามของสระว่ายน้ำจะเป็น Sky bar เป็นที่นั่งเล่น พาเพื่อนๆมาสังสรรค์กันได้ แบบ นั่งไป ดูวิวเมืองไปด้วย สวยดีครับ และzone ตรงนี้ยังมีความสูงแบบ double volume ด้วย โปร่ง โล่ง สุดๆเลยครับ
เดินเข้ามาด้านในจะเป็น Workout Space ที่เป็น fitness ขนาดใหญ่ จำนวนเครื่องเล่นถือว่าเยอะเพียงพอแน่นอนครับแถมยังมี Private Fitness ลูกบ้านจะใช้เป็นห้อง Yoga หรือออกกำลังกายอื่นๆก็ได้เลย เค้ามีเครื่อง Icaros ออกกำลังกายแบบเชิงเกมไว้ให้อีกด้วย อีกห้องที่น่าสนใจ คือห้อง Fitness On Demand ที่มีเครื่องปั่นจักรยาน Bike Simulator อีก ถือว่าทำออกมาได้ดีเลยครับ
ถัดเข้ามาด้านในอีกจะมี Co-working Space ที่ตกแต่งด้วยหินอ่อนWhite Onyx ทั้งแผง และมีที่นั่งทำงานเยอะสุดๆไปเลยครับ เรียกได้ว่ามานั่งกันทั้ง office ที่ก็ยังเหลือครับ 555
นอกจากนี้ที่นี่ยังมีKid’s room และ Theater room ให้ลูกบ้านใช้ได้อีก เรียกว่า จัดเต็มสุดๆเลย

และ Highlight ของชั้น 34 นี้ก็จะคือห้อง Sky Lounge ที่อยู่ด้านหน้าของตัวตึกทำให้นั่งเล่นไปดูวิวสวนสีเขียวแบบจัดเต็มไปด้วย ที่สำคัญห้องนี้ตกแต่งสวยมากๆ sofa สีแดง มีการ drop พื้นลงไปหน่อยให้เปิดมุมมองให้เราเห็นวิวได้ชัดขึ้น ผมว่า interior designer ทุกท่านควรจะมาศึกษางานออกแบบที่ตึกนี้นะ ทำได้ดีจริงๆเลยครับ มันมีทั้งความ wow, ความสวย, ปริมาณที่ให้มาเยอะ และวัสดุที่ใช้ก็ดีจริงๆ ผมชอบมากๆเลยครับ
ชั้นดาดฟ้า ทาง The Privacy Jatujak เค้าก็ไม่ปล่อยว่างครับ ทำเป็น Sky Garden มีลูกเล่นเป็นลู่วิ่ง Jogging track ให้ลูกบ้านมาใช้งาน มี Co-kitchen พร้อมเตา BBQ มานั่ง Party กันได้ และยังมีส่วน Sky deck ให้ลูกบ้านมาเฉลี่ยนั่งกระจายๆกันตอนเย็นๆ เอาบรรยากาศได้อีกครับ
โดยรวมๆ ผมว่าส่วนกลางของตึกนี้เยอะมาก และคิดมาดีจริงๆครับ จะหาคอนโดไหน ราคาแบบนี้ segment นี้ ได้ของขนาดนี้ ไม่มีที่ไหนแล้วครับ
// แบบห้อง \\
เรื่อง spec โดยรวมในห้อง ทาง The Privacy Jatujak เค้าก็คิดมาให้เยอะนะครับ มีดูแล้วรู้เลยว่ามีความพยายามจะสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งคอนโดในย่านนี้ อย่างเล่นฝ้าเพดานสูง 2.75 เมตร ซึ่งเป็นความสูงที่เหมาะสม สำหรับคนอยู่อาศัยมาก คือจะไม่รู้สึกอึดอัดเลยครับ หน้าต่างที่ได้ก็บานใหญ่สูงเกือบจะเต็มฝ่า ครัวก็ได้หินควอตซ์ และมีช่องเก็บของมาให้เยอะแบบจัดเต็ม ภายในห้องน้ำ ก็มี built in ที่เก็บของเหนืออ่างล้างมือมาให้ มีกระจกกั้นอาบน้ำมาให้ พร้อม Rain Shower ให้อีก ผมว่าโดยรวมๆคือ เป็น spec ที่ดีมาก ให้ครบ คุ้มค่าเกินราคาเลย … ทีนี้มาไล่ดูlayout ห้องที่ผมชอบๆกันบ้างนะครับ
One bedroom ขนาด 26.5-27 ตร.ม.
ห้องนี้เป็น layout สุด classic ที่ผมเห็นทีไร ผมก็จะชอบทุกครั้งเลย เพราะว่าพื้นที่แค่ 26.5-27 ตร.ม. อาจจะฟังดูไม่เยอะนะครับ แต่ห้อง layout นี้คือได้ความครบจริงๆ เริ่มจากได้ living ที่ใหญ่ มีระยะดูทีวีที่ ok เลย ตัว sofa ก็วางได้ขนาดเกือบจะ 2 เมตร ถัดมาก็ได้ครัวปิด และเป็นครัวที่อยู่ติดกับหน้าต่าง สามารถทำครัวได้จริงจัง (เวลาทำครัว ก็เปิดหน้าต่างด้วย กลิ่นก็ไม่เข้าห้องครับ) ส่วนห้องนอนก็ขนาดกำลังดี วางเตียง Queen size ได้ มีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ให้อีก ยิ่งพอเห็นราคาห้องนี้ เริ่มต้น 3.19 ล้านบาท ยิ่งต้องบอกว่า โคตรคุ้มเลยครับ คือเราอาจจะอยู่ห้องไม่ต้องใหญ่มาก แล้วใช้เวลาอยู่ส่วนกลางเยอะหน่อยก็ได้ ที่นี่เค้าก็จัดส่วนกลางมาให้เต็มที่ด้วย
ลองดู vdo ที่ผมพาเดินดูห้องตัวอย่างนี้ได้เลยครับ
.
One bedroom ขนาด 30 ตร.ม.
อันนี้จะเป็นห้องที่อยู่ด้านหน้าของโครงการ ตำแหน่ง จะเป็นห้องที่มองเห็นวิวสวนได้ทุกยูนิต ยิ่งถ้าชั้นสูงๆก็จะยิ่งสวยครับ ตัว layout เป็นห้องแบบแนวลึก เปิดประตูเข้ามาเป็นห้องครัว (แบบปิดกั้นด้วยบานเลื่อน 3 ตอน) ด้านข้างจะเป็นห้องน้ำ แล้วเดินลึกเข้ามาในห้องจะเป็น living room ที่มีระยะดู TV ได้ไกลมากๆ วาง TV แบบ 60 นิ้วได้สบายๆเลยครับ ส่วน sofa ก็วางขนาดใหญ่ได้ดี เพราะเราจะใช้ นั่งกินข้าวบน sofa ด้วยได้เลยครับ เดินเข้ามาในสุดก็จะเป็นห้องนอน มีโต๊ะแต่งหน้า อยู่ปลายเตียง Buit-in ตู้เสื้อผ้าหน้าบานกระจกไว้ให้ และมีระเบียงเอาไว้ไปยืนมองวิวสวนสวยๆด้วยนะครับ ส่วนด้านข้างเตียงจะเป็นBay Window เราสามารถทำวางโต๊ะทำงาน หรือ วางarmchair ไว้ก็ได้ครับ ถือว่าเป็นห้อง 30 ตร.ม. ที่จัดสรรพื้นที่ได้ดีนะครับ
ลองดู vdo ที่ผมพาเดินดูห้องตัวอย่างนี้ได้เลยครับ
.
นอกจากนี้ที่ The Privacy Jatujak ยังมีห้องRare อย่าง Loft เพดานสูง สูงงกว่า 5.8 เมตร! (อยู่ชั้นสูงด้วยนะ) และมีtwo bedroom แบบ 53 ตร.ม. ซึ่งก็อาจจะตอบโจทย์การอยู่เป็นครอบครัวได้ด้วยครับ ยังไงสนใจลองเข้ามาดูกันได้ครับ
// สรุป \\
ถ้าจะให้ผมพูดถึง The Privacy Jatujak แบบตรงๆผมคงต้องบอกว่า ในย่านห้าแยกลาดพร้าว คู่แข่งคอนโดมีหลากหลาย Privacy เค้าก็รู้ว่าทำเลของเค้าอาจจะกระเถิบออกมาจากรถไฟฟ้าหน่อยถ้าเทียบกับตึกอื่น แต่สิ่งที่ตึกนี้เค้าทำมาชดเชยคือ ความดีงามของส่วนกลางที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็น no.1 ในย่านนี้ได้เลยนะครับ คิดง่ายๆว่าคอนโดราคาแสนนิดๆต่อตารางเมตร แต่ส่วนกลางเราดีกว่าคอนโดราคาสองแสน ต่อตร.ม.ในเมืองบางตัวซะอีกนะครับ5555 ต้องยกนิ้วให้คนออกแบบ และคนที่ทำงานออกมาเลยครับ ดังนั้น ถ้าพิจารณาในแง่ความคุ้มค่าผมว่าคนซื้อที่นี่ โคตรคุ้มเลย !!!
มามองในแง่การซื้อเพื่ออยู่เอง >> ผมคิดว่า ถ้าเราชอบ layout ห้อง ที่จะเป็นขนาด compact size ขนาดกำลังพอดีๆ(ที่นี่ จะไม่ได้มีใหญ่ๆให้เลือกนัก) ผมว่าซื้อได้เลยนะ เพราะ budget มันไม่สูง ราคา 3-4 ล้านบาท แล้วเราได้อยู่คอนโดทำเลเดินทางสะดวก ส่วนกลางดีเยี่ยม ผมว่ายังไงก็คุ้มครับ เวลาอยู่อาศัย ก็เน้นที่การนั่งเล่นใช้ส่วนกลางให้มากหน่อย หรือถ้างบเยอะอยากได้ห้องใหญ่ก็สามารถจะซื้อห้องแบบ Loft หรือว่าเอา Two bedroom มาใช้เป็น One bedroom plus ผมว่าก็ไม่ผิดนะ ราคาที่เราได้ยังอยู่ใน range 5-6 ล้านบาท ผมว่าราคามันก็ยัง make sense อยู่นะ ถ้าถามผมว่าในระยะยาวตึกนี้จะดีไหม ผมว่าทำเลห้าแยก มันมีศักยภาพที่จะเติบโตนะ ซื้อเอาไว้อยู่สัก 3ปี 5ปี แล้วก็ขาย ยังไงก็คุ้มค่าที่เราได้อยู่แล้ว ผมว่า target หลักๆเลยน่าจะเป็นคนที่ทำงานแถวนี้ น่าจะซื้อที่นี่ได้สบายๆครับ ผ่อนก็ไม่แรง เดินทางไปทำงานก็สะดวกนะครับ
ในมุมมองการซื้อมาปล่อยเช่า >> เวลาเลือกซื้อคอนโดมาปล่อยเช่า ผมว่า Wow factor ของคอนโดจะช่วยให้คนเช่าตัดสินใจเลือกเช่าได้ง่าย ซึ่งผมว่าที่นี่มีความแตกต่างจากตึกอื่นอย่างชัดเจนในเรื่องของส่วนกลาง และยิ่งมาพิจารณาคู่กับราคาคอนโด อย่างราคาถ้าเราซื้อห้องมา 3 ล้านนิดๆ ค่าเช่าที่คาดหวังน่าจะอยู่ประมาณ 15,000 – 19,000 บาท ซึ่งผมเชื่อว่าห้องแบบ One bedroom ที่ตึกนี้ คนเช่าเค้ามีศักยภาพที่จะจ่ายได้ที่ราคานี้ ทำเลนี้นะครับน่าจะหาคนเช่าได้ไม่ยาก (ขนาดทำเลอย่างรัชโยธินที่กระเถิบออกไปไกลกว่านี้ ค่าเช่าก็อยู่ในช่วงนี้ ก็ปล่อยเช่ากันได้สบายๆครับ) และ value ของโครงการในอนาคต ผมมองว่า คนที่ชอบงาน design ชอบส่วนกลางสวยๆ ชอบเห็นวิวสวน ตึกนี้ตอบโจทย์คนที่จะมาซื้อต่อจากเรามากๆเลยนะครับ อย่างคิดง่ายๆ เดินเข้ามาเจอส่วนกลางสวยๆแบบนี้ ก็เกิดอาการเคลิ้มแล้ว 555 เค้าก็อยากจะเลือกซื้อ เลือกเช่าที่โครงการนี้ ตั้งแต่ moment แรกที่เดินเข้ามาที่ตึกนี้แล้วครับ และสำหรับคนที่กะซื้อทั้งที ผมแนะนำว่า ถ้ามีห้องสวยๆ อย่าง Loft เพดานสูงที่มีคู่แข่งน้อย หรือ พวกห้องชั้นสูงๆที่วิวสวน ถ้าเราซื้อเก็บไว้ได้แล้วราคามันไม่ได้โดดมาก ผมก็แนะนำให้ซื้อห้องเหล่านี้นะครับ จะได้เป็นการสร้างจุดแตกต่างเพิ่มอีก ตอนขายออกจะได้ขายง่ายกว่าห้องอื่นๆ เพราะเราเลือกห้องดีๆมาตั้งแต่ทีแรกแล้ว้ครับ
.
ก็น่าจะประมาณนี้นะครับสำหรับคอนโด The Privacy Jatujak เป็นอีกคอนโดที่ผมประทับใจมาก มาเหนือความคาดหมายจริงๆ กับส่วนกลางที่สวยมาก กับ layout ห้องที่จัดมาได้ดี ถ้าเพื่อนๆคนไหนสนใจ ลองกดที่ Link ลงทะเบียน: https://bit.ly/3B2VmJM