รีวิวคอนโด Romm convent : ทำเลเยี่ยมสุดๆ ส่วนกลางดี ความเป็นส่วนตัวสูง ราคาก็เหมาะสม

ถ้าเพื่อนๆคนไหนกำลังหาคอนโดที่อยู่ใจกลางเมืองซื้อเก็บเอาไว้อยู่เอง(เป็นแนวบ้านใจกลางเมือง) หรือเป็นทรัพย์สินระยะยาว ผมเชื่อว่า Romm convent นั้นตอบโจทย์สุดๆไปเลย มาดูสิ่งที่ผมชอบมากๆเกี่ยวกับคอนโดนี้กันครับ

1. ทำเลดีมีอนาคต … Romm convent ตั้งอยู่ในซอยคอนแวนต์ ซึ่งเป็นซอยเชื่อมระหว่างสีลม กับสาทร จะไปไหนก็ใกล้ครับ (ใกล้พระรามสี่, ถนนวิทยุ, สวนลุม) ตัวคอนโดเองก็อยู่แค่ตรงข้ามโรงพยาบาล BNH เท่านั้นเอง ใกล้ๆก็เป็น
รร.เซนต์โยเซฟคอนเวนต์ 

2. จังหวะ ณ เวลาที่คอนโด Romm convent สร้างเสร็จคือ Q4 ปี 69 ซึ่งจะเป็นปีที่ Mega project บนเส้นพระราม4 อย่าง One Bangkok และ Dusit Central Park จะเสร็จพอดี ทำให้สภาพแวดล้อมของทำเล มันยิ่ง upgrade ขึ้นไปถึงจุด Peak!! ก็ยิ่งแปลว่า คอนโดของเราก็จะมีมูลค่าสูงขึ้นตามทำเลไปด้วย

3. ยูนิตน้อย … คือที่ Romm convent เนี่ย มีแค่ 180 ยูนิตเท่านั้นเอง เวลาเราหาคอนโดใน segment luxury สิ่งที่ลูกค้าให้ความสำคัญคือความเป็นส่วนตัวครับ (คนมีตังค์ เค้าอยากจะเลือกอยู่โครงการที่ private หน่อย ไม่วุ่นวาย) ถ้าเรามองไปรอบๆคอนโดที่เปิดใหม่แถวนี้ ไม่มีที่ไหน private เท่าที่ Romm convent แล้วครับ 

4. ส่วนกลางดีเว่อร์ … ผมว่า design ของตึกนี้เค้าเน้นความเป็น CBD retreat อยู่แล้วจะ relax ดูสบายๆ เหมือนอยู่ Resort พวกงาน interior ก็ใช้หิน ใช้ไม้ ดูอุ่นๆ น่าใช้งานครับ และเค้ามีการผูกเรื่องการอยู่เป็นแบบครอบครัว มีที่ห้องอ่านหนังสือ ห้องซ้อมดนตรี สนามเด็กเล่น หรือ ผู้สูงอายุก็ได้ทาง BNH มาช่วย support ด้วยผมว่าตอบโจทย์การอยู่อาศัยดีมากๆครับ ส่วนพวกที่จอดรถก็ให้มาถึง 110% เรียกว่าส่วนกลางเยอะมากๆจริงๆครับ 

5. ราคาที่เปิดมา Average 258,000 บาทต่อตร.ม.  ผมว่าไม่ได้แพงจนเกินไป เทียบกับของที่เราได้ในคอนโดแล้ว ถือว่า คุ้มค่า ยิ่งมองไปในอนาคต ณ จังหวะที่ตึกเสร็จ ผมเชื่อว่า ราคาแบบนี้ จะหาคอนโดมาเทียบได้ยากเลยครับ

6. Layout ห้องที่ดี เหมาะกับการอยู่อาศัยจริง … ด้วยโจทย์ที่ทาง dev เค้าทำการบ้านมา เค้าอยากจะเพิ่ม supply ของห้องใหญ่ๆ เน้นแนวครอบครัว ตึกนี้เลยจะมีห้องแบบ 2bed, 3bed เยอะหน่อย ซึ่งแต่ละห้องก็ขนาด 80++ ตร.ม. ซึ่งเป็นขนาดที่ใหญ่ อยู่สบาย เหมือนอยู่บ้าน (ผมหล่ะตกหลุมรักห้องแบบ Sky Villa 128 ตร.ม.จริงๆเลย ห้องมันสวยจริงๆ)

ฟังแค่นี้ผมว่าใครสนใจก็ควรจะรีบไปหาทางซื้อแล้วครับ!!! เพราะบอกเลยว่าของดี หมดไว ไม่รอใครจริงๆ (อย่างคิดง่ายๆว่าพวกห้องขนาด One bedroom นี่เปิดขายมาไม่กี่อาทิตย์ แทบเกือบจะขายหมดแล้วนะครับ !!!) แต่ถ้าสนใจ Romm Convent ในรายละเอียดก็ลองอ่านรีวิวนี้ต่อกันได้เลยครับ
ลงทะเบียนรับสิทธิ์พิเศษได้ที่ : http://bit.ly/3ysNcJ3

//ทำเล

คอนโด Romm convent ตั้งอยู่ในซอยคอนแวนต์ อยู่ฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาล BNH ครับ ตัวซอยนี้เป็นซอยที่สวยและร่มรื่นนะครับ มีต้นไม้ใหญ่ๆให้ร่มเงา ฟุตบาทก็ดูกว้างน่าเดิน ในซอยก็จะมี street food ร้านค้าต่างๆกระจายอยู่ เดินจากคอนโดไปนิดเดียวก็ถึงโรงเรียนเซนต์โยแล้วครับ ซึ่งเชื่อว่าผู้ปกครองโรงเรียนนี้จะมาเป็นลูกบ้านที่
Romm Convent กันเยอะเลย ตัวซอยคอนแวนต์นั้นทะลุได้ทั้งฝั่งสีลม และสาทรนะครับ ขับรถออกไปนิดเดียว ก็ไปพระราม 4 จะไปขึ้นทางด่วน ไปไหนมาไหน ก็สะดวกสุดๆเลยครับ ส่วนรถไฟฟ้าสถานีที่ใกล้ที่สุดก็จะเป็น BTS ศาลาแดง อยู่ห่างออกไปประมาณ 500 เมตร โดยถ้าเดินไปจากคอนโดเราก็จะเดินผ่าน Park Silom โครงการ Mix used ขนาดใหญ่ที่หน้าปากซอย เดินไปอีกนิดก็จะเจอกับ Silom Complex เรียกได้ว่า อุดมด้วยร้านค้า, ร้านอาหาร, office, โรงเรียนชั้นนำ, โรงพยาบาล ทุกอย่างครบครันอยู่ในระยะเดินใกล้ๆเลยครับ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตทั้งคนไทย, ครอบครัว หรือจะเป็น Expat ได้หมดเลยครับ

// แนวโน้มการพัฒนาของทำเล

ผมเชื่อว่าคอนโดซื้อคอนโด ก็จะคิดว่า คอนโดเรา เมื่อเวลาผ่านไป ราคาก็ควรจะขึ้น มูลค่าห้องเราก็ควรที่จะสูงขึ้น ซึ่ง Romm Convent นั้น ตอบโจทย์เรื่องนี้ได้ดีมากๆ เพราะคอนโดเรา ตั้งอยู่ใน zone ที่ใกล้กับ Mega project ใหญ่ๆถึง  2 แหล่ง อันได้แก่ Dusit Central Park ที่เป็นโครงการที่มีทั้ง Office Grade A, ห้าง Central ขนาดใหญ่ (ใหญ่กว่า Central Embassy อีกนะครับที่นี่), โรงแรม และ คอนโดแบบ leasehold กระเถิบมาอีกนิดก็จะเป็น One Bangkok ที่เป็นอภิมหาโปรเจ็คจากกลุ่มเบียร์ช้าง ที่จะมีทั้งโรงแรมชั้นนำ, ห้างขนาดใหญ่, Office สำนักงาน และ คอนโดแบบ leasehold (อีกเช่นกัน หิหิหิ ผมเน้นนะว่า leasehold) คือ ถ้าจะคิดภาพง่ายๆนะครับ ณ ปี 69 วันที่คอนโด Romm Convent เสร็จ เจ้า mega project เหล่านี้ก็จะเสร็จสมบูรณ์พร้อมๆกัน เราจะได้เห็น พื้นที่ retail space พวกห้างต่างๆ ขนาดใหญ่ประมาณ 2 เท่าของ ห้างมาบุญครอง (ถือว่าใหญ่มาก), เราจะได้รับ demand คนเช่า Expat ของบริษัทใหญ่ๆที่จะมาทำงานที่ใน 2 โซนนี้, เราจะได้เจอกับคอนโดตารางเมตรละ 300,000 บาท++ ที่เป็นแบบ leasehold เช่าระยะยาวเท่านั้น ไม่ได้ซื้อขาด ! พอหันมามอง ณ วันที่ Romm Convent พร้อมเข้าอยู่ ผมว่า คอนโดเราจะดูราคาไม่แพง แต่อยู่ในทำเลที่เพรียบพร้อมสุดๆ ดังนั้น ไม่ว่าจะมองมุมไหน ที่นี่มันก็น่าซื้อจริงๆเลยครับ

ปล. นี่ผมยังไม่ได้นับ Park Silom, โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน ก็จะ renovate ทำใหม่, มีตึกสำนักงานใหม่ๆบนถนนสีลม และ สาทร ที่จะเสร็จใกล้ๆเวลาเดียวกันอีกเยอะเลยครับ ดังนั้น เชื่อขนมกินเลยว่า ซื้อที่นี่ สบายใจแน่นอนครับ

// การออกแบบ และ ส่วนกลาง

Romm Convent เป็นคอนโดแบบ High rise สูง 32ชั้น มี Unit ทั้งหมด 180 ยูนิต มีที่จอดรถแบบ Automatic Parking 110% , ที่จอดรถ EV 8 ช่องจอด สร้างบนพื้นที่ดินประมาณ 1 ไร่ 2 งาน … จากข้อมูลพื้นฐานเหล่านี้จะเห็นได้ว่าคอนโดนี้ Density ค่อนข้างต่ำนะครับ จำนวน Unit ถือว่าน้อยมากๆ (แทบจะหาคอนโดเปิดใหม่รอบๆทำเลนี้ ที่ยูนิตน้อยๆแบบนี้ไม่ได้เลยครับ) มันหมายความว่า คนอยู่อาศัยจะได้รับความเป็นส่วนตัวที่สูง ไม่ต้องแย่งกันใช้ facility หลีกหนีความวุ่นวายได้จริงๆ มองๆไปผมว่าจะคล้ายๆกับ Saladaeng One เลยครับ ที่ตึกนั้น พอยูนิตน้อย คนไม่วุ่นวาย ลูกบ้าน happy กันมากๆเลย เพราะชอบบรรยากาศความเป็นส่วนตัว ซึ่งผมว่า Romm Covent ก็จะได้อารมณ์แบบนั้นครับผม ส่วนเรื่องที่จอดรถเค้าให้มาถือว่าเยอะนะ และถ้าใครคิดว่าไม่ค่อยชอบลิฟต์รถ ต้องบอกว่าตึกนี้เค้าใช้ระบบแบบ จอดรถที่ถาดวงกลมด้านหน้า แล้วค่อยให้หุ่นยนต์มาตักรถเราเข้าไปในลิฟต์ ทำให้เวลาจอด จอดง่าย และไม่ต้องจอดเข้าไปในที่แคบๆ จะหยิบของจะเปิดประตู จะให้ผู้สูงอายุ ให้เด็กๆลงจากรถ ก็ง่ายๆ เลยครับผม

ทีมออกแบบเค้าก็ใช้ Dream team ในความคิดผมเลยนะครับ คือ Openbox ออกแบบงาน Architecture (เจ้านี้ออกแบบตึกสวยสุดๆเลย อย่าง Saladaeng One ก็เป็นผลงานของเค้า), PIA ออกแบบภายใน อันนี้ก็เป็นบริษัทออกแบบระดับ Top ของประเทศ มีผลงานทั้งในคอนโด และ โรงแรม 5 ดาวมากมายครับ ส่วนสุดท้ายจะเป็น TK studio มาออกแบบงาน Landscape (ผลงานที่ผ่านๆมาก็อย่างสวนสวยๆเท่ห์ที่ Khun by Yoo ครับ) ที่ผมพยายามจะสื่อสารคือ ด้วย Dream team ขนาดนี้ เป็นตัวการันตีว่า ยังไง Romm Convent ก็ออกมาสวยแน่นอนครับ

Concept การออกแบบหลักๆของตึกนี้คือ Romm มาจากความว่า รื่นรมย์ ดังนั้นเค้าอยากจะทำให้คนอยู่อาศัยรู้สึกความสุข รู้สึกได้รับการพักผ่อนจริงๆ เค้าก็ออกแบบมาให้เข้าคอนโดมาแล้วเหมือนอยู่โรงแรม ดูสบายตาดี มีความเป็นธรรมชาติแบบ Organic อย่างพวกวัสดุที่เลือกใช้ก็จะเป็นไม้ๆสีกลางๆ ,หินสีน้ำตาลอย่างหิน Travertine, หินอ่อนสีขาวเขียวอย่าง Ice Jade, รวมกับการดึงเอาพวกต้นไม้เข้ามาวางในพื้นที่ภายใน เน้นการให้ลม flow ในพื้นที่ต่างๆของตัวตึก ผมว่ามันเป็นความหรูหราอีกรูปแบบนึงที่เราไม่ต้องเกร็งเวลาอยู่อาศัย อยู่แล้วสบายตัว สบายใจ ดีนะครับ และที่สำคัญผมว่า design style นี้มันอยู่ได้นานดีนะครับ ส่วนพวก Exterior เค้าก็ทำออกมาสวยเลย ผมว่ามันดูโดดเด่นดีนะ มีการใช้ลายไม้ (คล้ายๆสีไม้สัก)มาต่อๆกัน รวมกับกระจกบานใหญ่ แล้วก็สวนสีเขียว มีต้นไม้วางบนตึก ทำให้ตึกออกมามีภาพจำดีครับ เป็นอาคารที่ดูเท่ห์ไม่ซ้ำใครเลย หิหิหิ ยิ่งมองขึ้นไปส่วนกลางชั้น 30-32 ที่เป็นยอดตึก ผมว่าสวยดี มันดูโปร่งๆมีการเล่นกับการเป็นสวน outdoor ได้ดีเลยครับ สรุปคือ ชอบงานออกแบบของตึกนี้มากๆเลย

ลองดู Model ได้จาก vdo นี้เลยครับผม

ทีนี้มาว่ากันเรื่องพวกส่วนกลางดีกว่าครับ ส่วนกลางของ Romm Convent นั้นให้มาเยอะจัดเต็มทั้งแง่ปริมาณและ คุณภาพนะครับ ไล่ดูกันทีละโซนเลยครับ

ชั้น G จะเป็น lobby แบบเพดานสูง มี Proud Health Butler นั่งให้บริการ 

และมี Fitlab Cafe & Co-working ที่จะเป็นที่นั่งทำงาน นั่งติวหนังสือได้ เป็นห้องแบบเพดานสูงเช่นกัน มองออกไปจากห้องนี้ก็จะเห็นสวนสีเขียวล้อมรอบเลย และมีบันไดวนสุดเท่ห์พาเดินขึ้นไปชั้น 2 ได้ ซึ่งจะเป็นห้อง Study room และ Music room ผมว่า zone ตรงนี้เค้าเน้นสำหรับนักเรียน อาจจะพาเพื่อนๆมานั่งติวหนังสือกัน หรือ เรียกคุณครูจากข้างนอกมาสอนพิเศษ ก็มาใช้งาน zone นี้กันได้เลยครับ

.

พื้นที่สีเขียวด้านหน้าโครงการ เค้าทำเป็นสวนชื่อ Sensory garden คือจะเลือกสรรพันธุ์ต้นไม้ วัสดุต่างๆ ให้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 เราได้ชื่นชม ทั้ง กลิ่นที่หอม เสียงน้ำไหล ดอกไม้สีสวยๆ ต้นไม้พวกสมุนไพรที่ใช้กินได้ หรือ texture ต่างๆของพื้นให้เด็กๆได้สัมผัส โอ้ว ดีงามจังเลยอ่ะ

ชั้น 2 จะมี Wellness lounge เอาไว้นั่งเล่นอ่านหนังสือ แบบสงบๆ และสามารถรับบริการจากโรงพยาบาล BNH ได้ด้วยนะครับ เช่น จะรับยา หรือ ให้คุณพยาบาลมาฉีดยาหรือเจาะเลือดก็ทำได้ครับ

ชั้น 30 จะเป็นสระว่ายน้ำขนาด 5 x 25 เมตร ว่ายได้จริงจัง มีที่นั่งแบบ ชิคๆ มี Hydrotherapy มีสระเด็ก เรียกได้ว่าครบครันเลยครับ และชั้นนี้จะมีห้อง Gym อยู่ด้วยครับ

ชั้น 31 มีห้อง Wellness studio เอาไว้ใช้ Yoga ได้, มี Meditation pod เอาไว้นั่งสงบๆ ชอบวิวสวยๆ, Treatment room เอาไว้จ้างคนมานวด มาทำ spa ให้เราได้ครับ, มี Onsen พร้อม Steam ด้วยระบบ Aqua Symphony ที่ให้แสง สี เสียง ตอนเราอาบน้ำ คือ เก๋มากๆ ครับ  

ชั้น 32 จะเป็น Sky lounge เอาไว้นั่งเล่นชมวิวสวยๆได้, มี Sensory Playground เป็นสวนสนุกย่อมๆของเด็กไว้ให้เล่นออกกำลังกายได้ดีเลย ผมเห็นภาพแล้ว ดูน่าสนุกมากๆเลย ลูกๆน่าจะชอบโซนนนี้มากๆเลยครับ

ชั้น Roof top จะเป็น BBQ yard เอาไว้นั่งเล่น Party กัน หรือจะ ใช้ดูวิวสวยๆ มองไปได้ไกลถึงสวนลุยเลยครับ 

เอาว่าที่เล่าๆมาทั้งหมดนี้ ผมย้ำอีกทีว่า ส่วนกลางนี้มีแค่ 180 ยูนิตที่แบ่งกันใช้นะครับ ถือว่าเพียงพอแน่นอน และถ้าดูจากภาพ tive จะเห็นได้ว่า แทบจะทุก zone เค้าใส่ design กันเต็มที่เลยนะครับ สวนต่างๆก็สวย พวก exterior ที่ดูเป็นไม้ๆ ก็เชื่อมให้จุดต่างๆมันดูน่าใช้มากๆเลยครับ ผมหล่ะอยากให้เข้าทำเสร็จไวไว จะได้เข้าไปดูจริงๆเลยครับ

เรื่อง Wellness ก็เป็นจุดต่างสำคัญของ Romm Convent นะครับ ไหนๆก็อยู่แค่ตรงข้ามโรงพยาบาลระดับ top ของประเทศอย่าง BNH แล้ว ทาง Romm Convent ก็มีการจับมือเพิ่ม service พิเศษๆจากทาง BNH ให้สามารถส่งตรงมาที่คอนโดเราได้เช่น สามารถส่งพยาบาลมาดูแลเราได้, สามารถจัด course อาหารเพื่อสุขภาพมาได้, มีบริการส่งยามาที่คอนโดได้ หรือ ลูกบ้านที่ซื้อคอนโดก็จะเป็น Vip member ของทาง BNH สามารถเข้าไปใช้บริการ Loyal Heritage Lounge ที่ BNH ได้ และยังได้ส่วนลดพิเศษอีก 20% ด้วยนะ

// รูปแบบห้อง

ชั้นพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 3-27 และมี Penthouse อยู่ที่ชั้น 28,29

ตึกนี้จะเน้น design ให้ห้องมีขนาดใหญ่ เน้นที่ส่วน living ให้กว้างๆ spec ภายในห้องก็จะได้เพดานสูง 3 เมตร กระจกบานเต็มแบบ full height สูงและกว้างมากๆ เพื่อให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้เต็มๆ พื้นไม้เป็นแบบ Hybrid Engineered Flooring สีสวยดี ดูแลรักษาง่ายด้วย ส่วนพวกครัวก็จะใช้หินอ่อน Ice Jade สีเขียวตัดขาว คู่กับบานสีไม้ ดูสวย คล้ายๆดึงเอา design ของส่วนกลางต่างๆมาไว้ในห้องเราดีครับ ถึงแม้ว่าโครงการจะขายแบบ full fitted แค่เค้าก็จะมี built in พวกที่เก็บของ ตู้เสื้อผ้ามาให้ด้วยครับ

ห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ขนาด One bedroom 34.58 ตร.ม. – 51.44 ตร.ม. (โดยห้องพวกนี้เท่าที่ผมรู้มาคือขายไปแทบจะหมดแล้วนะครับ ตั้งแต่ 1-2 อาทิตย์แรกที่เปิดขายแล้วครับ) ส่วนห้อง One bedroom plus 60 ตร.ม. ก็จัดพื้นที่ออกมาได้ดี เดี๋ยวผมเล่าในรายละเอียดอีกทีครับ

พวกห้องแบบ Two bedroom จะเป็นห้องหัวมุมขนาดเริ่มตั้งแต่ 84 ตร.ม. – 138 ตร.ม. อาจจะมีหลากหลาย layout นิดนึง แต่โดยรวมๆ designer เค้าเน้นให้ scale ของ living ใหญ่ อยู่อาศัยได้สบายๆ มีช่องแสงเยอะแบบสุดๆ ผมว่าเหมาะกับการใช้อยู่แทนบ้านมากๆเลยครับ 

ส่วนพวกห้อง Three bedroom ก็มีขนา 147 ตร.ม. – 192 ตร.ม. พวกนี้จะเป็นห้องแนว family มีห้อง maid ทุกห้องนอนวางเตียง king size ได้สบายๆ ถือว่า ใครจะซื้อเป็นบ้านใจกลางเมือง ก็ดีเลยครับ

ทีนี่มาไล่ดูห้องตัวอย่าง ที่น่าสนใจของโครงการกันนะครับ

One bedroom plus 60 ตร.ม.

ห้องนี้จะเป็นห้องที่มีความ flexible ในการอยู่อาศัยมากๆครับ เพราะ พื้นที่ 60 ตร.ม. ถือเป็นห้องที่ใหญ่นะครับ

และ layout เค้าจัดวาง living มาให้แบบเต็มๆมากๆบวกกับเพดานสูง 3 เมตร และกระจกหน้าต่างระเบียงบานใหญ่แบบเข้ามุม ทำให้ เวลาเดินเข้ามาในห้องแล้ว Wow มากๆเลยครับ

ห้องนอนก็ขนาดกำลังดี วางเตียง King size ได้มีระยะเดินรอบๆสบายๆ

ส่วนห้องน้ำเค้าก็ให้อ่างอาบน้ำมาด้วยนะครับ และสามารถเข้าออกได้ทั้ง 2 ทาง

ตัวห้อง plus ขนาดอาจจะไม่ได้ใหญ่มาก แต่เค้าก็ให้แอร์ในห้องนี้มาด้วยนะ สามารถจะใช้บานเลื่อนปิดเป็นส่วนตัวได้ครับ จะจัดเอาไว้เป็นห้องทำงาน ห้องเก็บของ หรือ ห้องนอนเด็กๆ ก็พอจะทำได้ครับผม

และ pack ราคาที่ประมาณ 14-17 ล้านบาท ผมว่าห้องนี้น่าสนใจดีนะครับ ลองดู vdo ที่ผมพาเดินดูห้องนี้ได้ครับ

.

Two bedroom แบบ Sky Villa 128 ตร.ม.

เกริ่นก่อนเลยนะครับว่า ผมชอบห้องนี้มากๆเลย จำได้ว่าแอบไปเดินดูห้องนี้ตอนยังทำไม่เสร็จตอนนั้นเห็นแค่ ห้องเปล่าๆก็ว่าสวยแล้ว พอมาดูวันนี้ โอ้ว สวยโคตรเลย คือ ห้องนี้เป็นสองห้องนอน แต่เค้าใช้พื้นที่แบบจัดเต็มจริงๆ 128 ตร.ม. นี้มันเป็นพื้นที่ใช้สอยของบ้านดีๆนี่เองนะครับ เริ่มจากทางเข้าห้องเราจะได้ประตูขนาดใหญ่ กว้างสุดๆ สามารถเข็นรถเข็นเข้ามาในห้องได้ครับ

เปิดเข้ามาในห้องจะเป็นโถง Foyer ที่มีพวกที่เก็บของตู้รองเท้า ที่เก็บตู้ซักผ้าซ่อนไว้ให้ และมีประตูแยก 2 ทางไปที่ครัว กับไปที่ห้อง living ,

ภายในห้อง living จะมีขนาดใหญ่มากๆๆๆๆ และมีช่องหน้าต่างขนาดใหญ่ถึง 4 ช่อง ทำให้แสงธรรมชาติ เข้ามาได้อย่างเต็มๆ และถ้าเราเปิดหน้าต่าง ลมก็จะ flow สุดๆเลยครับ ตัวผนัง TV, Sofa, Dining, Kitchen จะเชื่อมต่อกันหมด ทำให้ พื้นที่ดูกว้างมากๆ เป็นพื้นที่ living room ในคอนโดที่แทบจะ wow ที่สุดเท่าที่ผมเคยดูมาเลย !!!  สมกับชื่อที่เป็น Sky villa บ้านลอยฟ้าจริงๆครับ

ส่วนของครัว ก็จะมี island เพิ่มเติม เอาไว้เตรียมอาหารได้ มีการเว้นช่องตู้เย็นแบบ side by side ไว้ให้ และข้างๆครัวก็จะมีห้องเก็บของไว้ให้ด้วย 

ถัดไปในห้องนอนใหญ่ ก็จะได้ ช่องแสงเยอะ มีกระจกเข้ามุม วางเตียง king size ได้สบายๆ

ห้องน้ำใน master bedroom ก็จะอ่างล้างหน้าแบบ his and her, ได้อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ และเค้าแยกโถสุขภัณฑ์เอาไว้อีก zone ทำให้สามรถใช้งานกันได้พร้อมกัน ถือว่าดีเลยครับ

ส่วนห้องนอนเล็ก จริงๆก็ไม่เล็กนะครับ มีห้องน้ำในตัว จะวางเตียง queen size หรือ King size ก็สามารถทำได้ และได้กระจกแบบเข้ามุม ห้องดูกว้างเลยครับ

เอาว่าห้องนี้เป็นห้องที่ผมชอบสุดๆไปเลยครับ vibe ของห้องมันดีมากๆเลย ผมหลงเสน่ห์ห้องใหญ่ๆแบบนี้อ่ะ แต่ ๆ ๆ ๆ ก็มีจุดให้ต้องคิดนิดนึงเรื่องระเบียงของห้องนี้นะครับ เพราะห้องนี้เหมือนจะไม่มีพื้นที่ระเบียงเอาไว้ตากผ้า ถ้าเราใช้อยู่อาศัย ใช้เครื่องซักผ้าแบบซัก และอบ หรือเราส่งเสื้อผ้าไปซักข้างนอกเป็นประจำ ก็ยังจะ ok อยู่ครับผม

ลองดู vdo ที่ผมพาเดินดูห้องนี้ได้ครับ

// สรุป

ผมเล่ามาซะเยอะแยะนะ เอาว่า ถ้าเพื่อนๆงบถึง อยากจะซื้อคอนโดที่ดีๆ ทำเลดีๆ ซื้อแบบว่าทีเดียวจบ ซื้อแล้วไม่ต้องไปหาซื้อที่อื่นอีกแล้ว ผมแนะนำมาดู Romm Convent เลย แล้วคุณจะไม่ผิดหวัง ถ้าสามารถซื้อห้องใหญ่ๆได้หน่อย พวก Two bedroom, Three bedroom นะผมแนะนำซื้อเก็บเอาไว้เถอะ ด้วยราคานี้ ด้วย จังหวะเวลา ณ วันเสร็จ มี Mega project รายล้อมขนาดนี้ ยังไงคุณได้ของดี และราคามันจะไปได้ไกลแน่นอนครับ ผมว่าทั้งผู้ปกครองที่มีลูกๆเรียนโรงเรียนแถวๆนี้, คนที่ทำให้ในย่านนี้, คนที่ต้องมาหาหมอที่ BNH บ่อยๆ ก็ซื้อที่นี่ได้ครับ ยังไงถ้าเก็บเอาไว้ในระยะยาวตึกนี้มี Value แน่นอนครับ

ในมุมมองการซื้อเพื่อลงทุน ผมว่าถ้าใครจะซื้อเพื่อขายก่อนโอนก็สามารถทำได้นะครับ ผมเชื่อว่าขายต่อได้นะครับ เพราะ ณ จังหวะตึกเสร็จ ภาพต่างๆในทำเลนี้มันสมบูรณ์มากๆ ยังไงก็ต้องมีคนหาห้องคอนโดแถวนี้ และราคาก็ต้องขยับไปได้อีกครับ ส่วนถ้าจะถือเก็บเอาไว้เป็นทรัพย์สินระยะยาว ผมก็ว่า buy and hold ตึกนี้ได้ครับ ด้วยการออกแบบ งาน design ต่างๆในระยะยาว ผมว่ามันสวยคงอยู่ได้นาน ถูก taste คนซื้อระดับ luxury แน่นอน และที่สำคัญคู่แข่งรอบๆที่เทียบเคียงกับ Romm  Convent ได้มันหายากนะครับ มองไปแทบไม่เห็นเลยอ่ะ อาจจะมีพวก leasehold ที่ราคาแพงกว่าเรา แต่ก็เทียบได้ยากนะ เพราะของ Romm Convent เราเป็นการซื้อ Freehold ครับ

ก็ประมาณนี้ครับ สำหรับ Romm Convent เป็นอีกหนึ่งรีวิวที่ผมเขียนไปด้วย ก็ยิ่งเป็น value ของตึกนี้มากขึ้นเรื่อยๆนะครับ เขียนๆอยู่นี้รู้สึกอยากจะไประดมเงินมาซื้อห้องที่นี่สักห้องกะเค้าบ้างเลย 555 ยังไงถ้าเพื่อนๆสนใจ ก็รีบๆเข้าไปดูที่เซลล์ office กันนะครับ ผมเชื่อว่า ห้องดีๆ ขายไม่นานก็หมดแล้วหล่ะครับ และ project อย่างนี้ เค้าจะค่อยๆปรับราคาขึ้นไป

Comments

comments