ต้องขอบอกเลยว่าคอนโดแบรนด์ Life ของทาง AP เค้าทำทุกตัวออกมาได้ดีนะ เพราะ concept จะวางคอนโดด้วย ส่วนกลางสวยๆ บนทำเลที่เด่นๆ ในราคาที่จับต้องได้จริงๆ โดยอาจจะต้องแลกกับการมี unit ห้องที่เยอะหน่อย ผมว่า ส่วนผสมนี้ลงตัวนะ คนซื้อก็ happy ได้ของราคาดี ทำเลดี คนอยู่ก็ happy ได้ใช้ส่วนกลางสวยๆ ทีนี้มาว่ากันถึงคอนโด Life Ladprao Valley ที่ถือว่าเป็นคอนโดแบรนด์ Life Generation ล่าสุดของทาง AP ซึ่งเค้าก็ใช้ lesson learn จากตัวคอนโด Life ตัวก่อนๆมาทำให้ Life Ladprao Valley กลายเป็นคอนโดที่ผมว่าทำออกมาได้ดี น่าอยู่อีกตัวหนึ่งเลยครับ
โดยส่วนตัวผมได้โอกาสตกแต่งห้องที่นี่เยอะหลายห้องมากๆ ผมเข้าๆออกๆตึกนี้มาหลายครั้งมากๆ (ผมก็จะมีมุมมองเกี่ยวกับเรื่องภายในห้อง เรื่อง layout ของที่นี่เยอะนะ) แต่ครั้งนี้จะพิเศษหน่อย เพราะได้เข้าไปดูส่วนกลางสวยๆของที่แบบทุกซอกทุกมุมด้วย ก็เลยอยากจะมาเล่าให้เพื่อนๆฟังถึงความน่าสนใจของโครงการ
// Location \\
ห้าแยกลาดพร้าว เป็นเหมือน เมืองในเมือง คือมีความครบครันแบบสุดๆ อยู่ใกล้ห้างใหญ่อย่าง Central ลาดพร้าว และ Union Mall, มี office ที่ทำงานของบริษัทใหญ่ๆอยู่แถวนี้มากมาย , มีสวนสาธารณะใหญ่ๆทั้งสวนรถไฟ และสวนจตุจักร เรียกได้ว่าคนที่อยู่แถวๆห้าแยกลาดพร้าว ก็แทบไม่จำเป็นต้องออกไป zone อื่นเลยครับ และยิ่งการมาของ BTS สายสีเขียวสถานีห้าแยกลาดพร้าว ยิ่งทำให้การเดินทางจากคอนโด Life Ladprao Valley มันง่ายและสะดวกมากๆ จะเข้าเมืองไปสยาม ก็นั่งต่อเดียวจบ หรือจะออกเมืองไป ม.เกษตรก็ง่ายๆครับ หรือ เดินไปหน่อยนึงก็ถึง MRT สถานีพหลโยธิน (สายสีน้ำเงิน)แล้วครับ สามารถนั่งไปอโศก, สีลม ได้เลยครับ พูดแค่นี้เราก็พอจะเห็นภาพความดีงามของทำลนี้แล้วนะครับ
.
คอนโด Life Ladprao Valley ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน อยู่ใกล้กับทางขึ้นรถไฟฟ้า BTS แบบสุดๆ เรียกได้ว่าออกมาหน้าโครงการก็ขึ้นรถไฟฟ้าได้เลย และสามารถจะเดินขึ้น sky walk ไปข้ามไป Central ลาดพร้าวได้เลย หรือ เดินบนฟุตบาทไป Lotus ลาดพร้าวก็ใกล้มากๆ ดังนั้น ในแง่การอยู่อาศัยของคอนโดนี้ ผมว่าดีเยี่ยมเลยครับ อยู่สบายใกล้ห้างใหญ่ มีของกินสบาย! ยิ่งถ้าเราขับรถ คอนโดนี้ก็เดินทางสะดวก ขับออกมาบนถนนพหลโยธิน จะไปต่อทางวิภาดี-รังสิต หรือ จะวิ่งไปขึ้นดอนเมืองโทลเวย์ก็ง่าย จะไปขึ้นทางด่วน ก็ไม่ไกลครับ โดยรวมๆคือ ถ้าใครชอบ และถนัดทำเลห้าแยกลาดพร้าว Life Ladprao Valley คือเป็นตัวเลือกที่ดีมากๆในย่านนี้เลยครับ
.
มองเรื่องความเจริญในอนาคตของย่านนี้ ผมว่าดูดีเลยนะครับ เพราะแถวๆนี้มีที่ดินผืนใหญ่ๆที่รอการพัฒนาโดยกลุ่มทุนใหญ่อย่าง Central ที่มีที่ดินขนาด 47 ไร่ ติดถนนพหลโยธิน (เลยคอนโดเราไปนิดเดียว) ที่กำลังรอทำเป็น mix used project ระดับ 10,000 ล้านบาท ก็จะยิ่ง upgrade ให้ย่านนี้ดูดีขึ้นไปอีกเยอะเลยครับ
// การออกแบบ \\
คอนโด Life Ladprao Valley เป็นอาคาร High rise สูง 44 ชั้น สร้างบนที่ดินประมาณ 5 ไร่ 2 งาน มีจำนวนห้องพักอาศัยอยู่ที่ 1140 units ตัวตึก Exterior ผมว่าดูโดดเด่นและสวยดีนะ เค้าใช้สีน้ำเงินเข้มๆ ตัดกับสีทองแดง แล้ว บนยอดตึกจะมีการเล่นทรงโค้ง เว้าเป็นซี่ๆสีทองแดงทำให้ดูดีภาพจำดีมากๆเลยครับ
ซึ่งในการออกแบบส่วนกลาง เค้าก็มาใน concept ของ The Adventure Oasis Condominium คือจะดึงเอาความเป็นธรรมชาติจากสายน้ำ ภูเขา เข้ามารวมกับการจัดวางที่ทำให้เวลาเราเดินไปในส่วนกลางแล้วรู้สึกเหมือนเรากำลังผจญภัยอยู่ในสถานที่ใหม่ๆ ทำให้ดูสนุก ดูตื่นเต้น ไม่มีเบื่อครับ มาไล่พูดถึงส่วนกลางเป็น zone ๆ แล้วกันนะครับ
.
ชั้น 1 จะมี The Canyon Lobby ที่จัดออกมาได้สูงดูโปร่งตกแต่งด้วยหินอ่อนสีขาว ดูสว่างดี และมีการดึงเอาบรรยากาศของสวน และสระน้ำที่อยู่ outdoor เข้ามาด้านใน ด้วยการใช้กระจกบานใหญ่ทำให้มองเห็นวิวเขียวๆข้างนอกได้ดี ในมุมการใช้งาน ยังมีการแบ่งที่นั่ง โต๊ะทำงาน กระจายเอาไว้เป็น section ทำให้ลูกบ้านมาใช้งานได้พร้อมๆกันหลายๆคน และยังมีห้องประชุมขนาดใหญ่ คุยงานกันได้อย่างเป็นส่วนตัว สามารถจองใช้งานกับนิติได้เลยครับ
นอกจากนี้พื้นที่ชั้น 1 ยังมีการกระจายพื้นที่สีเขียวเอาไว้ตามทางเข้าหลายๆจุดของโครงการ ทำให้ลูกบ้านสามารถมาเดินเล่น เปลี่ยนบรรยากาศได้ดีเลยครับ นอกจากนี้ที่นี่ ก็ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีนะครับ มีระบบ CCTV ,ป้อมยามแลกบัตร ,ระบบ face scan เข้าลิฟต์แบบล๊อกชั้น ลูกบ้านก็อุ่นใจได้ว่า ถึงแม้จะอยู่โครงการใหญ่ แต่ความปลอดภัยก็ยังจัดเต็มครับ
.
ชั้น 44 จะเป็นชั้นบนสุดของตึก และเป็นชั้นส่วนกลางหลักของคอนโดเราเลย โดยสิ่งที่ผมชอบมาคือ สระว่ายน้ำแบบ infinity edge pool ด้านบนดาดฟ้า (ชั้น44M) ที่มองออกไปเห็นวิวสวนสีเขียว 700 ไร่ และมี shape เว้าๆโค้งๆไปตามตัวตึก สวยมาก ผมเดินขึ้นไปดูครั้งแรกถึงกับ STUN เลย หิหิหิ นอกจากนี้เค้ายังวางพื้นที่นั่งแบบ sunken seat เอาไว้ทำให้ลูกบ้านมานั่งเล่น ฟังเสียงน้ำไป ดูวิวสวยๆไปพร้อมกันได้อีกครับ ดีงามจริงๆ เป็นสระว่ายน้ำที่สวยอันดับต้นๆของคอนโดในความคิดผมเลยนะ และด้านล่างก็ยังมีสระว่ายน้ำชื่อ Aqua Valley ที่เป็น สระเด็ก + สระแบบ indoor เล่นแล้วไม่ร้อน และ take วิวสวยๆของสวน 700 ไร่ไปด้วยได้
ถัดมาก็จะเป็นพวกส่วนกลางแนว active ที่จะมี Fitness ขนาดใหญ่ เครื่องเล่นเยอะมากๆ , มีห้องโยคะ , มี Rock Canyon ที่เป็นหน้าผาจำลองให้ลูกบ้านมาปีนออกกำลังกายได้ และยังมี Active Court ที่เป็นโซนออกกำลังกายแบบ outdoor จะเอาไว้ชกมวย เอาไว้ออกแรงเล่นกล้ามก็ทำได้ครับ
.
บนชั้น 44 นี้ยังมีพวกห้องทำงาน Alpine Lounge, ห้องอ่านหนังสือ Terrarrium Library, ห้องสังสรรค์+นั่งเล่นของลูกบ้าน The Residence เอาไว้มาคุยงาน มาเฮฮากันได้ หรือจะดูหนังก็ยังมีห้อง Theater ไว้ให้ใช้ได้อีกนะครับ โดยในการออกแบบจะมีการซอยพื้นที่ย่อยๆเอาไว้ให้ลูกบ้านสามารถใช้พร้อมกันได้ โดยไม่กวนกันด้วยครับ ผมว่าตรงนี้ดีนะ คือ จำนวน unit เรามีเยอะหน่อยแต่ทาง designer เค้าช่วยแก้โจทย์มาให้แล้ว ทำให้การใช้งานจริงมันเพียงพอ และดูไม่วุ่นวายครับผม
.
ชั้น 6 จะเป็นสวน และสระว่ายน้ำที่ชื่อว่า The Avalon ผมว่าเค้าจัดสวนตรงนี้มาได้สวยนะ มันเป็นสวนที่มีการเล่นระดับ มีการวางทางเดินให้เลี้ยวไปมา เป็นการบังตา เป็นการสร้างความ private ให้กับคนที่มาใช้ และส่วนของสระว่ายน้ำที่ชั้นนี้ก็ใหญ่ มีความใกล้ชิดต้นไม้ มีความเขียว ดูแล้ว relax น่าใช้งานดีครับ รอบๆสระยังทำเป็นที่นั่ง ที่อยู่ใต้สวน ได้ร่มเงา นั่งแล้ว chill ไม่ร้อนครับ และก็เหมือนจุดอื่นๆเค้าแยกส่วนที่นั่งเป็น zone ย่อยๆทำให้นั่งได้พร้อมกันหลายๆกลุ่มหลายๆคน จะได้ไม่กวนกันครับ
.
ถือว่าโดยรวมๆออกแบบส่วนกลางของ Life Ladprao Valley เค้าตีโจทย์มาได้ดีครับ ทั้งปริมาณที่เพียงพอ, ดูความสวยเกิน segment มี WOW factor ที่ดีนะ ผมยังประทับใจสระว่ายน้ำอยู่เลย 555 , มี concept การออกแบบที่ชัดเจนเรื่องธรรมชาติ และใช้งานได้จริงสามารถกระจายลูกบ้านไปใช้หลายๆส่วน พร้อมๆกันได้
// แบบห้อง \\
ด้วยความที่ตึกนี้เป็นตึกใหญ่ ก็อาจจะมี Layout ที่หลากหลาย ซึ่งต้องชมทาง AP นะว่าเค้า research และออกแบบ Layout มาได้ลงตัวมากๆเลย เดี๋ยวผมไปพูดในรายละเอียดของแต่ละ layout แล้วกันนะครับ ในฐานะที่เข้าๆออกๆบ่อย และผมได้แต่งห้องที่นี่หลาย layout มาก ก็รู้สึกได้ว่า แต่ละอันมีจุดเด่น มีการจัด function ที่ดีอ่ะ ผ่านการคิดมาอย่างดีแล้ว
.
มาว่ากันเรื่อง spec ห้องโดยรวมๆก่อนนะครับ ต้องบอกตรงๆว่า spec ของ Life แต่ละตัวไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่นักครับ และก็ไม่ได้มีอะไรหวืหวา อย่างเพดานห้องสูง 2.6 เมตร (ก็ถือว่าใช้งานได้แล้วนะ) ชุดครัวเค้ามีให้ครบ ลูกบ้านแทบไม่ต้องทำอะไรเพิ่มแล้ว , ห้องน้ำจะเป็นแบบยก step ขึ้นมานิดนึง (เพราะเป็นห้องน้ำที่ทำมาจากโรงงานแล้วเอามาประกอบ) ผมว่ามีข้อดีคือ คุณภาพเค้าควบคุมมาได้ดี งานเรียบร้อย , ส่วนบานกระจกหน้าต่างภายในห้องก็ขนาดกลางๆครับ ถือว่าใช้งานได้ อาจจะไม่ได้ใหญ่จนถึงกับ Wow แต่เท่าที่ผมทำมา ถ้าตกแต่งดีๆ วางม่านเต็มๆ ตัวหน้าต่างก็ถือว่าสวยครับ, พื้นภายในห้องเป็นพื้นลามิเนต แข็งแรงดี เอาว่ารวมๆเรื่อง spec คือ อยู่จริงได้ อยู่แล้วไม่เกร็ง หิหิหิ
มาไล่ดู Layout แต่ละแบบกันเลยครับ
Studio 28.8 sq.m. หน้ากว้าง (ราคาพิเศษ 3.99ล้านบาท)
อันนี้เป็นห้องเล็กของทางโครงการ แต่ว่าเป็น studio ที่ upgrade กว่าของที่อื่นนะครับ เพราะในห้องเดินเข้ามาจะเจอครัวที่เราได้ครัวปิดทำอาหารได้จริงจัง กั้นด้วยบานเลื่อน พอเดินต่อมาข้างใน ก็จะระเบิดพื้นที่ได้เป็นห้องหน้ากว้างที่สามารถวางเตียงไว้ฝั่งนึง วาง sofa และตู้ TV ได้อีกฝั่งนึง มีช่องแสงที่เยอะ ทำให้เวลามาในส่วนภายในห้องแล้วดูไม่อึดอัด ผมว่า space มันดูดีกว่าห้องแบบ one bedroom ของที่อื่นอีกนะครับ ระยะปลายเตียงก็เหลือเฟือมากๆ ผมว่าถ้าใครงบน้อย สามารถจัดห้องนี้ได้เลยครับ อยู่สบาย
ผมแนบ vdo ห้องตัวอย่างไว้ให้ดูนะครับ
และก็ ผมเคยตกแต่งห้อง layout คล้ายๆแบบนี้ไว้ที่ Life Asoke Rama9 ด้วย ผมแนบ link ไว้ให้ดูนะครับ ผมว่าแต่ห้องออกมาแล้ว ห้องดูดีเลยครับ
.
One bedroom plus 35 ตร.ม. (Type B202, B203)
ห้องนี้ถือว่าเป็นห้อง Classic ของทาง AP เลยนะครับ ผมว่า คนซื้อได้ความครบของ function แบบสุดๆเลยคือ เข้ามาในห้องจะเจอห้อง Dining ที่วางโต๊ะกินข้าวแบบ 4 ที่นั่งได้สบายๆ จะใช้เป็นห้องทำงานก็ได้ เพราะมีฉากกั้นเป็นสัดส่วน ถัดไปเราจะได้ครัวปิด มีบางเลื่อนกั้น ทำครัวแล้วกลิ่นไม่ไปรบกวนภายในห้อง เดินต่อมาจะเจอห้อง Plus ที่เราสามารถจะจัดเป็น living room ได้ หรือที่ผมตกแต่งให้ลูกค้าผมจะวาง sofa bed เอาไว้ เพราะห้อง Plus นี้จะปรับเป็นห้องนอนแขกก็ได้ ส่วนภายในห้องนอน ก็สามารถวางเตียง Queen size ได้ วางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ ส่วนของห้องน้ำ ก็จะเข้าได้ 2 ทางทั้งจาก Living room และ ห้องนอนครับ
โดยรวมๆผมว่าเป็น 35 ตร.ม. ที่คุ้มค่ามากๆเลยครับได้ function ครบ , มีความ flexible สูงมากๆ อย่างห้องตัวอย่างเค้าก็ตกแต่งเอา zone dining มาทำเป็นห้อง living room แทน แล้วเอาห้อง plus มาจัดเป็นห้องนอน 2 แบบจริงจัง ซึ่งก็ถือว่าลงตัวนะ ใช้งานได้ อยู่กันเป็นครอบครัวแบบ compact size ได้ดีเลย ลองดู vdo ผมเดินดูห้องตัวอย่างได้ครับ
.
One bedroom plus 35 ตร.ม. ( Type B104,B110,B122,B123)
ห้อง type นี้ มีความน่าสนใจตรงนี้เค้าแบ่ง section ภายในห้องออกมาได้เป็นส่วนๆ หลากหลายมาก โดยใช้บานกระจกกั้น ไล่มาตั้งแต่
- ครัวปิด ที่อยู่ด้านหน้าห้อง และอยู่ติดกับห้องน้ำ ดูเรียบร้อย
- ห้อง living room ที่ได้ผนังติด TV ขนาดใหญ่ ตกแต่งได้เต็มที่
- ห้องทำงาน/กินข้าว ที่จัดวางโต๊ะได้มาสุด 4 ที่นั่ง และยังมีตู้โชว์ ตู้เก็บของในห้องด้วย
- ห้องนอน จะเป็นห้องที่ยื่นออกมา ทำให้มีกระจกหน้าต่างแบบเข้ามุม เปิดมองวิวได้สวยมาก และสามารถวางเตียงแบบ Queen size และตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้ในห้อง
ผมว่า type นี้เหมาะกับการอยู่ 2 คนขึ้นไป เพราะมันสามารถแยกใช้ function พร้อมๆกันในห้องได้อย่างเป็นสัดส่วนไม่กวนกัน คนนึงอาจจะดู TV อยู่ใน living room ในขณะที่อยู่คนก็นั่งทำงาน นั่ง live ขายของกันไปที่อีกห้อง
ลองดูคลิปที่ผมพาเดินทัวร์ดูห้องจริงที่ผมตกแต่งเสร็จ ได้เลยครับ
หรืออันนี้จะเป็นห้องตัวอย่างของทางโครงการก็มีให้ดูเช่นกัน
One bedroom plus 35 ตร.ม.( Type B305,B308,B327,B328)
ห้อง type นี้จะเปิดเข้ามาแล้วเจอกับ ครัว + dining area ที่กว้างเลย และมีห้อง plus ที่กั้นด้วยกระจกบานเลื่อน จะเอาไว้ทำเป็นห้อง living room นั่งดู TV ก็ได้ ส่วนในห้องนอนขนาดจะใหญ่และกว้างกว่าห้อง type อื่นๆนะครับ สามารถจะจัดวางเตียงแบบ King size ได้สบายๆเลยครับ ดูได้ตามคลิปนี้เลยครับ
One bedroom signature 35 ตร.ม. (Type B415)
ห้องนี้ก็ถือว่าเป็นห้องที่สวยมาก เพราะใน living room เราได้ช่องแสงถึง 2 ฝั่งทั้งด้านข้าง และ ด้านหลัง sofa ทำให้ดูโปร่งมาก สามารถวางโต๊ะกินข้าวแบบ 4 ที่นั่งได้สบายๆ เดินเข้ามาในห้องจะได้พื้นที่เก็บของเอนกประสงค์ทางซ้ายมือ และได้ครัวที่ค่อนข้างยาว เป็นครัวปิด, ส่วนห้องนอนก็ขนาดกำลังดี ใช้งานได้สบายๆครับ ห้องน้ำก็เป็นแบบ 2 ประตูเข้าออกได้จากทางห้องนอน และ ห้อง living ลองดูจากคลิปที่ผมพาทัวร์ห้องที่ผมตกแต่ง type นี้ได้ครับ
One bedroom signature 37 ตร.ม. (Type C116)
ห้องนี้เป็นอีกหนึ่งห้องที่ผมว่า เท่ห์ที่สุดในโครงการแล้วหล่ะ เพราะเป็นห้องที่เค้าผลักตัว Living เข้าไปอยู่ด้านในสุด เพื่อจะให้ living มีกระจกโอบล้อมแบบ 180 องศาเลย คือได้ช่องแสงเยอะมากๆ (และเหมือนว่ากระจกจะใหญ่กว่า ห้องอื่นๆด้วยนะ หิหิหิ ดีงามมาก) และส่วนของกระจกก็จะเข้ามุม ถ้าเพื่อนๆซื้อห้องชั้นสูงๆหน่อย จะ take วิวไปที่สวนรถไฟ สวนจตุจักรได้เลยนะครับ ในส่วนของทางเดินในห้อง เราก็สามารถจะทำตู้เก็บของทำให้ห้องดูเป็นระเบียบด้วยครับ
ส่วนของห้องนอน ที่อยู่ด้านหน้า ก็ได้ห้องนอนขนาดกำลังดี วางเตียง Queen size ได้ วางตู้เสื้อผ้าขนาดกำลังพอดีได้ครับ … เอาว่าห้องนี้ ใครที่ชอบเสพวิว อยากได้ห้องที่ Wow Wow ผมแนะนำเลยต้องเลือกห้องนี้จริงๆครับ ถ้าสนใจลองดู vdo ห้องที่ผมตกแต่งไว้ได้ ห้องสวย layout ดีจริงนะขอบอก!!!
ส่วนพวกห้องแบบ 2 bedroom เค้าก็มีความหลากหลายนะครับ ตั้งแต่ 2Bed+1Bath ขนาด 48.6 ตร.ม. หรือจะเป็น 2 Bed+2 Bath ขนาด 57.8 ตร.ม. , 60 ตร.ม. , 66.5 ตร.ม.
.
นอกจากนี้ผมเองยังได้เคยแต่งห้องแบบ combine ด้วยนะ คือเอาห้อง type One bedroom 37 ตร.ม. (Type C116) มาทุบรวมกับ ห้องแบบ One bedroom 35 ตร.ม. ( B217) ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือ ห้องที่หน้ากว้างสุดๆเลย living ใหญ่มาก ได้ครัวปิด ห้องนอน ก็เป็นห้องที่วิวสวย ได้กระจกเข้ามุมด้วยครับ ถือเป็นอีกห้องที่ผมภูมิใจมากๆเลยนะ ที่ได้มาออกแบบตกแต่ง ส่วนในมุมเจ้าของห้องนอกจากจะได้ห้องสวยๆแล้ว ยังได้ห้องที่ Rare มากๆ เพราะทั้งโครงการน่าจะมีห้องนี้เพียงห้องเดียวที่จัด layout เป็นแบบนี้ครับ ลองดูคลิปผลงานตกแต่งห้องนี้ของผมได้ครับ
// สรุป \\
เล่าเรื่องเกี่ยวกับโครงการ Life Ladprao Valley มาซะเยอะเลยนะครับ ต้องถือว่าที่นี่เป็นคอนโดที่ทำราคามาได้คุ้มค่า ในทำเลที่ดี เดินทางสะดวก มีศักยภาพเติบโตในอนาคต และด้วยส่วนกลางที่จัดเต็มให้มากถึง 3 ชั้น มีการออกแบบที่หรูหรา มีปริมาณมากเพียงพอให้ลูกบ้านมากระจายกันใช้ได้ Life Ladprao จึงเป็นตัวเลือกนึงที่น่าสนใจมากๆ สำหรับคนที่หาซื้อคอนโดเอาไว้ทั้งอยู่เองก็ดี หรือจะเอาไว้ปล่อยเช่าก็ปล่อยได้ดี (อย่างห้อง 37 ตร.ม. ที่ผมตกแต่งเสร็จไป ก็ปล่อยเช่าสองหมื่นปลายๆเลย ถือว่าได้ค่าเช่าดีสุดๆไปเลย) ส่วนเรื่อง layout แปลนห้องต่างๆก็ทำมาได้ดี มีให้ลูกค้าเลือกหลากหลายเลยครับ สมมุติถ้าจะให้ผมซื้อเก็บสักห้อง ผมคงจะเลือกห้องแบบ One bedroom signature ไม่ห้อง 35 ตร.ม. (Type B415) หรือห้อง 37 ตร.ม. (Type C116) ผมว่าห้องสองห้องนี้มันสวย ได้แสงเข้ามาเยอะ อยู่แล้วดูโปร่ง ดูคุ้มค่าดี มีจุดแตกต่างจากห้องอื่นๆในโครงการครับผม หรือ ถ้าจะงบน้อยหน่อย Studio ขนาด 28 ตร.ม. ราคาเดียว 3.99 ล้านบาท ก็ถือว่าเป็นห้องที่ Layout จัดออกมาใช้ได้ดีเลยครับ หรือถ้าอยู่เป็นครอบครัวมีลูกเล็กๆผมว่าเราซื้อ One bedroom plus มาจัดเป็นห้องนอน 2 ห้องแบบห้องตัวอย่างก็ได้ ห้องแบบนี้พื้น 35 ตร.ม. ราคาอยู่ 4.79 ล้านบาท ผมว่าราคาจับต้องได้ ผ่อนก็สบายๆครับ
.
เพื่อนๆคนไหนสนใจลองแวะเข้าไปดูที่โครงการกันนะครับ ผมว่าที่นี่ ต้องเข้าไปสัมผัสจริงๆครับ การออกแบบ ความสวยของส่วนกลาง ถ้าเราได้เห็น เราจะรู้เลยว่าทำไม Life Ladprao Valley ถึงได้น่าซื้อ น่าเก็บจริงๆครับ ใครสนใจลงทะเบียนที่ https://apth.ly/hbi หรือไม่ก็ทักไปทางนี้เลยครับ https://lin.ee/dtyB6oS
#LifeLadpraoValley #TheAdventureOasisCondominium #LiveYourAdventurousSpirit #คอนโดลาดพร้าว #คอนโดวิวสวนจตุจักร #ไลฟ์ลาดพร้าวแวลลีย์ #คอนโดตรงข้ามเซ็นทรัล #คอนโดใกล้BTS #คอนโดพร้อมอยู่ #คอนโดจตุจักร #Lifeลาดพร้าวแวลลีย์ #ชีวิตดีดีที่เลือกเองได้