KAVE SALAYA : ลงทุนคอนโดปล่อยเช่าทั้งที ต้องเลือกตัวนี้เด็ดจริงๆ

KAVE SALAYA : ลงทุนคอนโดปล่อยเช่าทั้งที ต้องเลือกตัวนี้เด็ดจริงๆ

ณ ปัจจุบันนี้การที่เราจะเลือกซื้อคอนโดที่เป็นการลงทุนปล่อยเช่าหา passive income เราจำเป็นจะต้อง selective มากๆหน่อยนะครับ จะซื้อแล้วกะว่าจะมีคนมาเช่าง่ายๆ เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว !!! การแข่งขันมันสูง ดังนั้นเราควรจะเลือกซื้อ project ที่มีกลุ่มเป้าหมายชัดเจน มี product ที่ unique + WOW เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งดูไปดูมาแล้ว KAVE SALAYA จากทาง AssetWise ลงตัวกับการลงทุนในทุกๆเหตุผลเลยครับ (ถ้าจะเข้าไปลงทะเบียน online ไว้ก่อนก็ได้ครับที่ https://bit.ly/3s2v7fT )

เริ่มไล่มาจาก “กลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน” ที่ KAVE SALAYA นั้นเค้าเลือก location อยู่ติดถนนใหญ่ใกล้มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆของประเทศไทย ปีๆนึงมีนักศึกษา คณาจารย์ บุคคลากรที่เข้ามาที่มหาวิทยาลัยเป็นหลักหลายพันคน ยิ่งนักศึกษาที่เข้ามาใหม่ มีทั้งหลักสูตรธรรมดา และหลักสูตรนานาชาติ ดังนั้น demand ในการหาเช่าที่อยู่อาศัยก็ย่อมจะมีเยอะ และมีการหมุนเวียนของคนเข้ามาใหม่ตลอดเวลา การที่เราซื้อคอนโดเอาไว้ปล่อยเช่าในโซนศาลายานั้น ผมถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีนะครับ เพราะจะมีลูกค้าแน่นอนและชัดเจนมากๆ ยิ่งตัวคอนโดตั้งอยู่บนถนนใหญ่ เดินทางไป มหาวิทยาลัยเพียงแค่ 750 เมตร ไม่ต้องเข้าซอย มีความปลอดภัยที่สูง ก็ย่อมจะเป็นทางเลือกที่คนเช่าจะเลือก KAVE SALAYA ก่อนคอนโดตัวอื่นๆ (จากที่ผมลงพื้นที่มา คอนโดแถวๆมหิดล ส่วนมากจะตั้งอยู่ในซอยบ้านตั้งสิน ซึ่งต้องเข้าซอยไป ดังนั้น location ความสะดวกสบายผมว่า KAVE SALAYA ดู ok เลยครับ)

ถัดมาคือเรื่องความ WOW ของตัวคอนโด , KAVE เป็นแบรนด์คอนโดที่ทาง AssetWise เค้าออกแบบไว้จับกลุ่มการปล่อยเช่านักศึกษาอย่างชัดเจน ถ้าเราไล่ดู KAVE ตัวเก่าๆ ไม่ว่าจะเป็น Kave Town Shift , Kave Town Space ที่เจาะกลุ่มเป้าหมาย นักศึกษาที่ ม.กรุงเทพ (ย่านรังสิต) เราจะเห็นได้เลยว่า ส่วนกลางต่างๆ ออกแบบมาได้ โดนใจ GEN ของนักศึกษาอย่างมากๆ และอัตรการเช่าอยู่ Occupation rate และค่าเช่าของ KAVE ตัวเก่าๆก็ทำได้ดีมากๆ ประวัติศาสตร์มันบอกว่า concept การทำคอนโดแบรนด์ KAVE นั้นมันชัดเจน และตรงใจลูกค้าคนเช่าอย่างมาก พอมาถึง KAVE SALAYA ก็ไม่แปลกที่เราจะได้เห็นการจัดส่วนกลางออกมาได้เยอะ สวยประทับใจ และมี function ที่ครบ ตรงกับ lifestyle ของนักศึกษาอย่างจริงๆครับ ไม่ว่าจะเป็น

ตึก A จะเน้นที่ Learning ดังนั้นก็จะมีพวก Co-Idea Sapce, Creative Lobby, Meeting Lounge, Learning Hub, Working Pods, Meeting Chamber, Sky Terrace, Sky Cinema, Sky Amphitheater, KAVE Viewpoint

ตึก B จะเน้นที่ Rest & Relax ก็จะมีส่วนกลางเอาไว้พักผ่อนพวกแนว Board Game Arena, Console& VR room, Music Studio, KAVE Theater, Fun Space, Sharing Lobby, Smart Laundry Lounge

ตึก C จะเน้นที่ Active ก็จะวางพวกแนวออกกำลังไว้ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น Pulse Pool, Hydro Massage, The Gym, Health Station, Fit studio, Co-kitchen, KAVE cafe,Jet Pool, Jacuzzi Seat, Botanic Garden

และนอกจากนี้ยังมีส่วนกลาง on ground จัดอยู่บนที่ดินระหว่างตึก ไม่ว่าจะเป็น Valley Forest, Sunken Lawn, Hidden Bar, Misty Falls, The Commond Ground

ที่กล่าวมาทั้งหมดมีส่วนกลางมากถึง 32 รายการนะครับ ผมว่ามันต้องมีอะไรที่ตรงใจนักศึกษาบ้างหล่ะ จิงป่ะ หิหิหิ ผมเชื่อว่าส่วนกลางที่นี่คือ key การสร้างความแตกต่างให้กับ KAVE SALAYA จริงๆครับ

การออกแบบก็ทำออกมาได้ จี๊ดจ๊าด จัดจ้าน สวยงาม มีความสนุก ดูน่าใช้งาน เทียบได้กับพวก co-working space สวยๆใจกลางเมืองเลย แต่นี่อยู่ที่ศาลายา พร้อมให้นักศึกษามหิดลเข้าใช้ ผมเชื่อว่า แค่คนเช่า (นักศึกษา) เดินเข้ามาในคอนโด KAVE SALAYA เค้าก็จะรู้สึกหลงไหล อยากจะอยู่ที่นี่แน่นอนครับ ไม่ต้องไปเทียบกับคอนโดอื่นรอบๆเลย เพราะ KAVE SALAYA จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในย่านศาลายาแน่นอนครับ คนเช่าอยากอยู่ ยังไงก็ต้องหาห้องที่นี่เช่าให้ได้ครับ หิหิหิ

และการเช่าอยู่ของนักศึกษาก็มีข้อดีอีกอย่างก็คือ มีโอกาสที่จะได้การเช่าระยะยาว เพราะนักศึกษาก็ต้องเรียนที่ศาลายาอยู่ 4 ปีอยู่แล้ว การทำการตลาด การปล่อยห้องว่าง ผมว่าจะน้อยครับ และเพื่อนจะชวนเพื่อนมาอยู่กันครับ เพราะถ้าคอนโดมันดี (อย่างที่ KAVE SALAYA) เดี๋ยวพอคนนึงมาอยู่ ต่อๆไปก็จะชวนเพื่อนๆให้ย้ายมาอยู่ในคอนโดนี้

มาว่ากันเรื่อง product โดยรวมๆของ KAVE SALAYA บ้างนะครับ ที่นี่ประกอบด้วยตึกทั้งหมด 3 ตึก (A,B,C) มี unit รวมกัน 588 units + 1 ร้านค้า ที่จอดรถประมาณ 41% รวมจอดซ้อนคัน ด้วยความที่เป็นคอนโดที่เน้นการปล่อยเช่านักศึกษาดังนั้นแบบห้องจะเน้นที่หนึ่งห้องนอนเกือบทั้งหมด จะต่างก็แค่แบบห้อง และขนาด ที่ผมจะไล่อธิบายให้ฟังว่า ห้องมีแบบไหนบ้าง และ ผมชอบห้องแบบไหน ดูจาก YouTube ที่ผมพาเยี่ยมชมทุกๆห้องได้ตามนี้ครับ

ห้องแบบ One bedroom (22.90 ตร.ม.) : ห้องนี้เป็น layout ตอนลึก คือจะไล่ตั้งแต่ครัว + ห้องน้ำ ต่อไปที่ living และมีบานกั้นสามตอนเข้าห้องนอน ผมว่าเป็น layout ที่อยู่คนเดียวสบาย เพราะเค้าจัด function มาให้ครบแล้ว ไม่ว่าจะเป็น sofa ดู tv ที่มีระยะห่างจาก tv กำลังดี , ที่นอนได้ queen size และมีโต๊ะทำงานอยู่ข้างหน้าต่างด้วย ห้องขนาด size นี้ถือว่าเกือบจะเล็กที่สุดแล้วดังนั้นราคาจึงน่าสนใจ เหมาะกับคนเอาไว้ปล่อยเช่า ถ้าได้ต้นทุนมาดี ก็ทำราคาค่าเช่าได้ต่ำ ผมว่า น่าซื้อลงทุนดีครับ เน้นราคา ! เป็นสำคัญ

ห้องแบบ One bedroom extra (25.26 ตร.ม.) : อันนี้เป็นห้องที่ได้การกั้นระหว่าง living กับ bedroom เป็นสัดส่วน ผมว่าอยู่คนเดียวแบบสบายๆ ห้องน้ำที่ห้องนี้ก็มีประตูสองฝั่ง ทำให้ไม่กวนกัน เวลาเพื่อนมาที่ห้องก็เข้าห้องน้ำจากทางห้อง living ได้ ผมว่าด้วยขนาดแค่ 25 ตร.ม. แต่เค้าทำพื้นที่ออกมาได้ลงตัวมีประสิทธิภาพดีครับ  ผมว่าห้องนี้ถ้าจะซื้อให้ลูก หรือ หลานที่มาเรียนมหิดล ซื้อห้องนี้แล้วอยู่ยาวๆ 4 ปีคุ้มดีครับ ห้อง layout ดีมากๆเลย

ห้องแบบ One bedroom extra ( 28.31 ตร.ม.) : ห้องนี้ผมถือว่าเป็นห้องที่มีความยืดหยุ่น เพราะห้องนี้นอกจากจะแบ่ง living room กับ bedroom กั้นเป็นสัดส่วนแล้ว ห้องนอนยังมีขนาดใหญ่ พอจะวางเตียงเดี่ยวได้ 2 เตียง สามารถปล่อยเช่าให้นักศึกษา 2 คนอยู่ share กันได้ ข้อดีคือ ค่าเช่าอาจจะสูงขึ้นอีกหน่อย แต่คนเช่าสามารถจะหาร 2 share กันได้ ผมว่าทำให้หาคนเช่าได้กว้างดีนะครับ เป็นห้องที่คนมีงบเยอะหน่อยผมว่า ซื้อตัวนี้ไว้ปล่อยเช่าน่าจะดี จะได้ลูกค้าที่มีความหลากหลายมากกว่าคนอื่นครับ

ห้องแบบ One Bedroom Exclusive Vertical Suite (22.90 + 9.22 ตร.ม.) : ห้องแบบ loft เพดานสูง 4.8 เมตร จะอยู่ที่ชั้น 7 ของทุกตึก ผมจัดว่าห้องแบบนี้เป็นห้อง rare item นะครับ เพราะเข้าไปแล้วบรรยากาศเหมือนเข้าไปในบ้านเลย เพดานสูง น่าอยู่มากๆ ชั้น 1 เอาไว้พักผ่อนดูหนัง ดู tv ทำงาน กินข้าว ส่วนชั้น 2 ก็เป็นห้องนอน ผมว่านักศึกษาที่มีงบเยอะขึ้นมานิดนึงเค้าจะอยากอยู่ห้องแบบนี้ครับ เพราะอยู่แล้วสบาย ไม่อึดอัด ได้ความโล่ง ได้ความเท่ห์ แบบที่หาไม่ได้ในคอนโดอื่นๆละแวกนี้แน่นอนครับ

Unit Recommended :: ถ้าให้ผมแนะนำห้องที่นี่ ถ้าผมมองในมุมการลงทุน ผมคงจะเน้นที่ห้อง One bedroom (22.90sq.m.) ดีกว่าครับ เพราะเราเน้น budget ให้ค่าเช่าต่ำจะได้แข่งขันกับคนอื่นๆได้ง่าย และผมคิดว่าคนเช่าที่นี่เค้าเช่าเพราะถูกใจในส่วนกลางอยู่แล้ว ดังนั้นคนเช่าก็น่าจะเน้นที่การใช้ส่วนกลางมากกว่าการใช้งานในห้องครับ จึงควรจะเลือกห้องที่ทำให้เรามีต้นทุนต่ำไว้ก่อนครับ

ข้อสังเกตุของผมอย่างนึงก็คือ นักศึกษา เน้นอยู่ห้องไม่ต้องใหญ่ แต่เค้าจะไป hang out ไปนั่งอ่านหนังสือที่ส่วนกลางครับ ดังนั้นเวลาเลือกซื้อห้อง เอาห้องที่ขนาดพอเพียงอยู่ได้ไม่อึดอัด และเน้นที่คอนโดที่มีส่วนกลางเจ๋งๆ ผมว่านี่คือ keyword ในการลงทุนคอนโดเปล่าเช่านักศึกษาครับ

โดยสรุป ผมว่า KAVE SALAYA เป็นคอนโดที่มีความชัดเจนทุกอย่างออกแบบมาตรงกับกลุ่มเป้าหมาย นักศึกษามหาวิทยาลัย ดังนั้น การที่เราจะซื้อลงทุนไว้ปล่อยเช่า ก็สบายใจได้ว่าจะหาคนเช่าได้สบาย chill ๆ (มีทั้งนักศึกษา มีทั้งคนทำงานมาเช่า) และเรื่องความโดดเด่นของ location ที่ติดถนนใหญ่ใกล้ม.มหิดลเพียง 2 นาที และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสีแดงอ่อนด้วย ความโดดเด่นของส่วนกลางที่ให้มาเยอะสุดๆ คนซื้อแทบจะไม่มีความเสี่ยงเลยครับ ถ้าเรากลัวไม่กล้าตัดสินใจ ผมแนะนำให้ไปลองดู KAVE แถวๆม.กรุงเทพ แค่นี้โจทย์ question ที่อยากที่กังวลก็จะมลายหายไปเลยครับ ในเรื่องของ yield ค่าเช่าน่าจะอยู่ประมาณ 6-7% ซึ่งผมถือว่าเป็น range ของผลตอบแทนที่ดีมากๆ (นี่ยังไม่นับรวม capital gain ตอนขายนะครับ) และไม่ใช่แค่ตอนปล่อยเช่าอย่างเดียวนะครับ แต่ในมุมการซื้อลงทุน flip ใบจอง ผมก็เห็นหลายๆคนกำลังจ้อง คอนโดย่านมหาลัยอยู่นะครับ เพราะว่ามี demand การซื้อจริงๆ คนอื่นๆก็อยากจะลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้าง return ได้ดีแบบนี้ครับ 

ดังนั้นถ้าคุณสนใจ จะลงทุนในคอนโด ผมแนะนำให้ลองเข้าไปดูที่ KAVE SALAYA กัน ไปดู location จริงๆ ไปดูรายละเอียดการออกแบบ แล้วคุณจะเห็นเหมือนกันผมว่า KAVE SALAYA นั้นน่าสนใจจริงๆครับ สามารถลงทะเบียน online ได้ที่ https://bit.ly/3s2v7fT

ตอนนี้เค้าเปิดจองสิทธิ์ที่ Sale Gallery แล้วนะครับ และวันที่ 6 มีนาคมนี้ก็จะมีงาน VVIP Day ด้วยนะครับ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมผ่าน Line @kavesalaya หรือคลิก  https://lin.ee/ePiumAf Tel : 02-168-0000

Comments

comments