The Line พหล-ประดิพัทธ์ : ปล่อยให้พี่แสนได้ ทำอะไรในสิ่งที่เค้าอยากทำ

คอนโด The Line พหลก็เป็นอีกคอนโดนึงที่ผมอยากจะเข้าไปดูมากๆนะครับ ด้วย concept : feel like home เอาคอนโดมาสร้างเป็นบรรยกาศเหมือนบ้านหลังใหญ่ๆหลังนึง โดยรวมๆผมว่าคอนโดนี้พี่แสนเค้าได้ทำอะไรที่เค้าถนัดมากๆเลยนะครับ คือ design ทุกอย่างดูจะเหมาะมือกับ style ของพี่แสนมากๆเลย ดีความอ่อนช้อย มี design มี detail อยู่ในทุกๆจุด (ผมว่าแสนสิริ น่าจะยึดมั่นกับ style นี้อ่ะดีแล้ว อยากไปทำแนว Taka เลย หิหิหิ) 

ตัวคอนโดมีด้วยกันสองอาคาร คือตึกเล็กด้านหน้าที่จะมีหนึ่งร้านค้า (7-11) และเป็พื้นที่ co-working space บวก ที่ดูหนัง บวก co-kitchen ที่จะมาให้ลูกบ้านทำกับข้าว จัด Party ด้วยกันได้ และจะมีสวนใหญ่ๆบนพื้นที่ด้านหน้า (ตรงนี้เป็นสวนที่มีความเขียวขจีอย่างมากเลยนะครับ อาจจะเพราะปลูกต้นไม้มานานตั้งแต่สมัยเป็น sale office แล้ว) ตึกด้านหน้านี้ผมว่าทำออกมาได้ดี เหมือนเป็นสโมสรกลางของหมู่บ้านเลยครับ มีการออกแบบบันไดวน มีสระน้ำตื่นๆเพิ่มความเย็นในกับอาคาร ส่วนของ facade ก็สร้างความเป็นส่วนตัวให้กับผู้ใช้งานได้ดีครับ สรุปคือ อาคารด้านหน้า เป็นอาคารที่สวย มีรายละเอียดมาก ถ้าย้ายมาอยู่ได้ ผมจะย้ายมานอนที่ตึกเล็กนี้แล้ว 555

มาพูดถึงตัวตึกหลักของคอนโด ผมว่า exterior ตึกนี้สวยมากๆนะครับ มันมีรายละเอียดมีการ บิดมุม มีการทำ facade เป็นร่องๆ ยืดหด ดูมี detail ดีมากเลยครับ ไม่ใช้ติดเรียบๆธรรมดา ส่วนต้นไม้ก็เยอะดี ถ้าอยู่ด้านนอกอาครมองมาที่ทางเข้าผมว่าต้นไม้มันขนาดไปกับตึกช่วยส่งเสริมให้ตึกเราดูสวยขึ้นเยอะเลยครับ ภายใน Lobby ก็จัดมาเป็นโถงที่สูงมากๆๆ lobby อาจจะไม่ได้ grand มากเพราะจะเป็นแนวลึก แต่เค้าก็พยายามทำเพดานให้สูงมาชดเชย ส่วนของ lobby ก็แต่งด้วย concept เอาวงปีต้องต้นไม้มากรุผนัง ทำให้เป็นจุดสนใจ ผมว่าทำออกมาได้ลงตัวดีครับ ส่วนพวก sofa ที่นั่งต่างๆที่ lobby ไม่ได้เยอะมาก เพราะคงจะอยากให้ลูกบ้านออกไปใช้สโมสรด้านหน้ามากกว่า ถ้าสิ่งที่ผมจะแอบผิดหวังเล็กน้อยก็คือ lobby ของตึกนี้หล่ะครับ มันดูเรียบๆไปหน่อยไม่ค่อย WOW เท่าที่ควรหิหิหิ (ผมอาจจะมีความคาดหวังที่สูงเกินไปหน่อย 555 แต่ก็เข้าใจว่าด้วยพื้นที่แค่นี้เค้าก็ทำออกมาได้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นได้แล้วหล่ะครับ) อีกอย่างผมว่า concept feel like home ทันเป็นตัวกำหนดให้พยายามทำ mood and tone ให้มันดู cozy ดู relax ไม่ได้ดูหรูหรา โฉ่งฉ่างจนเกินไป (ยังไง Lobby ที่ The Line JJ ก็ยังอยู่ในดวงใจของผมเสมอนะครับ เพราะที่นั่นผมว่ามัน Feel like Hotel หิหิหิ)

ส่วนกลางหลักๆของตึกจะจัดมาให้ที่ชั้น 9 นะครับก็จะมาสระว่ายน้ำ fitness อันนี้ก็ทั่วๆไปครับ พอสระว่ายน้ำมันไม่ได้สูงอะไรมากมาย มันก็จะดูธรรมดาๆหน่อย สระก็ยาว 30 เมตรก็คือว่ายาวอยู่นะครับ ดูเรียบง่าย แต่เรื่องที่แอบบ่นก็คือ ทำไมแสนสิริชอบสร้างสระให้มันสูงไม่พ้นตึกข้างๆก็ไม่รู้ (แอบแซว ที่ผมเห็น The Line พหล ก็แอบสูงเท่ากับตึกด้านข้าง, EDGE อันนี้ก็ไม่พ้นตึกเพื่อนบ้าน, The Line JJ ก็แอบโดนจานดาวเทียมข้างๆนิดนึง, Monument ทองหล่อ ก็โดนตึกแถวข้างๆแอบมองตอนว่ายน้ำ 555 แซวเล่นนะครับ ผมเข้าใจว่าทุกตึกมันมีเงื่อนไขการออกแบบของมัน) ส่วนใน fitness ก็ให้เครื่องเล่นมา ไม่ได้เยอะมากนะครับ ถ้าเทียบกับจำนวนยูนิต 900 ห้องผมว่า อาจจะเล็กไปหน่อย แต่ แสนสิริเค้าก็ใจดี ให้เครื่องเล่นแปลกๆมาเพิ่มอย่างเช่น ที่ชกมวย แบบเดียวกับ XT หรือ เครื่อง SYNRGY360 ที่เล่นได้หลายๆแบบ (แต่ผมไม่ค่อยจะอินเท่าไหร่ เล่นไม่เป็น 555) 

ส่วนที่เก๋ที่สุดในชั้นนี้ผมว่าคือห้องน้ำ กับห้องซาวน่านะครับ มีการเอาหินเกลือมาวางด้วย ซึ่งละอองเกลือจะช่วยบำบัดสุขภาพเราไปด้วยตอนเราอยู่ในซาวน่า ก็ดีนะครับ แถมหินวางแล้วมันสวยดีอ่ะ เป็นทั้ง decoration และ เพิ่ม function ไปด้วยในตัว

ขึ้นลิฟต์มาที่ชั้น 46 (ถ้าจำไม่ผิด) ก็จะเป็น sky lougne ที่จัดว่าสวยที่สุด ที่นึงในกทม.เลยนะครับ เพราะเค้า design เป็นกระจกสูงเต็ม ตัวห้องก็เป็นโถงสูงด้วย เหมือนอยู่บนก้อนเมฆกันเลย ตัวผนังก็แต่งด้วยกระจกเงา สลับกับหินอ่อน ทำให้เวลาอยู่ในห้องแล้วเหมือนเราลอยอยู่บนฟ้า ผมว่า design ตรงนี้เจ๋งดีนะครับ แต่ ด้วยความที่กระจกเยอะ ก็แอบร้อน และ แสบตาไปหน่อย 555 ตรงนี้นอกเหนือจาก design ถ้ามาใช้จริงๆก็คงจะต้องปิดม่านกันหน่อยครับ และก็ยังมีห้องน้ำที่เป็นหน้าบานกระจกเต็มบานอีก ตอนทำธุระไปดูวิวไปด้วย ฟินสุดๆ

ถัดขึ้นไปบนดาดฟ้าก็จะมีสวน ปลูกหญ้าเขียวๆ มีการปลูกพืชผักสวนครัวที่ให้ลูกค้ามาเด็ดไปกินได้ ก็เป็น concept พืชผักสวนครัวหลังบ้านของทางแสนสิริ ก็เป็น gimmick ที่ดีครับ เอาพื้นที่มาทำประโยชน์ แต่ใช้จริงไม่รู้เป็นไงต้องไปถามคนที่อยู่โครงการของแสนสิริ เข้าใจว่าทาง Plus จะดูแลสวนให้ครับ คงจะมีพืชผลให้กินได้ตลอดปีครับ

มาว่ากันเรื่องในห้องบ้าง (อาจจะเป็น Part ที่ผมไม่ได้ลงรายละเอียดมากมายนะครับ) ก็ห้องก็สูงประมาณ 2.7 เมตรก็ดูมาตรฐานครับ กระจกในห้องก็ได้ ก็จะเต็มสูงจากพื้นถึงฝ่า เป็น spec ที่คล้ายๆกับ The Line ตัวอื่นๆนะครับ พวกตู้เสื้อผ้าต่างๆก็ build มาให้แล้ว จัดว่าให้ตู้มาเยอะเหมือนกัน เจ้าของห้องแค่ซื้อเฟอร์ลอยมาวางก็เข้าอยู่ได้แล้วครับ แต่ผมว่าสีพวกตู้มันเข้มไปหน่อย เวลาดูรวมๆมันจะออกแก่ๆไปนิด แต่พวก function ในตู้ที่เค้าให้มาก็จัดว่าดีนะครับ ทางเข้าห้องมีตู้เก็บต้องให้ วางกุญแจ วางของกระจุกกระจิกได้ ใส่ใจในรายละเอียด style แสนสิริเค้าหล่ะ

ห้องนอนแบบ 34 ตร.ม. ที่เค้าไปก็ layout กลางๆนะครับ อาจจะเสียที่ไปกับครัวปิด กับ ส่วนของ walk in closet ไปหน่อย แต่ก็อยู่ได้สบายๆ คือเข้าไปมันไม่ได้รู้สึกใหญ่อะไร แต่ก็แบ่งทุกอย่างเป็นสัดส่วนดีครับ ส่วนห้องตัวอย่างแบบสองห้องนอนก็ layout ดีครับ ได้ครัวปิด พื้นที่ทำครัว counter ต่างๆให้มาเยอะดีมาก เป็นสองน้องนอน หนึ่งห้องน้ำ อันนี้ทำได้น่าอยู่ครับ ถ้าครอบครัวเล็กๆ มีเด็กน้อย อยู่ได้จริงสบายๆครับ 

ด้วยความที่คอนโดตั้งอยู่ใน location ย่านที่อยู่อาศัยเก่า เห็น feedback บอกว่า ห้องแบบสองห้องนอน style ครอบครัว มีคนให้ความสนใจกันเยอะ ก็น่าจะเข้ากับ concept Feel like home ได้จริงๆนะครับ

สำหรับผมที่ The Line พหล มันเป็นเหมือนคอนโด style Resort ที่พักตากอากาศ ที่เรามา relax มา spend เวลาเหมือนอยู่บ้านหลังที่สองได้จริงๆครับ ส่วนกลางต่างๆออกแบบมาได้สวย top form ตามที่เราคาดหวังได้จากแสนสิริได้จริงๆครับ ทำเลจริงๆก็แอบเป็นจุดด้อยที่สุดของที่นี่แล้ว เพราะห่างจากรถไฟฟ้าเยอะหน่อย (เทียบกับคอนโดคู่แข่งรอบ) แต่ก็เป็นระยะที่เดินไป BTS สะพานควายพอได้ครับ ส่วนของกินต่างๆเยอะจริงๆ ตึกแถวย่านนี้เป็นร้านอาหาร น่ากินทั้งนั้น อยู่แล้วไม่อดตายครับ ต้องบอกว่าคนที่กำลังหาบ้านหลังที่สอง ราคาเฉลี่ยที่นี่ก็น่าจะประมาณ แสนสี่ แสนห้า ก็จัดว่าราคาพอใช้ได้นะครับ เทียบกับคุณภาพชีวิตที่ได้ ส่วนกลางที่ให้ design ที่ได้ผมว่าคุ้มค่าดี

ถ้าถามผมว่าซื้อลงทุนที่นี่ คิดว่ายังไง? ผมว่า ทำเลมันไม่ได้เหมาะกับการลงทุนปล่อยเช่ามากนักนะครับ (ทำเลมันไม่เด่นอ่ะ) แต่ถ้าคิดว่าถือเอาไว้นานๆแล้ว value มันจะขึ้นไหม ที่ The Line พหล มี value แน่นอนครับ เพราะ design ต่างๆมัน timeless จะหาโครงการที่สร้างบนพื้นที่ใหญ่ๆ ให้ส่วนกลางใหญ่ๆ ตึกมีรายละเอียดเยอะแบบนี้ จะไปหาใครมาทำได้อีกผมว่าไม่มีแล้วครับ แล้วถ้าอยากได้มากๆหล่ะ ต้องทำไง ผมว่าต้องเปรียบเทียบกับ The Reserve พหล ที่อยู่ด้านหน้าครับ ผมเองยังไม่ได้ไปดู แต่ถ้าจะซื้อที่ The Line พหล ก็ต้องเทียบว่าเราชอบไม่ชอบ The Reserve ตอบโจทย์ เพราะ Reserve ทำเลดีกว่า ความเป็นส่วนตัวมากกว่า แต่ส่วนกลางคงไม่ได้ใหญ่โตแบบนี้ และที่ Reserve มีห้องแบบ Loft ซึ่งถ้าใครชอบเพดานสูงๆก็น่าสนใจอยู่ครับ เอาเป็นว่าประมาณนี้นะครับ สงสัยอะไร คุยกันมาได้ครับ

Comments

comments