Location :
เป็น condo ที่ Location ดีมากๆ ทางเข้าจากรถไฟฟ้าเพลินจิตได้เลย เป็นใจกลางเมืองจริงๆของกรุงเทพ อยู่ติดกับห้างใหญ่คือ Central Embassy และ Homepro การเดินทางโดยรถไฟฟ้าเยี่ยมครับ การขับรถเข้าได้หลายทาง ทั้งทางถนนเพลินจิต วิทยุ แต่ติดตรงที่จากแยกเพลินจิต ไม่สามารถขับย้อนไปทางสุขุมวิทได้ โดยรวมๆแล้วเดินทางสะดวกมากๆ
แนวโน้มการพัฒนาของพื้นที่ :
โซนเพลินจิต เป็นโซนที่แพงมากๆอยู่แล้ว อุดมไปด้วยตึก office ใหญ่ๆอย่างเช่น Park Venture ห้างดีๆอย่าง Central Embassy แต่ว่าเหล่านั้นคือโครงการที่มีอยู่แล้ว แต่ถ้าเรามามองถึงโครงการใหม่ๆที่กำลังจะเกิดมาในละแวกเพลินจิตนั้นจะเป็นว่ามีแต่โครงการระดับใหญ่ๆทั้งนั้นได้แก่
– Rosewood hotel คอนโดระดับ 6 ดาวของทาง SC Asset ที่กำลังก่อสร้าง ตึกนี้อยู่ติดกับพื้นที่ของโนเบิ้ลเพลินจิตแบบเต็มๆเลย
– อาคารใหม่ของธนาคารกรุงศรี อยู่ที่แยกเพลินจิต ตัดกับวิทยุ เป็นตึกที่ใหญ่มากๆ
– พื้นที่ว่างของสถานฑูตอังกฤษ จากข่าวเห็นว่ากลุ่ม Central กำลังจะได้ไป ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็น่าจะมีโครงการ mix use ขนาดใหญ่มากๆ ที่จะต้องมีคอนโด มีห้างใหม่ๆ ผมว่า Central ต้องทำอะไรให้ยิ่งใหญ่กว่าพารากอนแน่ๆเลย
– โรงแรม Park Hyatt เราอาจจะเห็นว่า Central Embassy นั้นเปิดดำเนินการมาสักพักใหญ่ๆแล้ว แต่ข้างบนห้างยังมีตึกสูงซึ่งจะเป็นโรงแรม โดยใช้ Hyatt มาบริหารซึ่งชื่อ Hyatt ก็บอกอยู่แล้วว่าจะต้องเป็นโรงแรมระดับ 6 ดาวแน่นอน
– Wellness Center ของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ ที่อยู่ที่โรงแรมปาร์คนายเลิศเก่า ตรงนี้ก็จะเป็นที่อยู่ของลูกค้าระดับ top จากทั่วโลกที่จะเข้ามารักษาตัว ฟื้นฟูร่างกาย
– โครงการ Bangkok Sky จากกลุ่มของคุณหมอประเสริฐ อันนี้ก็จะเป็น คอนโดตัวใหม่ ได้ข่าวว่าจะเป็น Super Luxury ให้สมกับที่ตั้งอยู่เพลินจิต (แต่โดยส่วนตัวผมคิดว่าทำเลของ Noble เพลินจิตก็ยังดีกว่าหลายเท่าครับ)
– คอนโด 98 wireless อันนี้ตั้งอยู่บนถนนวิทยุ ใกล้ๆกับแยกวิทยุเพลินจิต ก็เป็นคอนโดที่แพงที่สุดในประเทศไทย ห้องละ 70 กว่าล้านเริ่มต้น สะท้อนให้เห็นถึงความโดดเด่นของทำเลแถวนี้
– Central Embassy เพิ่งจะเปิดตัวชั้น 6 มาเป็นโซน Open House ซึ่งสร้างขึ้นมาเพื่อเพิ่มชีวิตชีวาให้กับห้าง จากเดิมถ้าเราเคยไปเดิน Embassy เราจะพบว่า ส่วนใหญ่มีแต่ brand หรู ตกแต่งแบบ modern ล้ำๆ ซึ่งโดยส่วนตัวผมคิดว่ามันขาดเสน่ห์ ขาดชีวิตชีวาอย่างมาก ถ้าเราไปเทียบกับ Paragon ที่อยู่ใน segment เดียวกัน แต่ที่ Paragon นั้นมีร้านรวง ของกิน มีความอบอุ่น ดังน้ัน Central Embassy ก็พยายามจะแก้โจทย์นี้โดยการเติม Open House เข้าไปซึ่งจะเป็นแหล่งรวมร้านอาหาร lifestyle ร้านนั่ง chill ห้องสมุด ร้านขายหนังสือ art gellery สร้างบรรยากาศดีๆให้ลูกค้าเข้าไปนั่ง ไปใช้ชีวิต ได้อย่างจริงๆใน Central Embassy
ส่วนกลาง:
โนเบิ้ลเพลินจิต Noble Ploenchit ตั้งอยู่บนพื้นดินกว่า 9 ไร่ใจกลางเพลินจิต (ไม่น่าเชื่อว่าจะรวมที่ได้ใหญ่ขนาดนี้ใจกลางเมืองนะครับ) โดยในพื้นที่จะประกอบไปด้วยตึกทั้งหมด 4 ตึก คือ ตึก Noble เป็นสำนักงานใหญ่ ตั้งอยู่หน้าสุด ตึก B,C เป็นตึก High rise ความสูงประมาณ 50 กว่าชั้น ตึก A เป็นตึกเตี้ยตั้งอยู่ด้านหลังสุดของโครงการจะมีขอเด่นคือ อยู่ติดกับส่วนกลางสระว่ายน้ำ fitness มากที่สุด
เมื่อทางเดินเข้ามาในโครงการ โดยอาจจะเดินเข้ามาจากรถไฟฟ้า ก็จะเดินทะลุตึก Noble เข้ามาแล้วจะเจอสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ เป็นกึ่ง semi outdoor มีหลังคาบังแดด บังฝนตลอดแนวทางเดินเข้าตึก ระหว่างเดินก็จะเห็นหินตกแต่งสวยๆ สวนเขียวๆ นำ้พุขนาดใหญ่ เป็นบรรยากาศที่มีเสน่ห์มากๆ ต่างจากคอนโดทั่วไปที่ติดตถนนใหญ่ เมื่อคุณเดินเข้ามาในโนเบิ้ลเพลินจิต คุณจะลืมไปเลยว่าเพิ่งเดินมาจากถนนเพลินจิตที่แสนวุ่นวาย เพราะว่าในเวิ้งสวนด้านหน้าของคอนโดนั้นมันได้กลายเป็นพื้นที่ของโนเบิ้ลอย่างแท้จริง
เมื่อเดินเข้ามาก็จะเจอกับ lobby โถงทางเข้าคอนโด (อยู่ใต้ตึก B,C) ซึ่งตัว Lobby ก็จะมีความสูงประมาณ 6-7เมตร ทำให้ได้ความรู้สึกอลังการ โปร่งๆ การตกแต่งใช้ style minimal modern ใช้หินอ่อนสีดำขนาดใหญ่โชว์ลาย ส่วนพื้นก็ปูหินอ่อนขาว สลับดำ ผมว่าเค้าตกแต่งได้ดี เข้ามาแล้วรู้สึกเหมือนเดินเข้ามาใน art gallery ที่แต่งสวยๆ พื้นที่ส่วนกลางชั้น 1 ก็จะติดหินแกรนิต ตลอดทุกผนัง ทำให้รู้สึกได้ถึงความ luxury ของโครงการที่เลือกใช้แต่ของดีๆ ที่จะอยู่กับลูกค้าได้อย่างยาวนาน มีการแขวนรูปจากศิลปินเท่ห์ ช่วยสร้างสีสันให้กับพื้นที่ มีโซฟาหนังขนาดใหญ่ให้ลูกบ้านมานั่งรอได้
ที่ชั้น 1 ข้างๆ lobby ก็จะมี Lougne เป็น relax zone ให้ลูกค้าบ้านเข้ามานั่งเล่น มีโซฟาใหญ่ๆ มี game room มีโต๊ะ pool ตกแต่งแบบเข้มขรึมนิดนึง เพื่อให้ได้บรรยากาศหรูหรา hiso สนกับความเป็น Flag ship condo ของทางโนเบิ้ล
ถัดเข้ามาจากตึก B เดินมาด้านหลัง ก็จะพบกับสวน(สวนอีกแล้ว) สระบัว เป็นสวนใหญ่ๆบรรยากาศดีๆ ให้ความรู้สึก slow life พอเดินออกมาหน่อยก็จะเจอกับ สระว่ายน้ำขนาด 40 เมตร สระเด็กเล่นพร้อม Slider จัดว่าเป็นพื้นที่ที่ใหญ่มากๆ ดูแล้วเหมือนเราอยู่ใน resort ขนาดใหญ่ อีกครั้งผมก็ลืมไปอีกแล้วกำลังอยู่ใจกลางเมืองเพลินจิต
ถัดมากจากสระว่ายน้ำก็จะเป็นตึก A ซึ่งเป็นตึกอยู่อาศัย 14 ชั้น โดยชั้น 2 จะเป็น fitness , ซาวน่า , ห้องประชุม ซึ่งใน fitness ก็ใช้แต่เครื่องมือดีๆ เหมือนคุณเข้าไปในยิมใหญ่ๆตามห้าง อยู่ที่นี่ก็ไม่ต้องไปเสียเงินสมัครพวก chain fitness แล้วครับ
อีกเรื่องหนึ่งที่ไม่พูดไม่ได้ก็คือ Private lift ที่เป็นจุดเด่นของโครงการนี้ ลูกบ้านทุกคน เดินเข้าจาก Lobby แล้วก็สามารถที่จะ แตะบัตร เข้าไปยังช่อง lift ของตัวเอง ซึ่ง lift แต่ละตัวก็จะพาท่านลูกค้า ตรงไปยังห้องของคุณเลย ยกตัวอย่างเช่น ห้องผมอยู่ชั้น 14 ผมก็ต้องไปขึ้น lift ตัว B6 เท่านั้น เมื่อ lift เปิดก็จะเปิดเข้ามาในห้องของเราเลย โดยเราก็จะ share การใช้ lift ตัวนี้กับลูกบ้านคนอื่นที่อยู่ใน zone เดียวกันเท่านั้น
ข้อจำกัดของ private lift ก็มีนะครับคือ การขึ้นลง 1 ครั้ง จะรับได้แค่ 1 ห้องเท่านั้น ยกตัวอย่างถ้ามีคนกด lift พร้อมกันหลายชั้น ระบบก็จะแจ้งว่ามีหลายคิว เราก็ต้องเรา เพราะ lift จะเดินทางจาก ห้องไปชั้น G และจากชั้น G ก็จะกลับมาอีกห้องหนึ่ง ตัว lift จะได้แต่แวะรับลูกค้าทีละชั้น ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่าถ้ามีคนกด lift พร้อมกัน 10 คน มันจะต้องรอนานขนาดไหนกว่า lift จะไปๆกลับๆ
ที่จอดรถของโครงการนี้ก็คือว่าทำได้เจ่งมากๆคือ เป็นชั้นใต้ดิน B1,2,3,4 นับเป็นจำนวนประมาณ 70% ซึ่งก็ถือว่าเยอะในระดับหนึ่ง คุณจะรู้สึกเหมือนมาห้างเลย ก็อยู่ในร่มทั้งหมด
เกือบลืมพูดไออีกเรื่องคือ Roof top garden ที่นี่ทุกตึก A,B,C จะมี roof top เป็นของตัวเองนะครับ ของตึกสูง B,C ก็จะได้วิวสวยๆกลางเมือง วิวดีมาก ถ้าเย็นๆเราเอาข้าวไปนั่งกิน ไปนั่ง chill นะผมว่าโอ้สุดยอดเลย เสียอย่างเดียวคือไม่มี lougne ข้างบนให้นั่งเล่น แต่ยอมรับว่าบรรยากาศดีมากๆ
การตกแต่ง
แนวทางการออกแบบของตึก Noble นั้นก็จะเน้นความเป็น minimal ออกแบบน้อยๆ ใช้ pattern ซ้ำๆ ใช้สีขาวกับดำ ตัดสลับกัน เราจะเห็นเป็นช่องหน้าต่าง ซอยถี่ๆ วัสดุบนตึกก็จะเป็น aluminium composite ตัดกับปูนทางสี และกระจกกั้นระเบียง พื้นที่ส่วนกลาง ก็จะใช้ทั้งหินอ่อน หินแกรนนิตติดไปทั่ว สร้างบรรยากาศ timeless design ผมว่าถัดไปจากนี้อีก 10 ปีคอนโดนี้ก็ยังดูไม่เชย วัสดุตกแต่งก็ใช้ของ grade ที่ดีมั่นใจได้เลยว่าจะสวยอยู่ได้ยาวนานมากๆ แต่การตกแต่งแบบนี้ก็อาจจะไม่ได้เป็นที่ถูกใจของท่านที่ต้องการแนวหรูหรา Hiso ถ้าจะหาแนวหลุยๆ แนว Classic dsign แบบ Ralph Lauren แนะนำไปดูที่ 98 wireless ดีกว่า หิหิ
แบบห้อง
ห้องที่ Noble นั้นมีประมาณ 1400 กว่าๆห้อง จัดว่ามีจำนวนห้องเยอะได้ใจเลย แต่ก็ต้องคิดว่าที่นี่มี 3 ตึกอยู่อาศัย พื้นที่ 9 ไร่ ก็พอจะเข้าใจได้นะครับ ส่วนแปลนห้อง ก็จะมีห้องนอนแบบ 1 นอน, 2 นอน, 3 นอน แต่ผมจะของ focus พูดถึงแค่แบบห้อง 1 ห้องนอนเท่านั้นนะครับ
ห้องนอน 1 ห้องนอนจะแบ่งออกเป็นแบบเล็ก และ ใหญ่
1 ห้องนอนขนาดเล็กพื้นที่ประมาณ 40 กว่าๆตร.ม. เป็นห้องแบบ Studio หลายคนอาจจะงงว่าทำไมพื้นที่ต้อง 40 กว่าตร.ม. แล้วมันจะต้องเป็น studio อีก ตอบได้เลยครับว่า ออกแบบไม่ดีเลย ห้องเป็นห้องแนวลึก หน้าแคบ พื้นที่จะเสียไปกับส่วนที่เป็นโถง lift เดินเข้ามาก็จะเจอกับ ครัว และโต๊ะกินเข้า แล้วก็จะเจอประตูกั้น เพื่อเข้าไปนั่งเล่น และนอน บอกตามตรงแบบห้องนอนนี้ผมไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ แต่ยังไงถ้าใครสนใจก็ลองเข้าดูก่อนได้นะครับ
1 ห้องนอนขนาดใหญ่พื้นที่ประมาณ 50 กว่าๆตร.ม. เป็นห้องนอนแบบที่แบ่งระหว่าง living space กับห้องนอนได้อย่างลงตัว พื้นที่อาจจะเสียไปกับโถง lift นิดนึง แต่ว่า ภายในห้องก็แบ่งได้อย่างดี กว้างขวางหน้าอยู่อาศัยครับ ผมเองชอบห้องนี้มากกว่า ก็เลยจัดหนักซื้อไปซะ 1 ห้อง แต่ของเสียก็คือ ห้อง 1 ห้องนอนขนาด 56 ตร.ม. นั้น ราคาก็หนักเอาเรื่อง ใน ขณะที่บางโครงการ 56 ตร.ม. คุณอาจจะได้ 2 ห้องนอนไปแล้ว
ของเสีย
พูดถึงของดีมามากแล้ว ต้องบอกตามตรงว่าผมเข้าไปในโครงการนี้ครั้งแรก แล้วก็หลงเลยครับ หลงทาง 555 เพราะโครงการใหญ่มาก มีหลายตึกหลายส่วนกลาง แต่พอเข้าใจแล้วก็เปลี่ยนกลายเป็น หลงเสน่ห์โครงการนี้ครับ ด้วยความที่ออกแบบดี ส่วนกลางอลัง location สุดยอด ข้อเสียที่เห็นของโครงการนี้แน่ๆเลยก็ได้แก่
– แปลนห้องมันจะเป็นแนวลึก พื้นที่ใช้สอยข้างในจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เทียบกับคอนโดอื่นๆ
– วิว block กันเองของแต่ละห้อง เพราะว่ามีหลายตึก อยู่ใจกลางเมือง ทำให้บางห้อง มีวิว ที่โดนบัง ดังน้ันต้องเลือกดีๆครับ
– ราคาที่ปรับขึ้นมาเรื่อยๆ ตั้งแต่เปิดตัว (น่าจะเปิดตัวที่ 170,000บาท/ตร.ม.) และยังคงปรับขึ้นไปอย่างไม่หยุดหย่อน ส่วนนึงก็อาจจะเป็นเพราะทำเลนี้มันดีจริงๆนะครับ มีโครงการใหม่ๆเข้ามาเปิดตัวอีกเยอะ แนวโน้มโครงการใหม่แถวนั้นผมว่าน่าจะมี 2-3 แสนแน่ๆเลย (ไม่นำ life @ wireless ที่อาจจะเปิดที่ 180,000 บาท/ตร.ม.) ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้ซื้อมาตั้งแต่ช่วย pre sale เสียดายมากๆ ผมมาซื้อดาว์นต่อจากคนอื่นอีกที ก็โดนบวกไปหลายล้านเลย เห็นโดนบวกแล้วเศร้า แต่ยังไงผมเชื่อส่วนตัวว่า location ดีมาก โครงการทำออกมาดีมากๆ ของมันยังไงก็ไปต่อครับ และอีกอย่าง Noble เองยังขายไม่หมด ยังเหลือห้องอยู่กับ Noble เองอีก 40% ( 500 กว่าห้อง) ซึ่งทาง Noble ก็ปรับราคาไปที่ 280,000 บาท/ตร.ม กันหมดแล้ว
– ด้านหน้าตึก Noble เป็นสำนักงาน มี retail แต่ retail ยังไม่มีคนเช่า เพราะเห็นเซลล์บอกว่า Noble ต้ังราคาแพงไป ผมว่ามันน่าจะเป็น 7-11 หรืออะไรที่อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า แต่ก็ยังไม่เห็นครับว่าร้านอะไรจะมาลง
– บริการ การจัดการ ตรวจห้อง ของ Noble ผมว่ามันยังไม่ค่อยดีทำงานช้า ผมตรวจห้องซัดกันไปเป็นเดือนกว่าๆ เสียดายเวลามาก แต่ก็อาจจะเป็นเพราะโครงการใหญ่แล้วบุคคลากรของ Noble ยังไม่ค่อยเพียงพอ
การลงทุน
ผมซื้อเอาไว้ปล่อยเช่าไปแล้วครับ ค่าเช่าก็ได้ประมาณ 900 – 1000 บาทต่อตร.ม. ผมรีบซื้อ รีบตกแต่งให้เร็วกว่าคนอื่นๆ ประกาศปล่อยเช่าไปไม่นานก็มีคนมาเช่าครับ ผมเชื่อว่าส่วนกลางมันดูดี คนมาดูก็ชอบกันหมด แต่จะต้องไปเฉือนกันที่การตกแต่ง เพราะว่าห้องเยอะมาก คู่แข่งก็เยอะมากด้วย แต่ถ้าเราแต่งห้องสวย ก็น่าจะจบไม่ยากครับ ห้องผมมีคนมาดู 3 คน ชอบไป 2 คน สุดท้ายก็ได้คนเช่าหลังแต่เสร็จแค่ 2 อาทิตย์เอง ใครอยากจะปรึกษาเรื่องการแต่งห้องก็ของ message มาคุยกันได้ครับ
ส่วนมุมราคาขายนั้นผมว่าอีกซัก 5 อีกอาจจะขายเอา capital gain คิดว่าน่าจะได้กำไรดีอยู่ เพราะอีก 5 ปีโครงการรอบๆไม่ว่าจะสถานฑูตอังกฤษ, โรงแรม Rosewood, Bangkok Sky ก็จะเปิดสร้างเสร็จแล้วราคาก็จะวิ่งกระโดดไปอีก และผมก็เชื่อว่าโครงการจะไม่โทรมเร็วเพราะ Noble จะต้องดูแลเป็นอย่างดีให้เป็น หน้าเป็นตาเค้า
สรุปโดยรวม
ผมซื้อโครงการนี้เพราะชอบทุกอย่าง และก็เชื่อว่า Noble จะต้องดูแลโครงการนี้เป็นอย่างดีให้เป็นหน้าเป็นตาของบริษัท เป็น Flagship ที่จะไม่ปล่อยให้โซม ให้เสียชื่อเสียของ Noble อย่างแน่นอน และผมว่า ผู้บริหารของ Noble ก็น่าจะอยู่ในโครงการนี้ด้วย