ทำไมผมถึงเชียร์ให้ซื้อห้องใหญ่ที่ Supalai Icon Sathorn

จากประสบการณ์ที่ดูคอนโดมานะ ผมว่าแต่ละที่ แต่ละคอนโดก็มีจุดเด่น จุดด้อย มี layout ที่ดี มี layout ที่ไม่ดี ผมได้โอกาสเข้าไปดูที่ Supalai Icon Sathorn มาหลายเที่ยวแล้ว และก็มีหลายๆอย่างที่จะมาเล่าให้เพื่อนๆฟัง จะมาแชร์วิธีคิดการซื้อคอนโดที่ตึกนี้มาฝากกันครับ

มาเล่าถึงตัวคอนโด Supalai Icon Sathorn โดยรวมๆก่อนนะครับ ตึกนี้อยู่บนถนนสาทรเลย อยู่ใกล้ๆกับซอยสวนพลู จะไปพระราม4,วิทยุ, สีลม, สาทร ไปได้ใกล้ๆทั้งหมด แต่ข้อด้อยก็อาจจะเป็นเรื่องการที่ทำเลอยู่ไกลรถไฟฟ้านิดนึง (ประมาณ 900-1,000 เมตร ที่จะไปทั้ง BTS และ MRT ครับ) ซึ่งในมุมมองผม ถ้าซื้อคอนโดห้องใหญ่ๆ เอาไว้อยู่เอง ยังไงน่าจะใช้รถเป็นหลักอยู่แล้ว ตึกนี้ถ้าขับรถ ผมว่าสะดวกดีนะ อยู่ใกล้ U turn ไปได้ทั้งขาเข้า ขาออก และในอีกไม่นานพอ One Bangkok เปิด, พอ Dusit Central Park เสร็จ ตำแหน่งตรงนี้คือ Super CBD ที่จะใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเลยนะครับ คนที่ซื้อ Supalai Icon Sathorn ไว้ที่ราคา ตารางเมตรละ 2 แสนบาท (อาจจะนิดๆ) ผมคิดว่าราคานี้ได้ทำเลแบบนี้ยังไงก็คุ้มค่าครับ

ส่วนกลางของตึกนี้ จากที่ไปดูมาจะแยกส่วนหลักๆอยู่ที่ Lobby+ห้องประชุม อยู่ชั้น 1,

ที่ชั้น 11 จะเป็น Fitness, สระว่ายน้ำ, ห้องดูหนัง, Reading Lounge

และสุดท้ายที่ชั้น 47 เป็น Lounge + bar อยู่ด้านบน เอาไว้ take วิว

ความรู้สึกรวมๆของที่ตึกนี้คือ ส่วนกลางเค้าใหญ่ over scale มากๆครับ ถ้าเราไปดูคอนโดหรูๆใจกลางเมือง ส่วนใหญ่แล้ว ส่วนกลางมันจะไม่ได้ดูใหญ่แบบนี้ครับ แต่ที่ Supalai Icon Sathorn ด้วยความที่ตึกมีความใหญ่ ที่ดินเค้า 7 ไร่กว่าๆ ดังนั้นส่วนกลางทุกๆจุดมันดูอิ่ม ดูเต็มดีมากๆเลยครับ feeling แบบโรงแรมมากๆเลย ยิ่งตรงส่วน lobby นะ พื้นที่เยอะ ที่นั่งเยอะ กระจายหลายรูปแบบ มีบ่อน้ำผุดสร้างเสียงน้ำ ทำให้บรรยากาศ relax ผมว่าดีเลย 

ส่วนสระว่ายน้ำก็ได้ถึง 2 สระขนาด 40 เมตร กับ 25 เมตร เป็นสระที่ใหญ่โคตรๆ มีสนามเด็กเล่น outdoor

ส่วนห้องดูหนังก็สูง โปร่ง กว้าง เหมือนเข้าไปอยู่ที่โรงหนังจริงๆเลยครับ เป็นการใช้พื้นที่แบบไม่กั๊กจริงๆครับ

ส่วนห้องเด็กก็ดีนะ ผมไปวิ่งเล่นกับลูกๆมา ที่ห้องนี้เด็กๆชอบกันมาเลย เล่นไม่ยอมเลิกเลย 555

ตัว Reading lounge ก็ได้ห้องเพดานสูงโปร่ง มองวิวไปเป็นสระว่ายน้ำ ทำออกมา feel ไม้ๆ ดูหรูหรา แต่ก็น่านั่งสุดๆไปเลยครับ อยากจะมานั่งทำงานที่ห้องนี้ทั้งวันเลยครับ

และที่ Lounge ชั้น 47 อันนี้เน้นความหรูหราด้วยกระจก กับพวกวัสดุเงาๆ ดูดีน่าขึ้นไปนั่งเล่นดีครับ 

แต่ ๆ ๆ ๆ มันก็มีบางจุดนะครับที่ผมแอบอยากกระซิบให้เค้าปรับนิดนึง เช่นพวกเฟอร์นิเจอร์ลอยที่เอามาใช้ผมว่า feeling คุณภาพ สัมผัส การใช้มันไม่ค่อยจะหรูหราสมฐานะเท่าไหร่ครับ (ผมว่าตรง lobby น่าจะใช้ของดีกว่านี้ได้อีกนะ)

หรืออย่าง sofa ในห้องดูหนังน่าจะเป็นแบบที่นั่งสบายๆกว่านี้มาใช้หน่อยนะ ผมว่าจะทำให้ประสบการณ์การใช้งานมัน perfect มากยิ่งขึ้นครับ

(ส่วนเรื่องความสวยงาม พวกพรมที่มาใช้ที่พื้น ลายไม่ค่อยสวยดู pixel แตกๆไม่สวยเลย

หรือ โคมไฟแขวนเพดาน ผมว่า scale มันเล็กไปอ่ะ เอาที่ Reading Lounge เนี่ยเค้าน่าจะปรับหน่อยนะ มันจะได้ดู grand สมกับ space ตรงนั้น)

กราบเรียนทางศุภาลัย ถ้าพอจะ upgrade พวก loose furniture พวกของตกแต่งได้อีกหน่อย ผมว่าจะดูหรูหรา สมฐานะมากกว่านี้อีกเยอะเลยครับ (อยากจะให้งานมันออกมาดีๆนะครับ ไหนๆที่นี่ก็เป็น flagship คอนโดของทางศุภาลัยแล้ว)

เอาเป็นว่ารวมๆ ส่วนกลางผมว่าทำออกมาได้ ใหญ่โต น่าสนใจ มีความหรูหรา มี mood and tone ที่ดูดี คนอยู่ที่นี่ อยู่แล้วก็น่าจะอยากลงมาใช้งานกันครับ

แล้วทำไมผมถึงแนะนำให้ซื้อห้องใหญ่ๆที่ตึกนี้

จากงานสำรวจตลาดที่ศุภาลัยเค้าทำไว้ เค้าพบว่า supply พวกห้อง 2bed หรือ ใหญ่กว่านั้น บนทำเลสาทรนี้ เหลือน้อยมากๆ ขายไปแทบจะหมดแล้ว และ ปีๆนึงคอนโดใหม่เปิดในทำเลนี้มีน้อย ส่วนนึงก็เพราะที่ดินบนถนนสาทรนั้นแทบจะไม่มีผืนใหญ่ๆเหลือแล้วครับ ที่ Icon เค้าก็วางห้องใหญ่ๆเอาไว้เยอะเหมือนกันนะ อย่างห้องพวก Three bedroom ถ้าเราซื้อที่ตึกนี้ งบ 20 ล้านบาทบวกลบ เราได้ห้องที่เป็น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ขนาดประมาณ 105-115 ตารางเมตร ผมว่า scale มันใหญ่ อยู่เป็นครอบครัวได้จริง ถ้าซื้อ 3bed เรายังได้ที่จอด Fix 1 ที่และ ที่จอด float 1 ที่ จะหา product แบบนี้กับคอนโดใจกลางเมือง ตัวอื่นๆ ผมว่าหายากมากๆเลยนะครับ ถ้าเพื่อนๆมองไปพวก 3 bedroom ที่ตึกอื่นๆ ผมว่าต้องใช้เงิน 30 ล้านขึ้นไปแน่ๆเลย แต่ที่ Supalai Icon Sathorn มีให้เลือกซื้อในช่วงราคา 20 ล้านบาท บวกลบได้ครับ … และในมุมการอยู่เป็นครอบครัว ก็น่าจะใช้รถยนต์เป็นหลัก ต้องไปรับส่งลูกที่โรงเรียนในเมือง ทำธุระในเมือง ยังไงทำเลของ Supalai Icon Sathorn ที่อยู่บนช่วงนี้ของถนนสาทรผมก็ว่ามันตอบโจทย์การอยู่อาศัยนะครับ

หรือถ้าใครงบเยอะกว่านั้น จะไปหาห้อง Duplex, ห้องใหญ่ๆ 3bed หรือ 4bed ที่ Supalai Icon Sathorn ก็มี layout ให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย น่าจะตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบครอบครัวได้แน่นอนครับ อย่างห้อง Duplex นี่เหมือนเป็นบ้านบนฟ้าเลยครับ ความสูงห้อง 6 เมตรกว่า ดู Wow สุดๆเลย แล้วถามว่าจะมีคอนโดอื่นๆ อันไหนที่มันมีห้องแบบนี้ scale นี้ มีรูปแบบห้องให้เลือกเยอะแบบนี้ผมว่าหายากเลยนะครับ

มองในมุมราคา เงินที่เราจ่ายไป ผมว่า ตารางเมตรละ 2 แสนบาท ได้คอนโดใจกลางเมืองขนาดนี้ เป็นแบบ Freehold ณ ปัจจุบัน มันถือว่าไม่ได้เป็นราคาที่กระโดดเกินไป หรือว่าแพงเว่อร์นะครับ เพื่อนๆลองดูคอนโดรอบๆในย่านนี้ดูได้เลยครับ พวก Leasehold ของ Dusit Central Park หรือของ One Bangkok เค้าก็เปิดราคามา 3 แสน ++ ต่อตารางเมตรกันหมดแล้ว นี่ยังไม่นับพวกรอบๆสวนลุมของแสนสิริในอนาคต หรือจะ Nimit หลังสวน หรือ Scope หลังสวน หรือ ตัวใหม่ๆบนถนนชิดลม คอนโดเหล่านี้ราคาไปไกลแทบจะเรียกว่า double ราคาของ Supalai Icon Sathorn ไปกันหมดแล้วครับ เข้าใจว่าทำเลอาจจะไม่ได้เหมือนกัน 100% แต่ในมุมผม ถ้าขับรถไปไหนมาไหน ใน zone นี้ สาทร พระราม 4 หลังสวน วิทยุ มันก็คือ ไม่ได้ไกลกันเลยครับ … ยิ่งเรา focus ที่ห้องใหญ่ พื้นที่เยอะ คูณ กันเข้าไปราคามันก็จะยิ่งกระโดดกันใหญ่เลยครับ ดังนั้นถ้าเรากำลังหาที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองอยู่แล้ว ด้วยงบที่มี 20 ล้าน บวก ลบ ยังไง Supalai Icon Sathorn ก็ได้เปรียบในเรื่องราคาเมื่อกับเทียบ project อื่นๆแน่นอนครับ ในขณะที่ส่วนกลาง หรือ spec ห้องก็ไม่ได้ต่างกันมากมายนัก

พูดมาดูเหมือนดีซะหมดเลยป่ะ แล้วเราต้องแลกกับอะไรไหม ทำไม Supalai Icon Sathorn ถึงทำราคาได้ถูกกว่าคอนโดอื่นๆ

ผมว่าคนที่มองที่นี่เอาไว้แล้ว ไม่ได้ซื้อ หรือ ไม่ได้เดินต่อ น่าจะมี concern อยู่ 3 จุดใหญ่ๆครับ

1. Unit เยอะหรือป่าว ? ( 720 ยูนิต) ไม่สมกับ segment luxury คอนโดหรือป่าว … เรื่องนี้ตอบเลยว่า เยอะกว่าคอนโดอื่นๆจริง เทียบ segment เดียวกันนะครับ พวกคอนโดหรูๆส่วนใหญ่แล้วโครงการนึง ผมดูว่าจะมีประมาณ 200 unit บวกลบนะ เค้าจะเน้นขายความ private ห้องน้อยๆ อยู่แล้วไม่ค่อยจะเจอกับใคร ลองดูตัวอย่างคอนโดที่ผมยกมาได้จะครับ จะได้เห็น feel ว่ามันเป็นอย่างไร

เช่น Scope หลังสวน มี 158 ยูนิต,
Saladaeng One มี 187 ยูนิต,
The Reserve Sathron มี 134 ยูนิต,
Dusit มี 160+246 = 406 ยูนิต,
Rom Convent มี 180 ยูนิต,
Coco Parc มี 444 ยูนิต,
The Address Siam ราชเทวี มี 880 ยูนิต

ก็ต้องยอมรับว่า Supalai Icon Sathorn ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ห้องเยอะกว่าแทบจะทุก project ที่ยกตัวอย่างมาเลยนะครับ ก็ต้องบอกว่าพื้นที่โครงการเราใหญ่นะ (ที่ดินตั้ง 7 ไร่) ก็ไม่แปลกที่จะมียูนิตเยอะกว่า (แต่เราก็ได้ส่วนกลางที่ใหญ่กว่าตึกอื่นๆเหมือนกันนะ) ส่วนเรื่องความเป็นส่วนตัว ผมว่าถ้าเราอยู่ห้องใหญ่แนวๆ family เราน่าจะใช้เวลาในห้องเราเป็นหลัก ก็ไม่ได้เจอใครอะไรมากมายอยู่แล้วนะ แต่ก็ยอมรับว่าเวลาลงไปใช้ส่วนกลางต่างๆยังไงก็ต้องเจอผู้คนเป็นธรรมดาของการอยู่อาศัยร่วมกันแบบคอนโดครับ (ถ้าไม่อยากจะใคร ก็ไปซื้อบ้านเดี่ยวครับ 555)

2.การอยู่อาศัยกับ Office … ที่ด้านหน้าของ Supalai Icon Sathorn จะเป็น office + retail สูง 14 ชั้น … อันนี้หล่ะเป็น concern หลักเลย ในแง่ของความเป็นส่วนตัวที่คอนโด คงจะไม่ได้ต้องห่วงอะไรมาก เพราะอาคาร office กับ residence มันแยกกันชัดเจน คน office ไม่สามารถเดินเข้ามาในคอนโดได้ แต่เรื่องของที่จอดรถ จะมีการแบ่งชั้นกันใช้งาน , เรื่องของทางเข้ารถจะใช้ด้วยกันครับ สิ่งที่คนกลัวกันมากๆก็เวลา rush hour ช่วงเย็นๆ ถ้าคนเข้า/ออก office พร้อมๆกัน แล้วรถจะติด ติดบนถนนสาทรก็ส่วนนึง จะติดลามไปจนถึงที่จอดรถไหม ? อันนี้บอกเลยว่าเป็นไปได้นะครับ ไม่ได้มองอย่างโลกสวยนะ เพราะทางเข้าออกคอนโด/ office ก็เป็นถนน 2 เลนแค่นั้นเอง ถ้ารถมาพร้อมๆกัน ก็มีสิทธิ์จะมาออๆกันได้ครับ อันนี้ผมว่า ต้องรอดูของจริงเท่านั้นเลยครับ (หรือใครจะไปลองสังเกตุที่อาคาร office อื่นๆแถวๆสีลม สาทร ว่าเย็นๆเค้ารถติดกันไหมก็ได้ครับ) แต่ยังไงช่วงแรกที่เปิดตึกอาจจะดูยาก เพราะ คนเช่า office ก็ยังไม่เต็ม คนอยู่คอนโดก็ยังน้อยครับ มันคงจะต้องใช้เวลาอีกประมาณ 1-2 ปีอย่างน้อย ถึงจะเริ่มเห็นสภาพจริงๆครับ ก็ต้องถามถึง lifestyle การอยู่อาศัย ถ้าเรากังวลเรื่องนี้มากๆ ก็คงจะต้อง wait and see ครับ แต่ถ้ามองว่า ฉันก็ไม่ได้เข้าออกเวลานี้นะ หรือ กลับบ้านเร็ว ช้า กว่าเวลานี้ ก็อาจจะ smooth ไม่เจอรถติดในทางก็ครับผม

3.สภาพการจราจรของถนนสาทรช่วงเย็นๆวันธรรมดา … อันนี้ผมว่าเป็นกันหมดหล่ะ ถ้าอยู่ในเมือง ไม่ว่าจะสีลม สาทร สุขุมวิท วิทยุ รถมันติดแน่นอนครับ เพื่อนผมที่ทำงานแถวนั้น เค้าก็ต้องรู้จักเช็คสภาพจราจร รู้จักทางเลี่ยงรถติดกันได้ หรือบางวัน Jackpot ก็เจอะรถติดเป็นชั่วโมง เพื่อวิ่งได้ 1-2 km ก็มีครับ อันนี้พูดยาก แต่ที่ Supalai Icon Sathorn อาจจะเสียเปรียบคนอื่นหน่อยตรงที่เราอยู่ไกลรถไฟฟ้า อาจจะลำบากกว่า เวลาเราอยากจะหนีไปรถไฟฟ้าครับ …. แต่ ๆ ๆ ๆ ก็อย่างที่บอกครับ ว่าจะอยู่ในเมือง ก็ต้องยอมรับเรื่องพวกนี้ให้ได้ เพราะถึงแม้เราจะหนีไปอยู่นอกเมือง เราก็ยังต้องฝ่ารถติดไปอยู่ดีจริงป่ะ

โอเคครับ ก็ประมาณนี้นะ เรื่องที่ผมอยากจะถ่ายทอด ใครมีงบประมาณ มองหาห้องใหญ่ๆใจกลางเมือง ก็ลองเข้ามาดูกันที่ Supalai Icon Sathorn แล้วกันนะครับ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นครับ มาลองดูของจริงกันได้ โดยรวมๆผมว่า Supalai Icon Sathorn เค้าทำออกมาได้ดีนะเป็นการ upgrade ของแบรนด์ศุภาลัยเลย แต่ยังไงเรื่องที่ concern ก็ต้องมาลองคิด ลองชั่งน้ำหนักกันให้ดีครับ ส่วนตัวผม ถ้ามีงบแบบ 20 ล้านบวกลบ ยังไงก็ต้องซื้อที่นี่ครับ เพราะมันซื้อที่อื่นๆไม่ไหวจริงๆ 555 เรื่องยูนิตเยอะ ผมมองข้ามไปได้นะ เพราะอยู่คอนโดยังไงก็ต้องเจอผู้ เจอคนอยู่แล้ว แต่ก็เจอเวลาที่มาใช้ส่วนกลางแค่นั้นหล่ะ เพราะห้องที่เราเลือกมันใหญ่ เวลาส่วนใหญ่ก็ใช้อยู่ในห้องเราซะมากกว่าครับ ส่วนเรื่อง Office ผมก็มองว่ามีแง่ดี ก็คือเราได้ใช้ประโยชน์จาก retail ที่มีชีวิตชีวา ถ้าร้านค้า ร้านอาหารมันอยู่ได้ เราก็อยู่คอนโดได้สบายขึ้นครับ ถ้าบริษัทดีๆมาเช่าอยู่ มันก็เป็นการ upgrade value ให้กับโครงการของเราไปด้วย ส่วนเวลาเข้าออก ผมว่าแล้วแต่ lifestyle ครับ ก็ต้องให้ทางนิติ เค้าบริหารจัดการ การจราจรให้ดีๆหน่อยก็แล้วครับ ส่วนเรื่องที่จอดที่ต้องวนขึ้นไปจอดผมแอบกระซิบว่า ถ้าเราซื้อห้องใหญ่ เราได้ที่จอด fix นะครับ ที่จอด fix จะอยู่ที่ชั้น P1 (ถือว่าเป็นชั้นที่ 3 ก็วนไปนิดเดียวก็ได้จอดแล้วครับ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยครับ ผมว่าดีกว่าใช้ลิฟต์รถนะ ยังไงวนจอด ก็สบายใจกว่าครับ) ยังไงก็ลองเข้ามาดูที่ตึกจริงกันได้เลยครับ เค้าเปิดให้เข้าดูส่วนกลางทุกจุดแล้ว และที่นี่ห้องตัวอย่างมีหลายแบบนะ ดูกันได้ฉ่ำใจเลยครับ หิหิหิ

Comments

comments