สำหรับเพื่อนๆที่ติดตามเพจผมมาเรื่อยๆก็คงจะเห็นว่าผมมีห้องที่โน่นที่นี่หลายห้องซึ่งแต่ละห้องก็ซื้อมาด้วยช่วงเวลาจังหวะและเหตุผลที่แตกต่างกันครับบางห้องซื้อมาแล้วก็รู้สึก Happy ดีนะครับแต่บางห้องซื้อมาแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจเหมือนกันครับเรามาไล่ดูกันดีกว่าอะไรทำให้ผมไม่สบายใจแล้วอะไรมันเป็นความผิดพลาดในการซื้อคอนโดของผมเผื่อเพื่อนๆอ่านกันแล้วจะเอา lesson learn เหล่านี้ไปปรับใช้กันบ้างเนอะ
.1.
ตัดสินใจเร็วไป … คือความเร็วในการตัดสินใจ มันก็แปรผันการข้อมูลที่เราใช้ประกอบใจการตัดสินใจเนอะ ยิ่งซื้อเร็วเท่าไหร่ ก็เท่ากับว่ามีเวลาในการ research น้อยเท่านั้น ส่วนตัวผมอาจจะดูโครงการมาเยอะ พอเห็นคอนโดอะไรลดราคา หรือว่าเค้าทำอะไรพิเศษมากๆ ผมก็จะรู้สึกได้ว่า deal นี้มันดี น่าจะต้องซื้อเอาไว้ คอนโดบางห้องผมตัดสินใจซื้อแบบปุ๊บปั๊บ คุยกับเซลล์แล้วก็ซื้อเลย จำได้ว่าอย่าง Park24 ที่ซื้อ ก็ซื้อเพราะเห็นคนขายขายราคาดีมาก ได้ห้อง 30 ตร.ม.ด้วย ก็เลยจัดเลย เบ็ดเสร็จใช้เวลาตัดสินใจแค่ 2-3 วันเท่านั้นเอง หรือจะเป็นตอนนั้นไปจอง Noble Around Ari ก็คุยกับเซลล์ตอนเช้า ตอนบ่ายๆก็ชวนแฟนเข้าไปดูแล้วก็จอง … ตัวเองก็ยังแอบงงๆว่าซื้ออะไรมานะ 555 คือแค่จะบอกว่า ตัดสินใจเร็วไป พอเวลาผ่านมานานๆ เริ่มมาผ่อนดาวน์ เริ่มเวลาเปลี่ยนไป ผมก็เริ่มเปลี่ยนความรู้สึก อาจจะคิดว่า ไม่อยากได้ห้องนี้แล้ว หรือ ว่าเราน่าจะเก็บเงินเอาไว้ซื้ออย่างอื่นดีกว่า … เอาว่าใครที่จะซื้อคอนโดให้ทำใจเย็นๆครับ ถ้าโดนคนอื่นแย่งไปก็ช่างมัน ถือว่าไม่ใช่ของเรา ในระยะยาวถ้าเราตัดสินใจรอบคอบ ก็จะได้ไม่ต้องมาไม่เสียใจ หรือ ไม่สบายใจในระยะยาวครับ
.2.
ซื้อแต่ห้องเล็กๆ … อันนี้ผมว่าเป็นข้อผิดพลาดอันใหญ่ของผมเลย ต้องบอกว่าเราเริ่มซื้อคอนโดเราก็เริ่มจากซื้อห้องเล็กๆ 2-3 ล้าน แล้วก็เอ้อ ! ซื้อแล้วมันเช่าได้ เราซื้อห้องใหม่ดีกว่า ก็ค่อยๆขยับไปซื้อ ห้อง 4-5 ล้าน (เพราะเริ่มมั่นใจ) แล้วก็เป็น step ไปเรื่อยๆค่อยๆขยับไปซื้อแพงขึ้นทีละนิด ทีละนิด เพราะยังกู้ได้ สุดท้าย one bedroom ขนาด 30-40 ตร.ม. เต็ม port ไปหมด 555 พอมารู้ตัวอีกทีคิดว่าเราน่าจะซื้อห้องใหญ่หน่อย two bedroom หรือ three bedroom มันจะได้มีโอกาสใช้จริงได้ หรือ value พวกห้องใหญ่ๆมันน่าจะไปได้ดีในอนาคต แต่ถึงวันนั้นที่คิดได้ ก็ไม่ทันแล้ว one bedroom เต็มมือไปหมดเลย 555 ดังนั้นเพื่อนๆที่จะซื้อคอนโด ผมแนะนำนะ ถ้ามีตังค์หน่อย เราหาเก็บซื้อห้องใหญ่ๆ rare ไปเลย โป้งเดียวจบ จะได้ไม่ต้องมาตกหลุมพรางเดียวกับผม 555
.3.
Low rise ที่ถูกลืม … ใน port ของผมมีทั้ง low rise และ high rise (ส่วนใหญ่จะเป็น high rise นะครับ) พอเวลาผ่านๆไป ผมก็เริ่มมารู้สึกได้ว่าคอนโด low rise เหมือนว่า agent ไม่ค่อยถามหา คนไม่ค่อยจะหา คงเป็นเพราะมันเข้าซอยไปเยอะหน่อย อย่างปีนี้ห้องที่ low rise ก็ว่างมา 2-3 เดือนแล้วยังไม่ได้คนเช่า และก็ไม่ค่อยมี traffic มาดูด้วย เปรียบเทียบกับคอนโดอื่นๆที่ผมถือแล้วเป็น high rise เช่าได้หมด มีคนถามตลอด ผมว่า exposure ก็มีส่วนนะครับ ระยะสั้นอาจจะไม่เห็นต่าง แต่ระยะยาวเราจะเริ่มเห็นได้เลยอ่ะ ก็ถ้าจะซื้อคอนโดลงทุนปล่อยเช่า ก็ลองดู high rise ก่อนแล้วกันเนอะ
.4.
ห้องชั้นบนสุด … ผมไม่มีห้องที่อยู่ชั้นบนสุดนะ แต่ผมได้คลุกคลีกับห้องที่อยู่ชั้นบนสุดหลายห้องมากๆ เข้าไปตกแต่ง ไปคุยกับเจ้าของ เจอปัญหาเดียวกันหมด น้ำรั่ว !!! แก้ยากมาก ต้องไปตามโครงการมาแก้ บางคนปวดหัวถึงกับอยากขายห้องทิ้งไปเลย คือผมไม่ได้บอกว่าทุกห้องที่อยู่ชั้นบนสุดจะต้องเป็นนะครับ แต่ผมว่าโอกาสจะมีปัญหามันมี % ที่เยอะมากๆอย่างมีนัยยะเลยอ่ะ ดังนั้น ถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงนะครับ จากใจจริงเลยอ่ะ
.5.
เลือกห้องหัวหมา-หางมังกร … อันนี้เป็น 2 เรื่องรวมกันนะครับ อย่างการเลือกห้องหัวหมา ก็คือห้องที่คอนโด segment กลางๆแต่ผมเลือกห้องที่ดีที่สุด ผมว่าผมซื้อ one bedroom ที่แพงที่สุดในโครงการเลย น่าจะแพงกว่าห้องขนาดเดียวกันที่ชั้นล่างๆเป็นล้านเลย … ซื้อมาแล้วก็สบายใจเรื่องวิว สบายใจเรื่องความสูงของห้อง (ห้องนี้สูงพิเศษเป็น double volume) แต่เห็นราคาแล้วไม่ค่อยสบายใจเลย ตอนขายจะไปขายยังไงดีวะเนี่ย ห้องเราต้นทุนแพงเหลือเกิน ก็ได้แต่ท่องๆเอาไว้ว่า ถือระยะยาวแล้วกันนะ เราได้ห้องดี ห้องสวย ตอนขายก็ต้องมีจุดเด่นซิ 555 ไม่รู้เป็นการปลอบใจตัวเองป่ะ
อีก case นึงผมก็ไปซื้อห้องแบบหางมังกรนะ … เป็นห้องที่อยู่ในคอนโด super luxury เลยแต่ผมซื้อห้องเล็กสุด วิวง่อยสุด 555 ตอนนั้นเค้าจัดโปร ผมก็เน้นเอาห้องราคาต่ำสุด เพื่อจะได้ซื้อได้กู้ได้ ตอนที่ซื้อก็ happy ดีนะเราได้อยู่คอนโดเจ๋งๆ location ดีๆ ในราคาน่ารักน่าชัง แต่พออยู่ๆไปมานั่งคิดแล้วตอนขายต่อ คนที่เค้าจะมาซื้อเค้าก็ต้องเทียบกับห้องสวยๆ เค้าจะเอาห้องเราหรือเนี่ย … คอนโดระดับ super luxury คนซื้อมีตังค์ เค้าก็อยากได้แต่ห้องดีๆ หรือ ห้องดีๆก็บวกราคากันได้เยอะแยะมากมาย แต่ห้องอย่างผมเป็นหางมังกรที่มีตำหนิ มันก็คงจะมี limit ของราคาที่จะขึ้นป่ะ คิดแล้วก็เศร้า 555 แต่ผมว่าข้อนี้ไม่มีถูกไม่มีผิดนะอยู่ที่ความพอใจของเรามากกว่า
.6.
วิวบล็อก … โอ้ย อันนี้ก็สนุก จำได้ว่าไปจองคอนโดมาตอน presale มันมีห้องสวยราคาดี ฝั่งนึงวิวโล่งตะวันตก ผมก็กลัวร้อน (เคยอยู่ห้องหันไปตะวันตก ร้อนตอนกลับบ้านมา) ก็เลยไปซื้อห้องอีกฝั่งที่หันตะวันออก แต่ ทิศนี้จะไปเจอะกับคอนโดข้างๆ วิว block ระดับนึง ส่วนตัวผมคิดว่า deal ดี ห้อง layout สวย สำคัญกว่า เพราะวิวเราอยู่ๆไปก็ไม่ได้ไปสนใจอะไรแล้ว …. ตลอด 2 ปีที่คอนโดสร้างผมก็จะพะวงเรื่องวิวตลอดเลย ไปส่องตึกระหว่างก่อสร้างว่า วิวจะบังเยอะไหม ห้องจะมืดไปไหม โอ้ย คือมันเป็นการซื้อแล้วผมกังวลตลอดเลย ว่างๆก็กลับมาคิดเรื่อง เอ้ะ ห้องฉันวิว block มันจะแย่ป่ะเนี่ย … ผมว่าห้องสุดท้าย ก็คงจะไม่ได้แย่หรอก (ปีหน้าจะมาเล่าให้ฟังนะครับว่าวิวเป็นยังไง) แต่ผมว่าผลทางจิตใจมากกว่า ที่ทำให้เราซื้อแล้วเราไม่ค่อยจะ happy เท่าไหร่ รู้สึกเหมือนมีแผลอะไรมาสะกิดตลอดๆ และเวลาขายต่อห้องนี้ก็อาจจะขายยาก ถ้าราคาไม่ได้ดีจริงๆน่ะครับ
.7.
ห้องที่วิวปัจจุบันโล่งสวยเลย แต่ๆๆๆ อนาคตอาจโดนบัง … จริงๆผมมีคอนโดหลายห้องเลยหล่ะที่ตอนนี้วิวโล่ง แต่ดั้นเป็นวิวที่ด้านล่างเป็นแค่ที่ดินเปล่าๆ หรือ เป็นบ้านอยู่อาศัย ซึ่งอนาคตอาจจะถูกขายแล้วสร้างเป็นตึกสูง ซึ่ง ถ้าสร้างเป็นตึกสูงก็จะบังเราเลยอ่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่อง classic ของคอนโดในตัวเมืองนะครับ ไม่มีอะไรการันตีวิวเราได้ ดังนั้นถ้าจะเลือกให้สบายใจก็ต้อง check ดีๆว่าที่ดินข้างๆคอนโด เป็นอะไร เป็นของใคร ขนาดเท่าไหร่ ซึ่งผมก็ไม่ได้เช็คละเอียดตอนซื้อ พอมาตอนนี้ก็แอบมากลุ้มใจครับ แต่ถามว่าเป็นเรื่องใหญ่โตไหม ก็ต้องบอกว่า วิวก็ยังโล่งอยู่ทุกห้องนะครับ ยังไม่มีที่ไหนมาสร้างบังห้องผม 555 แต่ตอนที่เราขายห้อง คนมาซื้อต่อ ถ้าเค้าคิดเยอะ คิดมาก ก็อาจจะทำให้ห้องเราขายยากก็ได้ครับ
.8.
กระสุนหมด … ผมเคยเล่าให้ฟังแล้วเนอะ ช่วงปีสองปีที่ผ่านมา คอนโดลดราคาเยอะมากๆ ลดเยอะจนผมอยากจะซื้อไปซะทุกที่เลย แต่ ซื้อไม่ได้แล้ว เพราะเงินและเครดิตไปติดอยู่ที่ห้องเก่าๆหมด 555 นี่หล่ะที่เค้าเรียกว่ากระสุนหมด คือไม่มีใครรู้หรอกว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่เราก็ควรจะมีเงิน มีเครดิตสำรองเอาไว้บ้างเผื่อจะได้ช้อนซื้อของได้ ณ วันที่ของราคามันมาดีๆ อย่างมีเรื่องเล่าฟังเค้ามา มีพี่คนนึงซื้อโอนห้องที่ noble เพลินจิต แบบ two bed/ one bath ขนาดน่าจะประมาณ 60-70 ตร.ม. พี่แกถือไม่นานก็ขายออก (ช่วง peak ของราคา) เอาเงินไปพัก พอดีจังหวะที่ noble มาลดราคา ลดแบบสุดๆทีนี่ noble ขายห้องแบบ two bedroom / two bathroom combine ขนาด 120 ตร.ม. พี่เค้าก็เอาเงินกองเดิม มาซื้อห้องกลับไป สรุปว่า ได้ห้องใหญ่ขึ้น โดยใช้เงินเท่าเดิม ฟังแล้วเจ๋งอ่ะ แต่จะทำได้ต้องเข้าออกถูกจังหวะ และมีกระสุนเหลือพอไว้สอยของดีที่จะมาในช่วงวิกฤตครับ
.9.
ซื้อห้องแพงตอน presale … โดน dev จัดโปรจี๊ด ! อันนี้ผมว่าเพื่อนๆคงจะเจอกันทุกคนครับ 555 ต้องบอกว่าตามทฤษฎีแล้วคอนโดราคา presale จะดีสุด แล้วค่อยปรับราคาขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงตึกเสร็จ แต่ช่วงสองปีที่ผ่านมามันไม่เป็นกลไกอย่างนั้น ผมมาเจอ dev เอาคอนโดมาลดราคา (ตอนตึกเสร็จ) ลดถูกกว่าที่เราซื้อตอน presale อีก อย่างผมเจอไปประมาณ 2 ห้อง หงายเก๋งเลย 555 เจ็บแล้วต้องจำเป็นบทเรียนครับ 555 คือมันก็ไม่มี indicator อะไรมาบอกเราหรอกนะ เพราะวิกฤต ยังไงก็เป็นวิกฤตครับ แต่สำหรับบางคนมันก็เป็นโอกาสในการเข้าซื้อคอนโดนะครับ
.10.
ซื้อคอนโดแล้ว ไม่ได้สร้าง (เศร้าอ่ะ) … อันนี้ก็ classic ครับ บางทีเราซื้อคอนโดไป เราก็เอาใจให้เค้าไปแล้ว อยากซื้อแล้วอยากโอน อยากให้ตึกเสร็จไวไวจะได้เห็นตึกจริง แต่ถ้าเวลาผ่านไป 2 ปีแล้วโครงการก็ยังไม่ได้สร้าง (EIA ไม่ผ่าน) สุดท้ายแล้วก็มาขอคืนเงิน พร้อมกับดอกเบี้ย (กรณีนี้ผมได้เงินคืนเต็มจำนวนพร้อมดอกเบี้ยนะครับ) คือแค่จะบอกว่าเรา invest ในเชิง emotion ไปซะเยอะ ก็แอบเสียใจนะที่ไม่ได้เห็นตึกจริง และเราก็ยังเสียโอกาส ที่จะไปซื้อที่อื่นอีก เพราะในใจลึกๆก็หวังว่าเค้าจะสร้างได้ … อันนี้ผมว่า เราเลือก dev ที่ดี dev ที่น่าเชื่อถือ แค่นั้นหล่ะ สุดท้าย สร้างได้ สร้างไม่ได้ เราไม่ได้เป็นคนควบคุม หรือ ถ้าเรามองว่า โครงการนี้สร้างแล้วจะมีการทะเลาะกับตึกข้างๆ อาจจะมีโอกาสไม่ได้สร้าง เราก็ต้องประเมิณกันเองครับ ถ้าให้ผมคิดง่ายๆ ถ้าเรามี plan ว่าจะใช้อยู่จริงจัง ไม่ต้องไปเสี่ยงกับเค้าหรอกครับ ไปซื้อที่ๆสร้างได้ชัวร์ดีกว่า แผนชีวิตเราจะได้ไม่เลื่อน ไม่มีปัญหา แต่ถ้ามองว่าซื้อลงทุนแล้วมันคุ้ม พร้อมเสี่ยงไปกับเค้า ได้ราคามาดี ก็ลุยเลยครับ ไม่มีอะไรเสียหายเพียงแค่วางแผนทางการเงินไว้ดีๆเท่านั้นเองครับ
.11.
ซื้อคอนโดที่มี unit เยอะๆ … อันนี้มันเป็นเหมือนเหรียญสองด้านนะครับ คือ unit เยอะ ด้านดีก็มีคือ ได้ส่วนกลางใหญ่โต ผมชอบบรรยากาศคอนโดแบบนี้นะ มีเสน่ห์ดี แต่อีกด้านนึง unit เยอะก็คนเยอะ พอคนเยอะก็มากเรื่อง อย่างที่ผมเจอก็ปัญหา Airbnb ลากกระเป๋าเข้ามาทุกวัน หรือส่วนกลางพังเร็ว และที่สำคัญพอมองในแง่การลงทุน คนเยอะ ก็คนปล่อยเช่าเยอะ ราคาก็แข่งขันกันสุดๆ หรือเวลาขายห้อง มันก็มีตัวเลือกมากมายหลายห้อง หลายราคา ตัดราคากันเองก็มีมากครับ คือ ถ้ารู้งี้จะพยายามเลือกคอนโดที่มัน prime สุดๆ unit น้อยสุดๆ เลือกซื้อแค่โครงการที่เป็น rare item คู่แข่งน้อยๆ น่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าครับ
.12.
เป้าหมายในการซื้อไม่คงที่ … อันนี้ผมเป็นประจำเลย คือตอนซื้อก็ซื้อเพราะว่าคิดว่ามันดี มันคุ้มค่า แต่จะซื้อเอามาทำอะไรไม่ได้คิด หรืออย่างเราซื้อเพื่ออยากจะได้ห้องใหญ่ๆเอามาเก็บไว้ส่งต่อให้ลูกในอนาคต แต่แล้วระหว่างที่เราเก็บห้องไว้ เราจะทำอะไรกับมันดี จะย้ายไปอยู่ก็ไม่สะดวก จะปล่อยเช่าก็แอบเสียดายห้อง 555 ผมว่าอันนี้ปัญหาโลกแตกครับ แต่ที่แน่ๆ คนซื้อต้องคิดให้ดี คิดให้ชัดว่าจะเอาห้องไปทำอะไรกันแน่ ถ้าจะอยู่เอง จะอยู่กี่คน อยู่ยังไง หรือซื้อมาปล่อยเช่า จะได้ค่าเช่าเท่าไหร่ แล้วจะขายเมื่อไหร่ คนที่มาซื้อต่อจากเราจะหน้าตาเป็นอย่างไร คิดให้ชัดเจนทุกอย่างก่อนซื้อครับ อย่าซื้อเพราะ impusle แล้วค่อยมาหาเป้าหมายว่าซื้อไปแล้วจะทำอะไร จะได้ไม่มากลุ้มใจแบบผม 555
.13.
คอนโดติดทางด่วน ติดรถไฟฟ้า (เสียงดัง) … เราซื้อคอนโดเราก็อยากจะได้คอนโดที่เดินทางสะดวก ติดทางด่วน ติดรถไฟฟ้าใช่ป่ะ จากประสบการณ์ผม ถามว่ามันเดินทางง่ายไหม เดินทางง่ายจริงๆนะ ออกมานิดเดียวก็รถไฟฟ้าแล้ว แต่ ๆ ๆ ๆ เสียงที่มาจากรถไฟฟ้า และ มาจากทางด่วนนี่ช่างโหดร้ายครับ อย่างห้องที่ noble revo silom ผมหันไปทางทางด่วน อยู่ชั้น 1X แล้วเสียงก็ยังดังรอดเข้ามาในห้องได้ จนคนเช่าแอบบ่นว่าอยากจะย้ายออกเพราะเรื่องเสียงเลยครับ ซึ่งวิธีแก้ ก็ยากด้วย หรืออีกเคสนึงคนรู้จักผมซื้อห้องชั้นไม่สูง (ประมาณชั้น 7-8) แล้วคอนโดอยู่ใกล้รถไฟฟ้า เสียงดังคนเช่าบ่นอยากจะขอย้ายออก (คือตอนซื้อ presale เราก็ดูแค่โมเดล ไม่ได้คิด ไม่ได้เลือกอะไรมาก พอมาเจอแบบนี้แย่เลย) สุดท้ายไปให้ร้านทำบานเลื่อนมาทำกั้น 2 ชั้น เค้าตีราคามาทั้งหมด 3 แสนบาท โอ้ย ทำไมมันแพงจังวะ !!! เอาเป็นว่าเพื่อนๆคนไหนซื้อคอนโด ก็คิดเรื่องเสียงรบกวนจากถนนใหญ่ จากรางรถไฟฟ้ากันด้วยนะครับ จะได้สบายใจ ไม่มาปวดหัวตอนท้าย
.14.
ซื้อคอนโดในซอย … ใน port ผมมีคอนโดหลายแบบทั้งอยู่ติดถนนใหญ่ อยู่ในซอยเล็ก ซอยใหญ่ แต่จากที่ผมสัมผัสได้นะครับ คอนโดที่อยู่ติดถนนใหญ่จริงจัง location ดีมากๆ เวลาผ่านไปยังไงก็มีคนเรียกถามหาตลอดๆ (อย่างที่ noble เพลินจิต เนี่ย มีคนถามตลอดเลย) มาเทียบกับคอนโด high rise ตัวอื่นที่อยู่ในซอย traffic การหาซื้อ มันต่างกันจริงๆนะครับ เลยเป็นบทเรียนที่ว่า ถ้าจะซื้อทั้งทีเอาที่ติดถนนใหญ่ เอาที่ prime คนเห็นตลอด จะได้มี demand อยากจะซื้อของต่อๆไปครับ
.15.
ซื้ออย่างเดียว แทบไม่ได้ขายเลย + หลงรักทรัพย์สินของตัวเอง … จริงๆตามทฤษฎีนะ ถ้าเราลงทุนคอนโดเราควรจะมองให้ทะลุไปเลยว่าซื้อมาแล้วจะปล่อยเช่า เช่าเสร็จแล้วเราคิดว่าใครจะมาซื้อ กลุ่มลูกค้าที่จะซื้อห้องต่อจากเราได้เป็นใคร แต่ ๆ ๆ ๆ ในทางปฏิบัติผมก็ไม่ได้เป็นคนที่มองไกลขนาดนั้นครับ ซื้อห้องต่างๆมาก็จะหลงรัก และรู้สึกผูกพันธ์กับห้องนั้นๆ ไม่อยากจะขาย หรือพอจะขายก็จะคิดว่าถ้าขายไปแล้ว จะหาซื้อห้องแบบนี้ ทำเลนี้ กลับมาได้ยังไง สรุปก็คือ เป็นผู้ซื้อที่ดี แต่เป็นผู้ขายที่แย่มากเลยครับ (ขนาดชื่อ page ยังเป็น why i buy เลย ไม่ได้เป็น why i sell นะ) ผมว่าในการลงทุนจริงๆแล้วการที่เราจะได้เงินมันมาจากการขายนะครับ ดังนั้นการขายสำคัญสุดๆเลย ถ้าเราซื้อๆขายๆ พอขายได้ ได้เงินกำไรมาเพิ่ม ก็เอาไปซื้อห้องใหญ่ขึ้น แล้วก็ขายใหม่ ทำรอบไปเรื่อยๆ เหมือนที่เคยดูในสารคดีที่เค้าเริ่มจากขาย คลิปหนีบกระดาษ แลกเปลี่ยนไปเรื่อยๆสุดท้ายกลายเป็นได้บ้านมาหลังนึงอ่ะ ฉันใดฉันนั้น ถ้าลงทุนในอสังหาก็ควรจะขายออก หมุนเงิน ซื้อใหม่ ซื้อเพิ่ม ไม่ต้องไปคิดเสียดายอะไรมากมาย เน้น หมุนวนเปลี่ยนไปตามรอบของเศรษฐกิจ เปลี่ยนไปตาม trend ต่างๆ หรือไปตาม location เปิดใหม่ ก็อาจจะทำให้เราทำเงินจากอสังหาได้มากกว่านี้ครับ
.16.
เน้นที่ใจกลางเมืองอย่างเดียว … อันนี้เป็นความเชื่อส่วนตัวของผมเลยว่า ผมอยากจะมีบ้านอยู่ใจกลางเมือง ดังนั้นผมก็จะเลือกซื้อคอนโดตามในเมืองไม่ว่าจะเป็น สาทร สยาม อโศก พร้อมพงษ์ เพลินจิต พญาไท อารีย์ วนเวียนอยู่ในเมืองนี้หล่ะ ไม่ยอมโดดออกจากวงนี้ เพราะเชื่อในมูลค่าของทำเล แต่ ๆ ๆ ๆ จริงๆแล้วทำเลเกิดใหม่เยอะแยะที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นพวกคอนโดแถวๆรังสิตให้นักศึกษาเช่า หรือคอนโดห้องละล้านนิดๆ ซื้อง่ายขายคล่อง หรือ คอนโดเมืองท่องเที่ยว พัทยา หัวหิน เหล่านี้เป็น zone ที่ผมไม่ได้ให้ความสนใจเลย แล้วก็ได้แต่มองตาปริ๊บๆเวลาเห็นคนได้กำไรจากคอนโดเหล่านี้ ถามว่าที่ผมเลือกในเมืองผิดไหม ก็คงจะไม่ผิด แต่ถามว่ามัน maximize yield ผลตอบแทนไหม ก็คงจะไม่ได้เท่า zone เกิดใหม่เหล่านี้ครับ
.
ก็ประมาณนี้สำครับการรวบรวมความผิดพลาดในการลงทุนคอนโดของผม หวังว่าเพื่อนๆอ่านแล้วคงจะได้ความสนุก เอ้ย ได้ซึมซับเรียนรู้อะไรไปไม่มากก็น้อยนะครับ ผมว่าการลงทุนมันคงไม่ได้มีผิดมีถูกมากมายหรอก มันจะมีแค่ลงทุนแล้วเราสบายใจกับมันไหม หรือ ลงทุนไปแล้วนอนไม่หลับ คิดกลับไปกลับมา อันนี้ไม่ดีแน่ สำหรับผมอาจจะเห็นว่าลงทุนผิดพลาดมากมายนะ 555 แต่การลงทุนคอนโดการลงทุนอสังหา ของผมก็ถือว่าเป็น comfort zone แล้ว ลงทุนแล้วผมสบายใจ ทำแล้วสนุก ตื่นขึ้นมาอยากทำอีก อยากไปดูโครงการ ดีใจเวลามีคนเช่า เหนื่อยใจเวลาห้องว่าง มันก็อะไรประมาณนี้หล่ะนะ หวังว่าเพื่อนๆคนได้ความรู้ไปไม่มากก็น้อย และยังไงฝากแชร์บทความนี้ หรือ มีอะไรจะแบ่งปันความรู้ก็ comment กันมาได้เลยครับ อยากฟังจากประสบการณ์คนอื่นบ้างครับ วันนี้ไปก่อน แค่นี้หล่ะ สวัสดีครับ