ผมอยากจะเล่าความประทับใจหลังจากที่ได้เข้าไปดู Life One Wireless มาครับ ต้องบอกเลยว่าผมเสียดายมากที่ไม่ได้เก็บคอนโดนี้ไว้ใน port จำได้เลยว่าวันที่เปิดพรีเซลผมยังเข้าไปดูเลยเสียดายจริงๆ วันนั้นไม่ได้ห้องที่ต้องการผมก็เลยไม่ได้ซื้อไว้ :( อดีตมันผ่านไปแล้วไม่ว่ากันครับมาวันนี้ตึกเสร็จผมก็รีบหาโอกาสเข้าไปดู
สิ่งแรกที่อยากจะพูดคือต้องปรบมือรัวๆให้กับ AP และทีมออกแบบจริงๆเพราะว่าLife One Wireless ตัวนี้ถือเป็น Life gen ใหม่ที่สลัดภาพเก่าๆของแบรนด์ Life ไปได้อย่างหมดจดครับ ตัวคอนโด Life นั้น concept brand ก็คือจะเป็นคอนโดที่ตั้งอยู่ในโลเคชั่นที่ค่อนข้างจะ prime + ราคาจะเอื้อมถึงได้ไม่ยาก+ใส่ส่วนกลางมาให้เยอะ แต่สเปคของต่างๆภายในห้องอาจจะไม่ได้สูงอะไรมาก เพื่อจะเน้นที่ราคา กับการที่มีจำนวนห้องเยอะหน่อย มาช่วยกันแชร์ cost ซึ่งผมว่า Life One Wireless เป็นคอนโดกลุ่ม mass premium ที่ทำการตลาดมาได้ชัดเจนและน่าสนใจครับ ตัว product ของที่นี่มีห้องประมาณพันกว่าห้องแต่ให้ส่วนกลางมาเยอะและสวยจริงๆ
#มาพูดกันเรื่องทำเล ก่อนนิดนึงผมว่าเพื่อนๆทุกคนคงจะรู้จักกับถนนวิทยุกันดีอยู่แล้วนะครับ ถนนวิทยุนั้นจัดว่าเป็นถนนที่ตัดผ่าใจกลางกรุงเทพฯอย่างแท้จริง จากตำแหน่งของคอนโด Life One Wireless เราสามารถเดินกลับไปขึ้นรถไฟฟ้า BTS สถานีเพลินจิตได้ไม่ยาก หรือจะเดินไป Central Embassy ก็ไม่ยากครับ ฝั่งตรงข้ามก็มี BDMS ซึ่งเป็น wellness ของทางกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพอีก เอาแค่ทำเล ณ ปัจจุบันนี้ก็ต้องถือว่ามีศักยภาพที่สมบูรณ์อยู่แล้ว แต่ๆๆๆ ต่อไปจากนี้ช่วงถนนวิทยุโซนของ Life One Wireless จะมีความเจริญขึ้นอีกอย่างก้าวกระโดดจากกลุ่มของเซ็นทรัลที่จะพัฒนาแปลงที่ดินสถานทูตอังกฤษเป็นCentral embassy เฟส 2 ซึ่งจะเป็นมิกซ์ยูสที่มีทั้งห้าง/โรงแรม/ออฟฟิศ ผมว่าตอนที่โครงการส่วนนี้เสร็จจะสร้างความ premium ยกระดับ value ของโซนถนนวิทยุส่วนนี้ไปได้อีกไกลมากๆ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ Life One Wireless จะเป็นคอนโดที่มีโลเคชั่นที่ดีที่สุดและคุ้มค่าที่สุดในราคาที่เอื้อมถึงได้จริงๆตาม concept ครับ

มาว่ากันเรื่องของส่วนกลางแต่ละส่วนที่ได้เข้าไปดูมาดีกว่าครับ เพราะ Life One Wireless เป็นคอนโดที่ให้ส่วนกลางเยอะมากและส่วนกลางมีรายละเอียดการออกแบบการตกแต่งที่ดีมาก
.
เริ่มกันที่ทางเข้า โครงการจะมีระยะร่นของที่ดินเข้ามาจากถนนวิทยุนิดหน่อย ดังนั้นเรื่องเสียงจากถนนวิทยุไม่ต้องเป็นห่วงครับไม่เข้ามากวนใจแน่นอน เวลาเดินเข้ามาในโครงการก็จะเจอจุด drop off ที่จะเล่นเป็นลักษณะของน้ำพุอยู่ตรงกลาง เวลาวนรถมาส่งคนก็จะรู้สึกได้ถึงความพรีเมี่ยม เหมือนอยู่โรงแรมเลยอ่ะ บอกเลยว่าออกแบบได้สวยมาก (เข้ามาปุ๊บก็เริ่มประทับใจแล้ว หิหิหิ)

ถัดเข้ามาหน่อยจะเป็นส่วนของ outdoor lobby ซึ่งจะเป็นลักษณะเป็น sunken seat เป็นที่นั่งบุ๋มลงไปที่พื้น เพื่อจะนั่งมองวิวสวน ส่วนนี้ก็ออกแบบมาได้สอดประสานกับสวนสีเขียวข้างนอกดีครับ เหมือนเวลาไปบ้านสมัยก่อนจะได้ผ่านส่วนที่เป็น out door ก่อนที่จะเข้ามาในบ้าน
พอเราเข้ามาใน Lobby ด้านในตกแต่งในลักษณะของบ้านหลังใหญ่ๆที่ดูผู้ดี้ผู้ดี ใช้โทนสีขาวเป็นหลัก พื้นปูด้วยหินอ่อนสีขาวตัดกุ๊นสีดำดูลงตัว ส่วนของผนังต่างๆก็กรุไม้ เดินบัว เดินคิ้ว ทำให้ได้สัมผัสของความเป็นยุโรป บวกกับความเป็นไทยแบบคลาสสิค/โคโลเนียล ลักษณะเพดานจะเป็นเพดานสูงประมาณ 5-6 เมตรทำให้เข้าไปในล็อบบี้แล้วรู้สึกโปร่งโล่งดูสูงดูแพง
ที่นี่จะเล่นสี accent ด้วยสีทอง ดังจะเห็นได้จากตู้จดหมายสีทองที่เป็นลักษณะ open สีทองก็จะทำให้ภายในล็อบบี้ดูหรูหราดู grand ขึ้นไปอีกขั้น

อีกส่วนของดีไซน์ที่ผมชอบของ lobby ก็คือการที่ใช้กระจกบานใหญ่ เปิดมุมมองจากในล็อบบี้ มองออกไปยังสวนด้านนอกซึ่งสวนด้านนอกก็จะเล่นเป็นลักษณะของน้ำตก มีบ่อน้ำผสานกับหญ้าสีเขียวเป็นสวนที่ #สวยโคตรๆ เลยครับผมชอบสวนที่ชั้น 1 มากๆ
สีขาว classic มีชาติตระกูล (น้ำตกสวยมากๆ ไม่เชื่อไปดูเองเลย)

พูดง่ายๆครับไม่ว่าจะคนซื้อหรือคนเช่าไม่ว่าจะมาจากชาติไหน ประเทศอะไร เดินเข้ามาในล็อบบี้ของ Life One Wireless แล้วรับรองประทับใจแน่นอนครับ เป็นการดีไซน์ที่มี taste ที่เป็นไทย+international ดีผมชอบครับ นอกจากนี้ที่ตรงล็อบบี้ยังเชื่อมต่อไปยังห้องสมุดที่เป็นเหมือนที่นั่งเล่นอ่านหนังสือ ในแง่ของฟังก์ชันก็มีให้ที่นั่งรอ ที่นั่งคุยตรงที่ล็อบบี้เยอะดี ผมว่าเหมาะแล้วเพราะว่าลูกบ้านที่นี่มีเยอะหน่อย เราก็จัดที่จัดทางให้เขาอยู่กันได้อย่างพอเพียงครับ
.
ขึ้นไปดูที่ชั้น 10 ทางโครงการมีการออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวที่ชั้นอื่นๆ ให้ลูกบ้านได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งก็คือ Cascade Garden ซึ่งตัวสวนก็มีลักษณะที่ค่อนข้างใหญ่ และมี Square Lagoon โดยจัดสรรพื้นที่ให้มีการเล่นระดับ พร้อมจัดจังหวะของการวางหิน เพื่อนำสายตาไปยัง The Illuminated Pavilion ที่นั่งพักผ่อนชมวิวสวน มีลักษณะเป็นศาลาให้นั่งเล่นบังแดด ผมว่าเป็นการดีไซน์ที่ดี เพราะส่วนนี้ไม่ได้มีหน้าที่ให้ลูกบ้านมานั่งเล่นอย่างเดียว ยังมีหน้าที่สร้างบรรยากาศให้กับห้องฝั่งที่หันมาทางมุมสวนนี้ในชั้นเตี้ยได้เสพวิวสวนตรงนี้ด้วย เรียกได้ว่าดีงามทั้งในแง่ function และดีงามทั้งในแง่วิวสำหรับคนอยู่อาศัยครับ
ถ้าใครได้ห้องที่อยู่ชั้น 10 ก็ไม่ต้องน้อยใจนะครับเพราะเราสามารถเดินจากในห้องออกมาใช้งานที่สวนได้อย่างเป็นประจำ ผมว่าห้องชั้น10 ก็มีจุดเด่นดีเพราะเราเดินนิดเดียวถึงสวนขนาดใหญ่แล้ว คนอยู่อาศัยก็ออกมา relax มานั่งชิวๆที่สวนได้ไม่ต้องนั่งที่ระเบียงห้องอย่างเดียวครับ
.
ขึ้นมาที่ชั้นส่วนกลางด้านบนที่ชั้น 42 ก็จะเป็น Lounge ต้องบอกเลยว่าเป็น Lougne ที่ใหญ่มาก!!! และจะแบ่ง section ย่อยๆเพื่อให้ลูกบ้านกระจายกันใช้งานได้หลากหลายฟังชั่นไม่ว่าจะเป็น
– พื้นที่นี้คือ AMPHITHEATER WIRELESS SOCIAL CLUB ที่ถูกออกแบบมาเป็น Co-Working space มีระบบรองรับการใช้งาน ทั้งระบบการจอง ระบบเสียง ระบบจอการนำเสนอ จะเป็นห้องที่มีโซฟาขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยไม้สีดำ เวลาปิดม่านห้องนี้ก็จะมืดทึบ ก็จะสามารถดูหนังอย่างมันส์! ถัดเข้าไปในห้องก็จะมีโซนที่นั่งเล่นมีเคาน์เตอร์บาร์ มีครัวเอาไว้ เตรียมน้ำ เตรียมขนมอะไรได้ เหมาะสำหรับการพาเพื่อนมาปาร์ตี้บนห้องนี้อย่างจริงจังครับ
– โซนนั่งประชุมจะเป็นโต๊ะยาวนั่งได้ประมาณ 10 คน ส่วนที่ผมชอบคือประชุมไปมองวิวออกไปข้างนอกโคตรฟินเลยครับ แล้วมันจะมีบานเฟี้ยมซึ่งเราสามารถกั้น sectional ของโซนต่างๆได้ทำให้เกิดความprivate ในการใช้ส่วนกลาง

– โซนที่นั่งเล่นอันนี้ก็จะกระจายอยู่หลายส่วนในเล้าจะมีทั้งแบบที่เป็นที่นั่งวงกลมและมีลำโพง project เสียงลงมาเฉพาะส่วนของเรา ตรงนี้ก็ไว้นั่งดูหนังฟังเพลงได้มีความเป็นส่วนตัว
– ส่วนที่ไฮไลท์สุดคือเก้าอี้สีทอง 3 ตัวที่ลักษณะเหมือนเป็นกรงนกให้เราเข้าไปนั่งข้างในแล้วหันออกไปมองวิวโล่งๆ ตรงนี้ฟินมากครับเป็นโซนไฮไลท์ที่ผมถ้าผมอยู่ที่นี่ผมจะมานั่งเก้าอี้ตัวนี้ทุกวันเลยครับชอบๆ

– นอกจากนี้ก็ยังมีบาร์เคาน์เตอร์ให้ทำพวกเครื่องดื่มๆต่างๆได้

– แล้วยังมีโซน outdoor ตัว Lougne สามารถเดินออกไปที่พื้นที่สวนที่อยู่ต่อกันได้ ที่พื้นที่สวนก็จะมีเหมือนเป็นโซนไว้ให้เตรียมอาหารแล้วสามารถขึ้นมาทำบาร์บีคิวมาปิกนิกมานั่งเล่นสังสรรค์กินข้าวกับเพื่อนได้ เป็นฟังก์ชันที่จะออกมาได้ดีเลิศจริงๆครับ แถมตัวเคาน์เตอร์บาร์ที่อยู่ outdoor ก็ยังใส่ลูกเล่นทำเป็นเลข 1 ภาษาไทยอีกเพิ่มงานดีไซน์ให้ดูน่าสนใจด้วยครับ
สิ่งที่หลายๆคนอาจจะมองข้ามไปในชั้น 42 ก็คือ storage room ที่นี่จัดห้องว่างๆเอามาให้ลูกบ้านใช้เก็บของได้เยอะมากครับก็ต้องนับถือในหัวใจของ AP จริงๆที่เขาเอาห้องที่อยู่ใต้สระว่ายน้ำทั้งหมดไม่ใช้ไม่เป็นพื้นที่ขาย แต่เอามาใช้เป็นห้องเก็บของให้ลูกบ้าน เราอยู่คอนโดห้องเราอาจจะไม่ได้ใหญ่แล้วนั้นถ้ามีของ extra ในชีวิตก็เอามาฝากเก็บที่ชั้นนี้ได้ครับ เป็นฟังก์ชันที่ถือว่าทาง Developer ใจถึงจริงๆ ที่ให้พื้นที่เยอะขนาดนี้ คนอยู่อาศัยที่นี่ได้ใช้จริงแน่นอนครับ
สระว่ายน้ำและ fitness อยู่ที่ชั้น 43 ชั้นสูงสุดของโครงการ ตัวของสระว่ายน้ำนั้นก็จะมีลักษณะเป็น Infinity edge pool คือมองออกไปเป็นวิวเพลินจิต เป็นวิวเพชรบุรี ขึ้นไปดูแล้ว WOW ดีครับ ความยาวสระผมว่าต้องมีประมาณ 35 เมตร ว่ายกันแล้วเหนื่อยเลย 555 วิวสวยมากเพราะเราอยู่ชั้นสูง ทำออกมาได้ดีครับไม่เสียดายเลย นอกจากสระว่ายน้ำ พร้อมด้วยส่วน Jacuzzi แล้ว ก็ยังมีฟิตเนสที่อยู่ใกล้ๆกัน เค้าให้เครื่องเล่นมาเต็มครับ จัดว่าพื้นที่ฟิตเนสค่อนข้างใหญ่รองรับคนในคอนโดได้น่าจะเพียงพอครับ นอกจากนี้เพดานที่สูงถึง 5 เมตร และตกแต่งด้วยกระจกใส ทำให้สามารถเห็นวิวมุมสูงของกรุงเทพฯ ได้รอบทิศทางด้วยครับ


ส่วนถัดไป นับเป็นไฮไลท์สำคัญของโครงการ ในส่วนนี้จะเป็นการดีไซน์Sky Walk ที่เชื่อมต่อออกไปยัง The Vista Deck จุดชมวิวกรุงเทพ แบบ 360 อาศา เป็นจุดที่พลาดไม่ได้

มาเล่าถึงภายในห้องกันบ้างนะครับ ก็ต้องออกตัวก่อนว่าแบรนด์ Life นั้นเขาเน้นทำเลกับส่วนกลาง ในส่วนของห้องพักอาศัยสเปคของต่างๆเป็นสเปคที่กลางๆครับ ไม่ได้โดดเด่นอะไรมากมาย
ห้องแบบหนึ่งนอน 35 ตรม
ห้อง Layout แบบนี้ เป็นห้องที่มี living ,ห้องนอน และห้องอเนกประสงค์แยกกันก็เป็นสัดส่วน จัดเป็น layout classic ของทาง APครับ ผมว่าอยู่จริงสบายๆครับเราสามารถวางโซฟาตัวใหญ่ได้ส่วนโต๊ะกินข้าวก็นั่งหันไปทางครัวในห้องนอนก็สามารถวางเตียงคิงไซส์ได้ครับ ส่วนในห้องอเนกประสงค์นั้นเราก็จัดเป็นโซนทำงานและแต่งตัวได้ สามารถบิ้วตู้เสื้อผ้าได้เยอะเก็บของได้เยอะจริงครับ เพดานห้องผมคิดว่าน่าจะสูงประมาณ 2.6 เมตรก็ถือว่าอยู่ได้มาตรฐานดี กระจกต่างๆภายในห้องบานไม่ได้ใหญ่มาก แต่ถ้าให้ผมแนะนำ เราติดม่านให้เต็มผนังเต็มพื้นที่ จะช่วยสร้างความรู้สึกว่ากระจกมันดูใหญ่ขึ้นได้ครับ
ห้องขนาด 28 ตรม. แบบ Studio
ห้อง layout สี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวลึก เข้ามาเจอครัว เจอห้องน้ำ ถัดจากนั้นก็เป็นเตียงนอนดูทีวี ผมว่าห้องนี้โดดเด่นในเรื่องของราคาครับ เพราะว่าเราสามารถปล่อยเช่าราคาซัก 20,000 บาทได้ ผมคิดว่าหาคนเช่าได้ไม่ยาก แถมเป็น layout ที่คล้ายๆกับการอยู่โรงแรมนะครับ อาจจะไม่ได้แบ่งเป็นสัดส่วนมากมายแต่ก็ได้พื้นที่รวมๆ ก็ไม่รู้สึกว่าแคบอะไร ผมเคยตกแต่งห้อง type นี้ที่ Rhythm Ekkamai มาแล้วก็รู้สึกว่าเป็น layout ที่อยู่ได้ชิวๆ อยู่คนเดียวสบายๆครับ การออกแบบห้องนี้เขาเน้นอยากจะให้คนอยู่อาศัยออกไปใช้ส่วนกลางกันให้เยอะครับ ไม่ต้องมานั่งอยู่ในห้องอย่างเดียว เพราะส่วนกลางหลากหลายน่าใช้มาก ดังนั้นห้องก็ไม่จำเป็นต้องเป็นห้องใหญ่ครับ ห้องแบบสตูดิโอก็ลงทุนได้แล้วผมเชื่อแบบนั้นครับ
เล่ามาซะเยอะนะครับ ผมประทับใจอย่างมากกับโครงการ Life One Wireless ความรู้สึกจะคล้ายๆกับตอนที่ผมไปดู Ashton Chula Silom ที่มีส่วนกลาง wow ๆ ตอนเปิดตึกใหม่ พอตึกเสร็จนั้นมีลูกค้าเข้ามาซื้อช่วงก่อนโอนกันเยอะมาก เหตุการณ์เดียวกันน่าจะเกิดกับ Life One Wireless อย่างแน่นอน เพราะ product ดีลูกค้าประทับใจ และที่สำคัญที่ Life One Wireless ทำเลยังมีอนาคตที่สดใสและชัดเจนมากๆครับ ผมเชื่อว่าที่นี่ราคาดูแล้วไม่แพงเทียบกับส่วนกลางเทียบกับทำเลที่เราได้ จะขายต่อหรือเก็บไว้เป็นทรัพย์สิน หรือเอาไว้ปล่อยเช่า ผมว่าทำได้ไม่ยากครับ เป็นโครงการที่โดดเด่นที่สุดตัวนึงในปีนี้ในสายตาของผม
แต่สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นครับ ใครมีเวลาผมแนะนำว่าลองเดินเข้ามาดูที่ Life One Wireless กันน่าจะได้ไอเดีย ได้ความประทับใจอย่างที่ผมเล่าให้ฟังวันนี้แน่นอนครับแล้วถ้ามีเงินลงทุน ซื้อที่นี่เก็บไว้ไม่เสียดายครับฟันธง
LIFE ๑ WIRELESS – LIVE A SPLENDID LIFE ON WIRELESS ROAD.
ลักซ์ชัวรี่คอนโดมิเนียม ใกล้ Central Embassy และ BTS เพลินจิต โดดเด่นด้วยดีไซน์แบบ
Modern Thai Heritage บน #ทำเลที่ดีที่สุดของถนนวิทยุ
The Fully-Completed LIFE ๑ WIRELESS
เผยโฉมคอนโดพร้อมอยู่แห่งใหม่บนถนนวิทยุครั้งแรก! รื่นรมไปกับส่วนกลางหลากหลายไลฟ์สไตล์
อาทิ Wireless Social Club, One Wireless Botany, Cascade Garden, High Garden
Promenade บนชั้น Rooftop
ใช้ชีวิตบนที่ดินผืนประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร
พรั่งพร้อมและครบครันด้วย Cosmopolitan Community
สิ่งอำนวยความสะดวกที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ ในราคาเริ่มต้นที่ 4.19 ล้าน*
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/30RPnCJ
#APThai #LifeOneWireless #LIFE๑WIRELESS