วันนี้ผมได้โอกาสเข้าไปเยี่ยมชมโครงการ Chapter One Eco มาเลยอยากจะมาเล่าให้เพื่อนๆฟัง ผมว่าคอนโดนี้ขายดีนะครับ ยิ่งใกล้โอนห้องยิ่งหมดไปเรื่อยๆ ตอนนี้เหลือห้องแค่ 10 กว่า % เท่านั้นเอง ตัวโครงการมีหลายอย่างที่ทำให้น่าสนใจนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคา Package ห้องที่ไม่แพงนัก ผ่อนได้สบายๆ ส่วนกลางที่ใหญ่โตอลังการมากๆ Support กับวิถีชีวิต ของคนรุ่นใหม่ได้อย่างดี ผมเชื่อมือทีม Chapter One ของพฤกษาทีมนี้มากๆ ว่าจะทำคอนโดนี้ออกมาได้ดีมี Style โดยดูตัวอย่างได้จากโครงการรุ่นพี่ไม่ว่าจะเป็น
– Chapter One Midtown ลาดพร้าวที่ตอนตึกเสร็จออกมาปังมากๆ ออกแบบดี Loftเท่ห์สุดๆ คนเห็นช่วงตึกเสร็จทุกคนอยากซื้อครับ
– Chapter One Modern Dutch ที่ทำโครงการออกมาได้มีบรรยากาศดีมากๆ เป็นคอนโดริมน้ำมีมี Theme สุดๆ ผ่านมาหลายปีโครงการยังดูดี มีชีวิตชีวา มีความอบอุ่น
– The Reserve เกษมสันต์3 ที่เป็น Low Rise แต่สร้างความรู้สึกแบบboutique hotel ได้ดีมากๆ (ผมพูดในฐานะลูกค้าที่ซื้อคอนโดกับทีมนี้ของพฤกษามาหลายห้องนะครับ 555) เรากลับมาเข้าเรื่องของ Chapter One Eco ของเราก่อนดีกว่า
// Location \\
Chapter One Eco ตั้งอยู่บนถนนประชาอุทิศ คิดง่ายๆว่าเราสามารถเข้าจากถนนรัชดาภิเษก ผ่านถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ตัวโครงการตั้งห่างจากรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีห้วยขวางมาประมาณ 1.4km ตัวถนนข้างหน้าโครงการ ก็เป็นถนนสองเลนวิ่งสวนกันได้ และฝั่งตรงข้ามจะเป็นคอนโด U-Delight ห้วยขวาง โดยรวมๆผมคิดว่าทำเลกลางๆครับ จะเดินทางด้วยรถก็วิ่งไป New CBD พระราม9 ไปห้างต่างๆได้สบายๆ อาจจะไม่ได้ติดกับรถไฟฟ้านัก แต่ตัวโครงการเองก็จะมีรถ Shuttleค่อยไปส่งที่MRT ห้วยขวาง และ มีอีกเส้นคือ Shuttle จะไปส่งที่ MRTศูนย์วัฒนธรรม วิ่งไปทาง Central พระราม 9 ทำให้ชีวิตของลูกบ้านที่นี่อยู่ได้สบายๆ Chill Chill
// แนวโน้มการพัฒนาของพื้นที่ \\
ผมคิดว่าลูกค้าของคอนโดนี้ส่วนใหญ่น่าจะมองถึงทำเลพระราม9 ที่กำลังจะมีตึก Office พัฒนาขึ้นอีกเยอะทำให้มีความต้องการที่อยู่อาศัยมากขึ้น และห้วยขวางนั้นจัดได้ว่าเป็น New China Town จริงๆ ผมว่าความเจริญของห้วยขวางจะวิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะยังไงเศรษฐกิจของจีน ก็ต้องวิ่งขึ้นมาเป็นผู้นำของโลก Zone พระราม9 รัชดา ห้วยขวาง เป็น Zoneที่จะโตไปตามกับการเข้ามาของคนจีนรุ่นใหม่ๆครับ ผมว่าเป็นทำเลที่มีอนาคต และแอบแฝงไว้ด้วยแรงขับเคลื่อนจากพี่จีน ยังไงก็ไปต่อครับ
// การออกแบบ \\
โครงการ Chapter One Eco รัชดา ห้วยขวาง เป็นโครงการใหญ่ ประกอบด้วยคอนโดทั้งหมด 8 ตึกนะครับ มีห้องพักประมาณ 1,844units มีร้านค้าอยู่ด้านหน้าอีก 6unit ตั้งอยู่บนพื้นที่13 ไร่ (ใหญ่มาก) แต่ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะแออัดนะครับ เพราะที่นี่เค้าออกแบบให้มีส่วนกลางที่ใหญ่มากๆ โดยส่วนกลางจะแยกตัวเองออกมาจากตึกที่พักอาศัย จะมีทั้งHome Theatre,Bike club, Co-Working Space, Reading Room, Lounge, Farm & BBQ, สระว่ายน้ำ 50 เมตร, Fitness,Street Basketball โอ้ จากที่ผมดูแผนผังต้องบอกว่า ส่วนกลางเยอะจริงๆ คิดง่ายๆว่าส่วนกลางแต่ละอย่าง ก็จะเป็นบ้านแต่ละหลังตั้งเรียงรายกันอยู่บนตึกจอดรถ แถมยังมีบางส่วนเปิด 24Hr.อีกเอาใจวัยรุ่นสุดๆ นอกจากนี้ในแต่ละตึกก็จะมี Lobby สู้งสูง 9 เมตรอีก เอาไว้นั่งเล่น นั่งรับแขกได้อีก เป็นการกระจายส่วนกลางมาไว้แต่ละตึกอีก ดีงามจริงๆครับ
ส่วนตัวตึก โครงการมี 8 ตึก แต่ก็วาง Layout ออกมาให้เอียงหลบกัน ห้องจึงไม่หันประจันหน้ากันตรงๆ ทำให้รับวิวได้ครบ และ ระหว่างตึกยังจะเกิดช่องลมช่วยให้มีการ Flow ของลมในโครงการอย่างดี สร้างบรรยากาศเวลาเดินเล่นในสวนของโครงการ หรือ เดินเล่นส่วนกลาง ก็จะมีลมพัดตลอด (ต้องบอกว่ารายละเอียดการออกแบบที่นี่เยอะจริงๆ เป็นโครงการใหญ่ แต่ใส่ใจรายละเอียดมากๆ จนได้รับรางวัลการันตีในเรื่องการออกแบบมาด้วยนะครับ)
แนวทางการออกแบบที่นี่ใช้Theme แบบ Scandinavianใครคิดไม่ออกคิดถึงIKEAครับ Design จะออกมาแบบไม้ๆสีอ่อนๆ ดูเบาๆสบายตา ผมว่าเป็นแนวที่คนรุ่นใหม่จะชอบแนวนี้มากแน่ๆครับ มันดูไม่ Modern เกิน ดูแบบว่า hip hip ดีอ่ะ ชอบๆอ่ะ และแนว Scandinavian นี้ไม่ได้สะท้อนมาในส่วนกลางอย่างเดียวนะครับFurniture ในห้องที่ให้มา หรือ ห้องน้ำในห้องในห้อง ก็ยังคงคุม Theme มาให้อีก ผมว่าทีม Design ของทางพฤกษาทีมนี้เค้าดูแลThe Reserve, Chapter One มาหลายโครงการแล้ว เค้าคุม Theme ได้ดีมาทุกโครงการ ดังนั้นพอตึกเสร็จผมว่าสวยชัวร์ๆ ผมเชื่อมั่นครับ
เห็นเซลล์บอกว่า ล่าสุดโครงการนี้เพิ่งไปคว้ารางวัล Development Marketing Thailand และBest Development Marketing จากAsia Pacific Property Award 2018 – 2019 เป็นตัวยืนยันถึงการออกแบบที่ใส่ใจในรายละเอียดมากๆนะครับ (เข้ามาดูที่โครงการแล้วจะรู้ละเอียดเลยครับ เซลล์ที่นี่เค้าน่ารัก อธิบายดีมากๆ)
// แบบห้อง \\
อย่างที่บอกไปว่าตึกที่นี่มี 8 ตึก ห้องเกือบทั้งหมดของโครงการจะเป็นห้อง Studio และห้องแบบ One Bedroom นะครับ ที่นี่เน้น Package ห้องเล็กๆ คนจับต้องได้เอื้อมถึงได้
ในส่วนของห้อง มีทั้ง One Bedroom ซึ่งเป็นห้องที่วิวสวย มองไปเห็นส่วนกลางด้วยนะครับ (แต่เอาจริงๆก็ไม่ใช้ห้องที่ใหญ่อะไรนะครับ ขนาดแค่ 29 ตร.ม.เอง) การ Design ห้องจะเป็นแบบ Sofa อยู่ปลายเตียง และมีประตูกั้นห้องปิด-เปิดได้ จะออกแนวห้องแบบอนันดาหน่อยๆ ผมว่าเป็นห้องที่ Hybridถ้าอยากจะได้ห้องใหญ่ๆก็เปิดประตูกลางไว้ ถ้าอยากจะได้ความ Private หน่อยก็ดึงประตูมากั้นกลาง
ส่วนห้องแบบสองห้องนอน เกิดจากการเอาห้อง Studio มา Combineนะครับ ทางเซลล์บอกว่าทั้งโครงการมีเพียง 40 ห้องเท่านั้นเอง จัดได้ว่าเป็น Rare Itemสุดๆเลยอ่ะ
ห้องแบบสุดท้ายซึ่งถือเป็นHighlight ของที่นี่เลยคือ ห้อง Studio ขนาด 22.57 ตารางเมตรนะครับ ที่ Sale Office มีห้องตัวอย่างให้ดู ความรู้สึกของผมที่มีต่อห้องแบบ 22.57 ตารางเมตร ผมว่า Layout ลงตัวดีนะครับ เข้ามาเป็นครัวและห้องน้ำ ถัดมาเป็นห้องนอน+Living เล็กๆ ประกอบกับความสูงของห้องที่ 2.70 เมตร ซึ่งช่วงนี้เค้ายังมีโปรโมชั่นแถมประตูบานสไลด์ยิ่งทำให้ห้องดูเป็นสัดส่วน ช่วยให้รู้สึกห้องใหญ่ขึ้น อยู่ได้จริง ไม่อึดอัด ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นห้องแบบ 1ห้อง ในราคาเพียงแค่ 2.4 ล้าน ผมมองว่าคนที่อยู่ที่นี่ ส่วนใหญ่เค้าน่าจะใช้ห้องเอาไว้นอนเป็นหลัก ส่วนเวลาทำกิจกรรมต่างๆ หรือทำงาน ก็ไปใช้ที่ส่วนกลางของโครงการแทน มันดูจะเป็น Lifestyle ของคนรุ่นใหม่จริงๆนะครับ
โดยรวมๆ ถ้าผมจะเลือกลงทุนห้องที่นี่ ผมจะเลือก Studio นะครับ เพราะราคาห้องก็ไม่แพง ผ่อนสบายๆ ผมเชื่อว่าคนอยู่ที่นี่ จะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับส่วนกลางครับ เพราะเค้าจัดมาได้เต็ม จุใจจริงๆ ห้องก็เอาไว้นอน เอาไว้พักผ่อนเล็กๆน้อยๆพอแล้วหล่ะ 555
// ข้อเสีย \\
ถ้าจะมีสิ่งเดียวที่ทำให้ต้องคิดเยอะๆที่สุดเกี่ยวกับโครงการChapter One Eco ผมว่าคงจะเป็นเรื่องของทำเลครับ เพราะมันไม่ได้ติดรถไฟฟ้า การเดินทางถ้ามีรถผมว่าไม่ยากนัก แต่ถ้าจะไปรถสาธารณะคงจะต้องพึ่งพา Shuttle Bus ของทางโครงการเยอะหน่อยครับ
// สรุป \\
ผมว่า โครงการนี้ออกแบบมาได้ดี ส่วนกลางใหญ่โต น่าใช้ น่าเล่น จัดว่าเป็นคอนโดที่ให้ Product ที่คุ้มค่ามากๆ ถ้าเทียบกับคอนโดใน Segment2-3 ล้านบาทในโซน กทม. ถึง นนทบุรีถ้ามองจากมุมมองการซื้อหลายมุมผมว่า คอนโดตัวนี้น่าสนใจ
มองจากมุมมองการลงทุน : ผมเชื่อว่าช่วงก่อนโอน เวลาคนมาดูเห็นส่วนกลางจริงๆ เห็นบรรยากาศจริงๆในคอนโด น่าจะขายต่อช่วงก่อนโอนได้ไม่ยาก แต่ ๆ ๆ ๆ ต้องดูจังหวะด้วยนะครับ เพราะที่นี่มีหลายตึก ตึก H ด้านในจะเป็นตึกที่เสร็จก่อน ซึ่งถ้าเสร็จก่อนส่วนกลางยังไม่สมบูรณ์อาจจะทำให้คนมาซื้อต่อไม่ค่อยจะอินนะครับ
มองมุมการถือระยะยาว ปล่อยเช่า : ผมคิดว่าระยะยาวพอคอนโดนี้มีคนมาอยู่เยอะๆ เกิดความเป็นชุมชม เกิดบรรยากาศน่าอยู่ ที่นี่ปล่อยเช่าไม่น่าจะยากนะครับ เพราะคนไทยที่ทำงาน Zone พระราม 9 ก็น่าจะเข้ามาเป็นลูกค้าเช่าได้ ยิ่งห้องเล็กๆ ค่าเช่าไม่แพง หมื่นนิดๆ ผมว่าคนทำงานเช่าได้ครับ
ซื้อเอาไว้อยู่เอง : ส่วนกลางใหญ่โต บรรยากาศดีๆ ถ้าคุณมีกำลังซื้อ ผมว่าซื้อไปเถอะครับ เพราะทำเลนี้ยังไงก็น่าลงทุน ซื้อแล้วไม่ได้มาอยู่ เอาไว้มาใช้ส่วนกลาง มานั่งทำงาน มาใช้ Fitness มาว่ายน้ำ แค่นี้ก็คุ้มแล้วจริงๆนะ ผมก็ทำแบบนี้กับคอนโดใกล้ๆ บ้านผม ห้องจริงๆก็ปล่อยเช่าให้ลูกค้า ส่วนตัวเราก็มาเดินเล่น ว่ายน้ำ เล่น Fitnessใช้ส่วนกลางดีๆสบายใจ หิหิหิ (ตอนนี้มีPromotion แต่งครบเริ่มต้นที่ 2.4 ล้านบาท และรับฟรี Living Set เมื่อซื้อในงานวันที่ 2-3 มิย. นะครับ ลองไปดูกันได้ครับ)
สนใจลงทะเบียนได้ตาม link ข้างล่างนี้ได้เลยนะครับ
ถ้าชอบเนื้อหา เข้าไปกด Like กันที่เพจ #WhyIBuyThisCondo
หรือจะกด follow เพื่อติดตามเพจผมก็ได้นะครับ
www.facebook.com/whyibuythiscondo/