เวลาที่ผมเลือกซื้อคอนโด เรื่อง location เป็นปัจจัยสำคัญมากๆ ย่านที่อยู่แล้วมี Lifestyle ,มีความ Unique ,มีความเป็น Residential มากๆ ในกรุงเทพเนี่ย ก็เห็นจะมีแต่ย่าน ทองหล่อ กับ อารีย์ หล่ะครับ ซึ่ง NUE EVO ARI เค้าตั้งอยู่ในซอยอารีย์ 1 ซึ่งเป็นซอยที่ของกิน ร้านอาหารดีๆ street food มีอยู่มากมาย จะไป community mall ก็แค่ข้ามถนนก็ถึง La Villa Ari แล้ว เดินออกไป 350 เมตรก็ถึงสถานีรถไฟฟ้า BTS อารีย์แล้ว จัดว่าทำเลที่นี่คือ ดีงามสุดๆ!!! (ดูพิกัดได้ตามนี้ https://goo.gl/maps/CmS1khuJ1eRAQKBn9) เรื่องถัดมาเวลาซื้อคอนโดก็จะดูราคามาประกอบกันครับ คือถ้าทำเลดีแต่ราคาแพงเกิ้น ก็ไม่น่าซื้อ แต่สำหรับ NUE EVO ARI ผมว่าราคาที่เค้าทำออกมา 1 ห้องนอน เริ่ม 3.9 ลบ.* และ 2 ห้องนอน เริ่ม 6.4 ลบ.* เฉลี่ย 155,000 บาทต่อตารางเมตร มันเป็นราคาคอนโดที่make sense สุดๆเลยครับ เรียกได้ว่าราคานี้ ถูกกว่าคอนโดมือสองหลายๆตัวในย่านอารีย์นี้เลยครับ เอาว่าแค่สองเหตุผลนี้ NUE EVO ARI ก็จัดว่าเป็น MUST HAVE คอนโดแล้วนะ สำหรับคนที่ทำงานในย่านพหลโยธิน หรืออาศัยอยู่แถวๆอารีย์อยู่แล้วอยากจะขยับขยาย หรือ คนที่อยากจะหาคอนโดดีๆซื้อเก็บเอาไว้เป็นทรัพย์สินระยะยาวต้องเข้ามาดูที่นี่ครับ เข้าเว็บไซต์ไปลงทะเบียนรับข้อเสนอพิเศษกันไว้ได้ครับ https://nobleurl.com/35by5Iz… จะบอกว่าพูดแค่นี้แล้วจบ review เดี๋ยวคนจะหาว่าสั้นไป 555 งั้นเรามาว่าเรื่องรายละเอียดของคอนโดนี้กันต่อนะครับ เรื่องรายละเอียด Basic fact ของ NUE EVO ARI คือ เป็นคอนโด High rise สูง 42 ชั้น ตั้งอยู่บนพื้นที่ 2 ไร่ มีจำนวนunit 488 unit (ผมถือว่า เป็นคอนโดที่ความหนาแน่นกำลังดีนะครับ) มีอาคารจอดรถแบบ conventional parking แยกออกมา จอดรถได้ 51% (ถือว่าที่จอดพอเพียงแล้วครับ เพราะห่างจากรถไฟฟ้าไม่ไกล สิ่งที่ดีงามคือ เป็นแบบขับจอดด้วย ผมว่าดีกว่า ลิฟต์รถเยอะเลยนะครับ เพราะ โครงการใหม่ๆสมัยนี้จะมาเป็น ลิฟต์จอดรถกันผมแล้ว ใช้งานสู้ขับจอดไม่ได้ครับ) ส่วนกลางก็จัดมาให้ครบครัน ที่ชั้น 1 จะเป็น VERDANT LOBBY แต่งมา style minimal เรียบๆมีความเป็น noble สุดๆ ใช้วัสดุพวกหินขัด กับกระจก ผมว่าออกมาดูสวยดี (feeling คล้ายๆกับ sale office ไปดูกันได้ครับ) ใน lobby เค้าจะใช้กระจกบานใหญ่ทำให้ดูสูง ดูโปร่ง และเชื่อมต่อกับสวน ALFRESCO YARD ที่เป็นเหมือน court yard ตรงกลางระหว่างตึกจอดรถกับ ตึกอยู่อาศัย ที่ชั้น 6 จะเป็นส่วนกลางหลักๆที่มีทั้ง Fitness, Boxing corner, Yoga training studio, Evoke Co-working space, Cinephile society(ห้องดูหนัง), Kids club และชั้นนี้จะมีทางเชื่อมเพื่อเดินไปที่ดาดฟ้าของตึกจอดรถ ซึ่งจะมี สระว่ายน้ำ (Gravity pool) มีสวนชื่อ Sun Garden มีสนามเด็กเล่นแบบ outdoor ด้วยอีกนะ โอ้ย !!! เอาส่วนกลางชั้นนี้คือครบ และ น่าใช้งานมากๆ มาอยู่ zone ตรงนี้กันได้ทั้งวันเลยนะครับ (แอบบอกใบ้ว่า ที่ชั้น 6 เค้ามีห้องพักอาศัยด้วยนะครับ ใครซื้อห้องชั้นนี้ไป คือ เดินมาใช้ส่วนกลางเหล่านี้แบบ chill ๆ เลยอ่ะ ดีสุดๆ อยากได้อ่ะ 555) ที่ชั้น 34 ก็จะมี ARI SKY LOUNGE ซึ่งเป็นบาร์ + co-kitchen มีที่นั่ง chill เอาไว้ดูวิวเมือง และสามารถเดินเชื่อมออกมาที่สวน Ari sky garden ด้านนอก มาทำ BBQ ได้ด้วย ตรงนี้ก็ดีงามครับ เพราะชั้น 34 วิวสวยสุดๆแน่นอน ที่ดาดฟ้าของตึกพักอาศัย ก็จะมี SKY PATIO สวนด้านบนเอาไว้เดินเล่นออกำลังกายได้ มีที่เล่นพัดกอล์ฟ (Putters …
ต้องบอกว่าแยกพระราม 9 ถือว่าเป็นย่าน New CBD จริงๆครับ เพราะเต็มไปด้วย ห้างหรู ตึก Office และ Mega-project ในอนาคต จะเดินทางเข้าอโศก เข้าในเมืองก็ง่าย ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เราจะเห็นคอนโดหลายๆตัวมาสร้างรอบๆแยกพระราม 9 และคอนโดตัวล่าสุดที่มาเปิดตัวก็คือ NUE District R9 โปรเจ็คคอนโดใหม่จากทาง noble ซึ่งส่วนตัวแล้วผมมีห้องของ noble หลายที่นะ หิหิหิ ผมว่าซื้อแล้วสบายใจดีเพราะเชื่อมั่นได้ในการเลือกทำเลที่ดีมากๆ, การออกแบบแนว modern minimal ที่ timeless และเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งผมว่า NUE District R9 มีรายละเอียดที่น่าสนใจหลายจุดนะครับ ถ้าสนใจลงทะเบียนได้ที่ https://nobleurl.com/3Bb9VKs มาว่ากันเรื่อง basic fact นิดนึงของ NUE District R9 นะครับ ตัวคอนโดสร้างบนพื้นที่ 8ไร่ (ใหญ่มากๆ) อาคารจะแบ่งออกมาเป็น 2 ตึกคือ ตึก R (สูง33ชั้น) และ ตึก 9 (สูง41ชั้น) โดยจะมี Podium ชั้น 1-7 ที่เชื่อมกันทำให้ลูกบ้านสามารถไปใช้งาน facility ได้ทั้ง 2 ตึกเลย ทั้งโครงการมีจำนวนห้องพัก 1,441 ยูนิต + 1 ร้านค้า (ถ้ามองจำนวนห้องอาจจะเห็นว่าที่นี่เป็น project ใหญ่นะครับ แต่เทียบกับพื้นที่ 8 ไร่ >> เท่ากับคอนโดมี 180 ยูนิต ต่อไร่ ก็คือว่าไม่ได้แน่นอะไรมากมายนะครับ และยิ่งดูจำนวนส่วนกลางแล้ว จะยิ่งรู้สึกว่า ใช้งานกันได้พอเพียงแน่นอนครับผม) มีที่จอดรถประมาณ 40% หรือประมาณ 600 คัน (ในความเห็นผมนะ ผมว่าที่จอดที่นี่น่าจะไม่เต็มง่ายๆ เพราะด้วยทำเลที่ใกล้รถไฟฟ้า 180เมตร และห้องบางส่วนที่เป็นต่างชาติมาซื้อ หรือเป็นคนเช่าในย่านพระราม 9 ไม่จำเป็นต้องใช้รถกันครับผม) ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการอยู่ที่ประมาณ 13X,XXX บาทต่อตารางเมตร ต้องบอกว่าราคาดีมากๆ (ดีกว่าคอนโดเพื่อนบ้านหลายตัวเลย!!!) และยิ่งเราเห็น pack ราคาห้องไม่ใหญ่ จับต้องได้ง่าย ยิ่งทำให้ NUE District R9 น่าสนใจครับ ส่วนกำหนดสร้างเสร็จอยู่ที่ต้นปี 2568 อีกประมาณ 3 ปี ผมว่า …
ตามหาคอนโด #ห้องใหญ่ #ใจกลางเมือง #อารมณ์เหมือนอยู่บ้าน ที่งบ 20 ล้านบาท (บวก/ลบ) …. จริงๆสมัยนี้ถ้าเพื่อนๆจะหาบ้านเดี่ยวทำเลดีๆ เข้าเมืองสะดวกผมว่าต้องมีเงินสัก 20-30 ล้านบาทถึงจะซื้อได้ แต่ถึงจะซื้อได้ ทำเลบ้านก็ต้องออกนอกเมืองแบบพวกบางนา , พระราม 2, ราชพฤกษ์, กรุงเทพกรีฑา, etc. เอาว่าบ้านเดี่ยวราคามันก็เพิ่มขึ้นมาเยอะ จนทำเลที่อยู่ไกล กลายเป็นบ้านราคาที่สูงขึ้น ดังนั้น ถ้ามาลองมองว่า เราสามารถจะหาคอนโดอะไรที่มันอยู่กลางเมืองได้ แล้วมันอยู่กันอย่างเป็นครอบครัวได้ สัก 3 ห้องนอน ขนาด 100 ตร.ม. (+/-) ถ้ามีงบเดียวกับซื้อบ้านได้ 20 ล้าน (+/-) ผมว่ามันก็น่าจะเป็น ไอเดียในการหาที่อยู่อาศัยที่ดีนะครับ คอนโดอาจจะไม่ได้พื้นที่ใหญ่เท่ากันบ้าน แต่เราก็แลกด้วยความสะดวกในการเดินทาง การใช้ส่วนกลางง่ายๆ ก็มองลองดูกันครับ …. ถ้าเราวิเคราะห์ง่ายๆนะครับ 20 ล้าน เราหา 100 ตร.ม. ดังนั้น คอนโดที่อยู่ใน range …
หลังจากที่ได้ยุ่งเกี่ยวกับวงการคอนโด อสังหา ก็ทำให้ผมพอจะได้เห็นศักยภาพในการทำเงิน การทำงานแบบแลกกับเงิน การหาเงินมาจากการประกอบธุรกิจจริงๆมันเป็นอย่างไร (ก่อนหน้านี้ผมก็ทำงานกินเงินเดือนกันไป ไม่ได้คิดอะไรมากมาย) ถือว่าเป็น lesson learn ที่ได้มาทั้งโดยความเจ็บปวด และความสนุกครับ เราทำงานไปหาเงินกัน หาเงินให้มากๆ ก็ไม่รู้จะเอาเงินไปใช้ทำอะไรเหมือนกัน 555 แต่ที่แน่ๆ เพราะเจ้า “เงิน” นี่หล่ะที่ทำให้คนสังคมเดินไป หลายๆคนทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปก็เพื่อหาเงินกัน วันนี้ผมเลยจะมาแชร์ข้อคิด บทเรียนที่ผมได้จากการหาเงิน ให้เพื่อนๆฟังกันนะครับ . คนเราไม่มีวันพอ !!! เราไม่มีวันมีเงินเยอะพอ เพราะเราจะเทียบกับคนที่มีเงินเยอะกว่าเสมอ อันนี้ก่อนหน้านี้ผมไม่เชื่อนะ แต่พอเราหาเงินได้เยอะขึ้นจริงๆ อย่างแต่ก่อนหาลูกค้ามาได้ บอกได้ค่าดำเนินการ 50,000 บาท เราก็คิดว่า ตัวเลขนี้มันเยอะแล้วนะ แต่พอทำไปทำมา ก็รู้สึกว่า 50,000 บาทมันกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ทำไมเราไม่สามารถหาเงินได้ทีละ 100,000 บาท หรือ 200,000 บาทหล่ะ มันจะเกิดคำถามแบบนี้ขึ้นมา หรือ พอเราคิดจะซื้อคอนโดเราก็มองว่าคอนโดห้องละ 5 ล้านบาท มันก็ได้สิ่งที่ ok แล้วนะ …
มีหลายๆคนมักจะหลังไมค์มาถามผมว่า จะซื้อคอนโดนี้ดีไหม? โครงการนี้ควรซื้อไหมคะ? พี่ว่าซื้อที่นี่แล้วราคาจะไปต่อไหม? ลงทุนปล่อยเช่าได้ไหมครับที่ตึกนี้ ? วันนี้ผมจะเอาวิธีการตอบคำถามเหล่านี้มาเล่าให้ฟังครับ ว่ามันมี logic ประมาณไหนในฐานะ blogger เรื่องอสังหา ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีคนมาถามผมเรื่องโน่นนี่นั้น โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับการซื้อคอนโด และการให้วิจารณ์ว่าคอนโดนั้นๆมันดีหรือไม่ดี ซึ่งผมก็ภูมิใจที่ได้รับเกียรติจากเพื่อนๆคนอื่นที่ไว้ใจและมาถามคำถามนะครับ ทีนี่วันนี้เลยอยากจะมาเล่าว่า วิธีการคิด ในการตอบคำถามของผมมันอยู่ที่ไหน เผื่อเพื่อนๆอ่านแล้วจะรู้ จะได้ไม่ต้องมาถามผมอีก 555 (ล้อเล่นนะครับ) หวังว่าอ่านแล้วจะรู้ว่ามีวิธีคิดในการเลือกคอนโด project ไหนดีนะครับ.1.จริงๆแล้วการตอบคำถามเหล่านั้นมันจะ base จากวิธีคิดของผมซึ่งอาจจะไม่ได้ตรงกับเงื่อนไข ของคนถามนะครับ มาเริ่มกันเลย เวลาลูกเพจมาถาม มักจะเริ่มมาจากการที่เค้ามี project ที่สนใจอยู่แล้ว อย่างเช่น “ผมคิดว่าจะซื้อ The Line ราชเทวี คุณวินคิดว่าอย่างไร ?” ผมก็จะคิดอย่างนี้ครับ ต้องบอกก่อนว่า คนถามส่วนใหญ่ ถ้าเค้าหยิบ project ไหนมาถาม แสดงว่าใจของเค้าไปอยู่กับ project นั้นแล้วนะครับ ซึ่งสำหรับผม ผมจะยังไม่เจาะไปที่ project นั้นอย่างเดียว ผมมักจะย้อนไปที่คำถามว่าได้มอง …
ผมเข้าใจว่า คอนโดที่เป็นแบบ fully furnished นั้นซื้อง่ายครับ ซื้อมาแล้วห้องก็พร้อมเข้าอยู่ทันทีเลย ใครจะปล่อยเช่า ก็คงจะคิดว่า สบายๆ ก็ให้เช่าไปทั้งๆที่ห้องมาอย่างนั้นนั่นหล่ะ แต่ ๆ ๆ ๆ จริงๆแล้ว คอนโดปล่อยเช่า เรามีคู่แข่งอยู่เยอะหลายห้องนะจ๊ะ ยิ่งถ้าเราไม่ทำอะไรเลย ห้องเราก็จะเหมือนกับห้องคนอื่นๆอีกหลายสิบ หลายร้อยห้อง แล้วเมื่อไหร่ คนเช่าจะเลือกห้องเราหล่ะ …. คิดๆๆๆ ดังนั้นวิธีการที่ง่ายที่สุดที่จะสร้างความโดดเด่น แตกต่างให้กับห้องเราก็คือ การตกแต่ง แต่มันเป็นการตกแต่งแบบ light weight สบายๆ เพราะส่วนใหญ่ เราใช้เฟอร์เดิมอยู่แล้วนิ มาลองดูตัวอย่างกันเลยครับห้องนี้เป็นห้องใหม่ เพิ่งจะตกแต่งเสร็จที่ VENIO สุขุมวิท10 เดิมทีเป็นห้องที่มีเฟอร์นิเจอร์ให้มาแบบ fully furnished อยู่แล้วครับ ผมมาตกแต่ง touch up ซะมากกว่า โดยเน้นงานแบบแห้ง ไม่ต้อง require ช่างอะไรมากมาย มาไล่ดูกันเลยว่า เราควรจะทำเรื่องอะไรกันบ้าง. 1. Wallpaper : อันนี้สำคัญนะครับ …
“กด undo ตรงไหน มีทางได้ไหมให้แก้ตัว” หลังจากที่ผมคลุกคลี ลงทุนในวงการคอนโดมา มีหลายอย่างที่ผมได้เรียนรู้ และ มีหลายอย่างที่มุมมองมันค่อยๆเปลี่ยนไปจากวันแรกที่เริ่มเข้ามา ก็เลยอยากจะเล่าให้เพื่อนๆฟังว่า จากประสบการณ์โดยตรงของตัวผมเอง ผมได้เรียนรู้อะไรบ้าง ถ้าให้กลับไปทำอีกรอบ ไปลงทุนอีกรอบ จะทำอะไร ไม่ทำอะไรเนอะ 1. ซื้อห้องเล็กๆเยอะไป … พอชีวิตเปลี่ยนไป อยากได้ห้องใหญ่ขึ้นก็หมดกระสุนแล้ว …. ผมว่าหลายๆคนคงจะเป็นอย่างนี้คือ คอนโดห้องแรกๆที่ซื้อจะเริ่มจากซื้อห้องเล็กก่อน อย่างตัวผมเอง ช่วงแรกๆที่ซื้อลงทุน ก็จัดห้องหนึ่งนอนมาหลายห้อง (กระจายอยู่ในเมือง หลายๆที่) ซื้อไปซื้อมาจนวันนึงกลับมามอง ลองคิดว่า แล้วถ้าผมจะไปอยู่คอนโดจริงๆ ครอบครัวผมจะเข้าไปอยู่ได้ยังไงเนี่ย สมาชิกในบ้านมีตั้ง 4 คน ทำไมตอนนั้นไม่ซื้อห้องใหญ่ๆไปเลยทีเดียว กว่าจะรู้ตัวก็สายเสียแล้วครับ มาย้อนดูเราน่าจะซื้อห้องแบบ 100 ตร.ม.++ สัก 1 ห้องเก็บไว้ ดีกว่าไปซื้อคอนโดหนึ่งห้องนอน 34 ตร.ม. x 3 ห้อง เพราะอนาคตเกินอยากย้ายเข้ามาอยู่คอนโดก็สามารถจะมาอยู่ได้ ดูตรงกับ lifestyle เรามากกว่า และก็แอบมองว่าคอนโดห้องใหญ่มันมีความ …
ต้องบอกว่าปีๆหนึ่งผมดูคอนโดมาเยอะเหมือนกันนะครับ ก็จะเห็นได้ถึงความแตกต่างของแต่ละคอนโด แต่สิ่งที่ผมเห็นได้อย่างชัดเจนที่ Scope Promsri ก็คือความคิด detail ที่ทางเจ้าของได้ใส่ลงไป มีการคิดแบบอินไซท์เอาท์ทำให้ตัวคอนโดมีคาแรกเตอร์และมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ซึ่งพอกลุ่มเป้าหมายมันชัดเจน การออกแบบดีไซน์,การจัดส่วนกลาง,การจัดspec ของที่ให้มาในห้องมันก็จะชัดเจนไปด้วยครับ (ผมแอบเห็นในหลายๆ Developer เวลาทำคอนโดจะคิดจากภาพใหญ่แบบ outside in คิดว่าภายนอกทำยังไงให้ตึกมันดูสวย ทำยังไงให้มันดูเว่อร์ บางทีก็ลืมไปว่าคนอยู่อาศัยเค้าไม่ได้รู้สึกแบบนั้นไปด้วย หรือมันทำให้ product ที่ออกมากลับกลายเป็นห้องที่โค้งบิดเบี้ยวไม่ได้ตอบโจทย์คนอยู่อาศัยอย่างแท้จริง) ในบทความนี้ต้องบอกว่าผมได้รับโอกาสดีดีที่ได้คุยกับคุณยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ CEO และเจ้าของบริษัท Scope ทำให้ผมได้พบกับ insight ความคิด วิธีการที่ปั้น Scope Promsri ออกมาจนเป็นอีกหนึ่งในคอนโดที่ได้รับกระแสที่ค่อนข้างดีจากลูกค้า คนที่ซื้อไปก็บอกต่อพาเพื่อนๆมาซื้อ (หลายคนที่ซื้อที่ผมรู้จัก เค้าจะรู้สึกได้เลยถึงความชัดเจนของสิ่งที่ Scope Promsriให้ ) วันนี้เลยจะมาขอพูดเกี่ยวกับ Scope Promsri อาจจะในมุมเบื้องหลังนิดๆ อยากจะให้ฟังคนที่เค้าคิดรายละเอียดมาจริงๆมันเป็นอย่างไรบ้างนะครับ ก็ลองติดตามอ่านดูแล้วกันอาจจะไม่ได้เหมือนรีวิวคอนโดทั่วไปแต่ผมว่าอ่านแล้วน่าจะ in ไปกับ product ตัวนี้จริงๆครับ หิหิหิ เริ่มจากส่วนแรกที่ผมเห็นหลายๆคนที่ได้อ่านบทความเกี่ยวกับ Scope Promsri ก็จะได้เห็นถึงจำนวนของสเปคของที่ให้มาในห้อง ซึ่งถือว่าให้มาเยอะมาก !!! ไม่ว่าจะเป็น โซฟา Prado จาก Ligne Roset ออกแบบโดย Christian Werner ,เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวจาก MÍELE , และยังมีอีกหลายๆอย่าง (เดี๋ยวผมค่อยพูดในบทความ) ซึ่งผมว่าตรงนี้เป็นจุดต่างใหญ่ของคอนโดนี้เลย เพราะตัว Scope Promsri เค้าให้ของภายในห้องมาครบสมบูรณ์แบบเราหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย แต่ในความครบสมบูรณ์นั้นมันไม่ใช่คิดว่าแค่ว่ามีๆไปให้มันครบๆ แต่ๆๆๆมันเป็นความคิดแบบใส่ใจในรายละเอียดมาจริงๆครับ ถ้าอ่านแต่ specsheet อย่างเดียวก็อาจจะงงว่าอะไรมันเยอะแยะไปหมด มาไล่จากความคิด behind the scene กันดีกว่าครับ ว่าทำไมเค้าถึงให้สิ่งเหล่านั้นมา #อยากให้คนอยู่นอนหลับสบายเหมือนอยู่โรงแรม คุณยงยุทธพูดว่า มืดสนิท, เงียบสงัด, หลับสนิท อยากให้คนที่มาอยู่แล้วเค้านอนสบายนอนได้หลับเต็มตื่นจริงๆ … จากแค่ข้อความตรงนี้มันถอดออกมาได้หลายอย่างมากนะครับ เพื่อความมืดสนิท …
Lesson learn เรื่องอสังหา จากชีวิตในวัยเด็กของผม … บทความนี้ผมขอเอาประสบการณ์ตอนเด็กๆและวัยรุ่นของผมมา share นะครับ ยิ่งตอนนี้มีลูก ก็ยิ่งคิดว่า การสอนลูกเรื่องอสังหา เป็นสิ่งที่จำเป็นนะครับ เลยอยากจะเล่าว่าเด็กๆผมเจออะไรมา เผื่อมันจะช่วยให้เพื่อนๆที่เป็นพ่อ เป็นแม่คนมองไปว่า มีลูกแล้วจะต้องสอนอะไร หรือควรจะทำอะไร ไม่ทำอะไรเนอะ อ่านกันสนุกๆแล้วกันนะครับ 1. เรียนในเมือง อยากมีบ้านในเมือง อิจฉาเพื่อนๆที่มีบ้านในเมือง สมัยตอนที่ผมยังเรียนชั้นประถมผมเรียนโรงเรียนแถวแถวสาทรครับทุกวันก็จะต้องตื่นตอนเช้าเพื่อจะมาโรงเรียนให้ทัน เวลาที่คุณพ่อมาส่งผมที่โรงเรียนผมก็จะมองไปริมถนน มองไปในซอยย่านสาทร ย่านสีลมที่ขับผ่านแล้วก็นึกอิจฉาอยากจะมีบ้านอยู่ใกล้ใกล้โรงเรียนบ้าง ถ้าเราได้มีบ้านแบบนั้นมันก็คงจะดีคงจะเดินทางไม่ต้องตื่นเช้ามาก หรือที่ผมสังเกตบ้านเพื่อนเพื่อนหลายหลายคนที่อยู่สาทรเค้าก็มาโรงเรียนกันสายๆ chillๆ อาจจะเป็นเพราะว่าบ้านใกล้เลยตื่นสายละมั้ง คือมันก็เป็นแค่ความคิดตอนเด็กเด็กว่าทำไมพ่อแม่เราไม่ซื้อบ้านอยู่ในเมือง ทำไมเราจะต้องไปอยู่ฝั่งธนซะไกลอย่างนั้นนะครับ ผมคิดว่าพอโตขึ้นมามันก็เป็นหนึ่งในแรงผลักดันให้เราอยากที่จะหาบ้าน หาคอนโดในเมือง ยิ่งพอเริ่มมีลูกก็เริ่มจะคิดวางแผนว่าเราควรจะมีคอนโดไว้ซักหนึ่งที่อยู่ในเมือง เพื่อจะยนย่อเวลาไม่ต้องเผชิญรถติดมากๆ ลูกจะได้มีเวลาไปทำโน่นทำนี่มากขึ้น มีความสุขกับชีวิตมากขึ้นครับ ถามว่าเราเรียน รู้อะไรจากเรื่องนี้ก็คงจะเป็นการซื้อทรัพย์สินเอาไว้ในเมืองแล้วเราได้ใช้งาน … คิดง่ายง่ายว่าถ้าผมต้องเรียนในเมืองอยู่ 16 ปีเป็นอย่างน้อย ทรัพย์สินที่ผมซื้อที่ปีที่1 แล้วเอาไปขายที่ปีที่ 16 แล้วมันเป็นที่ดิน,เป็นบ้าน,เป็นคอนโดที่อยู่ในเมืองยังไงเวลา 16 ปีผ่านไปมูลค่ามันเพิ่มขึ้นมากอยู่แล้ว ยังไงก็คุ้มครับยิ่งถ้าได้อยู่ก็เหมือนคุ้มค่าได้อยู่ฟรี ดังนั้นพอมีโอกาสโตขึ้นมาพอจะมีเงินเก็บบ้างก็ควรที่จะหาซื้ออสังหาในเมืองทิ้งไว้บ้างนะครับ . 2. …
พาไปดูงาน design เก๋ๆ ที่ Metris Pattanakarn Ekkamai , คอนโดออกแบบแนว mid century modern พร้อมกับการ featuring กับ Illustrator ตัวแม่ของไทย Jirayu Koo :: ถ้าเพื่อนๆได้ขับรถผ่านไปย่านพัฒนาการ-เอกมัย นอกจากจะได้เห็นถึงความเจริญเติบโตของถนนหนทาง และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของย่านนั้นแล้ว หลายๆคนคงจะ spot ได้ถึงตึกคอนโดสีเหลืองมัสตาร์ด สูงดูโดดเด่นด้วยรูปทรง shape เท่ห์ๆ แน่นอนครับ ตึกนั้นคือ คอนโด Metris Pattanakarn Ekkamai จากทาง Major Development ตัวผมได้มีโอกาสแวะเข้ามาดูตึกนี้มา ผมว่ามีอะไรเจ๋งๆ ที่สาย art หลายๆคนน่าจะชอบนะครับ เริ่มกันตั้งแต่ รูปทรงของตัวตึก และ การตกแต่งภายในของ lobby นั้นได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมแบบ Mid-century modern ที่จะเป็นงานที่เน้นความเรียบง่าย มีการใช้รูปทรงเลขาคณิต (สี่เหลี่ยม วงกลม …